Jeep Wrangler 2018 บุกยุโรปเดือนกันยายนนี้

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 13 ก.ค 2561
แชร์ 8

แชมป์รถออฟโร้ดทุกสถาบัน Jeep Wrangler ใหม่ เป็นรถที่มีความสามารถที่สุด ให้ความสบายและการควบคุมรถระดับสูงสุดเพื่อการใช้งานทุกวัน

Jeep Wrangler

Jeep Wrangler Sahara

ความสามารถ 4x4 ของ Jeep ที่ไปได้ทุกที่ระดับตำนานรุ่นใหม่

วิศวกรรมเพื่อเชี่ยวชาญเส้นทางออฟโร้ดที่ท้าทายที่สุด Jeep Wrangler คือผลของความเป็นผู้นำมากกว่าเจ็ดสิบห้าปีใยการพัฒนาระบบ 4x4 มีให้เลือกสองระบบคือ Command-Trac ในรุ่น Sport กับ Sahara และ Rock-Trac ระบบมาตรฐานในรุ่น Rubicon ที่ทนทานและสามารถที่สุดในการขับแบบออฟโร้ด ทั้งสองระบบมีเกียร์สโลว์สองสปีด Selec-Trac ใหม่เพื่อการสอดส่องอย่างต่อเนื่องกับจัดการของแรงบิดที่ถูกแบ่งไปตามล้อหน้าและหลัง

ระบบ Command-Trac 4x4 มีเกียร์สโลว์สองสปีดพร้อมอัตราทดเกียร์ต่ำ 2.72:1, แกนเพลาทนทานรุ่นใหม่จาก Dana พร้อมอัตราแกนท้าย 3.45 ในรุ่นใช้น้ำมันและ 3.73 ในรุ่นดีเซล

ระบบทำงานแบ่งเป็นโหมดการขับ 4 แบบ (รวมเกียร์ว่าง):

  • 2H (Two-Wheel Drive High Range)
  • 4H AUTO (Full-Time Active On-Demand High Drive)
  • 4H Part-Time (Part-Time Four-Wheel Drive High Range)
  • N (Neutral)
  • 4L (Four-Wheel Drive Low Range)

Wrangler ใหม่มีเทคโนโลยี shift on the fly ซึ่งให้การเปลี่ยนเกียร์ระหว่าง 2WD กับ 4WD High range ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 72 กม./ชม. ในสภาวะปกติ Command-Trac ทำงานในระบบสองล้อ (2WD) และย้ายแรงบิดเครื่องยนต์เต็ม 100 ไปแกนเพลาท้าย

ด้วยการโยกก้านที่จัดทำเฉพาะไปที่เกียร์ 4WD High position คนขับเปลี่ยนไปโหมด 4WD ได้ที่เหมาะกับการขับขี่บนถนนลื่น เช่น ทราย, โคลน, หิมะ/น้ำแข็ง โหมด 4H สามารถใช้งานได้ทั้งในโหมด Auto ใหม่ เหมาะกับการใช้งานอย่างมั่นใจกับสบายในทุกสภาพถนนเพราะการสอดส่องกับจัดการอย่างต่อเนื่องของแรงบิดและการเปิด/ปิดการใช้งานอัตโนมัติของ 4WD เมื่อต้องรักษาแรงเฉื่อย หรือในโหมด 4H Part Time ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าแรงบิดจะถูกกระจายเท่ากันระหว่างแกนเพลาหน้ากับท้าย เพื่อรับมือกับเส้นทางออฟโร้ดที่ท้าทายมากๆ และต้องใช้เดินทาง คนขับใช้โหมด 4WD Low ไดด้วยอัตราทดเกียร์ต่ำ 2.72:1 ซึ่งเพิ่มแรงบิดเครื่องยนต์ไปอีก

เฟืองท้ายกันลื่น Trac-Lok ให้แรงบิดเสริมกับ grip บนถนนลื่น แรงเฉื่อยต่ำ เช่นทราย, ถนนลูกรัง, หิมะ/น้ำแข็ง

Jeep Wrangler Rubicon ให้ความสามารถในการขับออฟโร้ดที่เหนือกว่า และติดตั้งระบบ Rock-Trac 4x4 มีเกียร์สโลว์สองสปีดพร้อมอัตราทดเกียร์ต่ำ 4.0:1 กับแกนเพลาทนทานรุ่นใหม่ Dana 44 และตัวล็อคเพลาไฟฟ้า Tru-Lok เพื่อรับมือเส้นทางออฟโร้ดที่โหดสุดๆ

Wrangler ทุกรุ่นมีตรา "Trail Rated" ซึ่งพิสูจน์ถึงความสามารถในการขับ 4x4 ระดับตำนาน สมรรถนะระดับ Trail Rated เป็นผลของการทดสอบหนักต่างๆ ในด้านต่อไปนี้: แรงเฉื่อย, การลุยน้ำ, ความสามารถในการคุมรถ, การต่อประกบ และ ระยะเหนือพื้น

ใน Jeep Wrangler ใหม่ รุ่นตรา Trail Rated มีจุดเด่นต่อไปนี้:

  • ระบบ Command-Trac 4x4 พร้อมอัตรา 2.72:1 crawl ratio เป็นมาตรฐานในรุ่น Sport และ Sahara
  • ระบบ Rock-Trac 4x4 พร้อมอัตราเกียร์ "4LO" ที่ 4:1 และเฟืองท้ายล็อคได้ Tru-Lok เป็นมาตรฐานในรุ่น Rubicon
  • กันหินกระเด็นด้านล่างและตะขอพ่วงท้ายรถ
  • ขนาดมุมมาตรฐาน มุมประชิด (รุ่น Rubicon 2 ประตู) 36.4 องศา, มุมข้าม 25.8 องศา, มุมกลับ 30.8 องศา และระยะเหนือพื้นมากกว่า 25 ซม.
  • ลุยน้ำได้สูงสุด 76 ซม.
  • พ่วงได้สูงสุด 1,500 กก. ในรุ่น 2 ประตู และ 2,500 กก. ในรุ่น 4 ประตู

>>ทำไมต้องเดินตาม? Jeep ไม่ลงตลาดครอสโอเวอร์

Jeep Wrangler

Jeep Wrangler Rubicon

ดีไซน์ทันสมัย เฉพาะตัวของ Wrangler

Jeep Wrangler ใหม่ผลิตจากสุนทรียศาสตร์ดีไซน์การแกะสลักซึ่งเป็นที่จดจำได้ทันทีด้วยชุดการออกแบบฉบับดั้งเดิมของ Jeep: จากไฟหน้าทรงกลมสู่กระจังหน้าเจ็ดช่อง; จากซุ้มล้อรูปคางหมูสู่บานพับที่มองเห็นได้; จากกระจกหน้าพับได้สู่คานแท่งแบบสปอร์ต; จากประตูเอาออกได้สู่การจัดรูปแบบรับลมด้วยหลังคาแข็งหรือนิ่ม

ดีไซน์ภายนอกแบบใหม่ของ Wrangler นั้นแข็งแกร่งกับถึกด้วยมุมตั้งฉากที่กว้างและสายพานที่ต่ำลงพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทัศนียภาพที่ดีกว่า โดยเฉพาะบนเส้นทางหฤโหด

ทีมดีไซน์ของ Jeep ให้กระจังหน้าเจ็ดช่องในตำนานมีลักษณะทันสมัยขึ้นซึ่งแสดงบานเกร็ดกระจังหน้าด้านนอกทั้งหมดที่ ประจบกับไฟหน้า เพื่อสื่อถึงรุ่น CJ ในตำนาน ยอดของกระจังหน้าทรงหินโค้งถูกรวมเข้ากันเพื่อพลศาสตร์อากาศที่ดีขึ้น ในรุ่น Sahara และ Rubicon ไฟหน้ากับไฟตัดหมอก LED มีสีขาวชัดแล้วเพิ่มเข้าไปในรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของ Wrangler ไฟวิ่งเวลากลางวันถูกขยับไว้ข้างหน้าเปลวล้อรูปคางหมู มองจากท้ายรถ ไฟท้ายสี่เหลี่ยมดั้งเดิมมี LED

กระจกหน้าถูกขยับในองศาที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาพลศาสตร์อากาศ และมีดีไซน์รูปกลอนสี่ตัวบนยอดขอบกระจกเพื่อให้พับกระจกหน้าลงมาได้ง่ายและเร็ว ราวบนรถเชื่อมกับเสา A-pillars และยังอยู่กับที่แม้พับกระจกลง ทำให้กระจกมองท้ายยังอยู่ที่เดิมไปด้วย เปลวกันชนสีตามตัวถังแบบ Two-piece พร้อมปลายเสียบล่างสีดำเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Sahara

ประตูอลูมิเนียมใหม่ที่น้ำหนักเบา แข็งแรงมาก มีสกรูจาก Torx ติดอยู่บนบานพับเพื่อการเคลื่อนย้ายประตูได้ง่ายๆ Wrangler ทุกรุ่นมีราวสปอร์ตสีตามตัวถัง ซึ่งเชื่อมกับตัวถังและมีที่ดึงแถมมาให้ด้วย

Jeep Wrangler เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เพราะการผสานสิ่งต่างๆ แก่ผู้ใช้รถเพื่อสนุกกับการผจญภัยตากอากาศ, และมีกระจกหน้าแบบต่างๆ กับโซลูชันบนปลายยอดเพื่อให้ผู้ใช้เลือกรูปแบบการจัดแบบต่างๆ ได้ เพราะเป็นรถ 4x4 SUV เปิดหลังคาเฉพาะตัวรุ่นเดียวในตลาด Jeep Wrangler ใหม่ให้ชุดรูปแบบต่างๆ เพื่อมั่นใจได้ว่ามีอิสระในการรับอากาศมากขึ้น

หลังคาไฟฟ้า Sky One-Touch รุ่นใหม่ใช้ง่ายเสริมลักษณะของประโยชน์ใช้สอยกับการผจญภัยของ Wrangler ด้วยการให้ผู้ใช้พับหลังคาผ้าใบขนาด full-length ด้วยการกดปุ่มเท่านั้น หลังคาอีกสองแบบใน Wrangler ใหม่มีทั้งหลังคานิ่ม Zipperless Premium Sunrider (ไม่มีซิป) และหลังคาแข็งสามชั้น เอาออกได้ Freedom Top ที่เบากว่าและใช้ง่าย โดยเฉพาะหลังคานิ่ม Zipperless Premium Sunrider ได้รับการปรับปรุงด้วยการเพิ่มอีกสองโบว์เพื่อจัดการใยผ้า ดีไซน์ใหม่นี้ช่วยตัดเสียงลมและให้การใช้งานหลังคาง่ายขึ้นทั้งแบบเต็มบานและพับบางส่วน หลังคาแข็งแยกส่วนได้ Freedom Top มีโครงสร้างสามชิ้นใช้งานง่ายแล้วถูกพัฒนาด้วยการริเริ่มใช้แผงน้ำหนักเบา Freedom และ กลอนรุ่นใหม่ซึ่งทำให้การย้ายกับติดหลังคาทำได้เร็วขึ้น หลังคาแข็ง Freedom Top มีให้เลือกตามสีตัวถังหรือดำล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตำแหน่งของล้ออะไหล่ท้ายรถถูกย้ายใหม่ใน Wrangler โดยลดลงประมาณ 1 ฟุต เพื่อทัศนียภาพที่ดีกว่าของทั้งคนขับและผู้โดยสาร

ชุดพิเศษเฉพาะ Overland pack มีไว้ปรับรูปลักษณ์รุ่น Sahara ให้หรูขึ้น มีล้อแม็กอลูมิเนียม 18 นิ้วลายเอกลักษณ์, กระจังหน้าสีตัวถังพร้อมคอคอดโทนสว่างกับขอบไฟหน้า, ผ้าคลุมยางสีตัวถัง และติดโลโก้ Overland ภายนอกเป็นเอกลักษณ์ของชุด Overland pack ถูกเติมเต็มด้วยห้องโดยสารจากหนังโดยเฉพาะและไฟ LED

ชุดล้อแม็กแบบต่างๆ มีให้เลือกใน Wrangler ใหม่ รุ่น Sport ใช้ล้อแม็กอลูมิเนียมขัดสี 17 นิ้ว กับชุดล้อแม็กเสริมอลูมิเนียม 17 นิ้วสองชุด ส่วนรุ่นที่ขายนอกยุโรปใช้ล้อแม็กโลหะลงสีเต็ม 17 นิ้ว รุ่น Sahara ใช้ล้อแม็กอลูมิเนียม 18 นิ้วกับชุดล้อแม็กเสริม 18 นิ้วมีให้พร้อมกับชุดช่ำชอง Overland Pack รุ่นลุยได้ทุกสภาพใช้ล้อแม็กอลูมิเนียมขัดสี 17 นิ้วพร้อมยางลุยโคลน 32 นิ้วจาก BF Goodrich กับชุดล้อแม็กเสริมอลูมิเนียม 17 นิ้วดีไซน์เฉพาะและขัดสีดำ

Jeep Wrangler ใหม่จะมีสีตัวถังให้เลือก 10 สี: Black (ดำ), Firecracker Red (แดงประทัด), Billet Silver Metallic, Bright White (ขาวสว่าง), Granite Crystal Metallic (เมทัลลิกใสแกรนิท), Hellayella, Ocean Blue (ฟ้ามหาสมุทร), Punk'n Metallic, Mojito (โมฆิโต้) และ Sting Gray (เทาเหล็กใน)

>>Jeep Cherokee 2019 เผยโฉมในงาน Detroit Auto Show 2018

Jeep Wrangler

Jeep Wrangler Sahara

ระบบส่งกำลังใหม่ของ Jeep Wrangler ใหม่

ชุดเครื่องยนต์ใน Wrangler ถูกเสริมด้วยสองเครื่องยนต์ใหม่ MultiJet II 2.2 เทอร์โบดีเซล และเครื่องยนต์น้ำมันสี่สูบเรียงแถวเทอร์โบชาร์จ 2.0 ทั้งสองเครื่องอยู่ร่วมกับเครื่องยนต์ 3.6 V-6 Pentastar รุ่นใหม่เพื่อ Wrangler ใหม่ ทุกรุ่นเครื่องยนต์ของ Wrangler ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีด ใหม่ล่าสุดเพื่อรุ่นนี้

เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.2 MultiJet II ใหม่: ใช้เทคโนโลยี MultiJet รุ่นที่สอง เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ใหม่ ทรงประสิทธิภาพ มีวาล์วสูบละสี่ตัว, Double Over Head Camshafts (DOHC) ขับเคลื่อนด้วยสายพาน, ระบบสูบฉีด Common Rail บาร์ 2,000 ตัว, หัวฉีดขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า และเทอร์โบชาร์จ VGT ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีด เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.2 ให้กำลัง 200 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาทีและแรงบิด 450 นิวตัน/เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที

เครื่องยนต์ 2.2 ยังมีเทคโนโลยีประหยัดน้ำมัน Stop-Start (ESS) ลักษณะหลักของเครื่องยนต์ 2.2 ประกอบด้วย:

  • บล็อคสูบถูกผลิตจากอลูมิเนียมอัลลอย
  • ระบบสร้างสมดุลขับเคลื่อนด้วยเฟืองระบบ Lancaster ฝังอยู่ในบล็อค
  • หัวสูบอยู่ในอลูมิเนียมอัลลอยและระบบจังหวะเป็น DOHC 16v
  • ขบวนเปิดปิดวาล์วมี roller finger followers และตัวปรับระยะไฮดรอลิก
  • ระบบสูบฉีดเชื้อเพลิงใช้เทคโนโลยี Multijet รุ่นที่สอง แรงดันสูบฉีด 2000 แท่งพร้อมหัวฉีดขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถจัดการทรงอัตราสูบฉีดได้
  • เทอร์โบชาร์จแปรผันแบบเรขาคณิต (VGT) ทำงานโดยหัวฉีดไฟฟ้า

เครื่องยนต์ 2.0 สี่สูบเรียงแถวเทอร์โบชาร์จ: เครื่องยนต์น้ำมันเทอร์โบ 2.0 ให้กำลัง 272 แรงม้าที่ 5,250 รอบ/นาทีกับ แรงบิด 400 นิวตัน/เมตรที่ 3,000 รอบ/นาทีและมี engine Stop-Start (ESS) ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีด เครื่องยนต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลสถาปัตยกรรม Global Medium Engine กับมี DOHC, ระบบจังหวะ dual independent camshaft timing และระบบหมุนเวียนไอเสียทำความเย็น (C-EGR) นี่เป็นครั้งแรกที่ผสานการใช้เทอร์โบชาร์จ Twin Scroll, ระบบ C-EGR, ระบบสูบฉีดสายตรงกลาง และท่อไอเย็นเหลวอิสระของอากาศ, คันเร่ง กับเทอร์โบ ใช้งานร่วมกัน การรวมตัวของเทคโนโลยีนี้ให้ระดับสมรรถนะที่ดีกว่าแบบเอื้อมถึงได้ขณะที่ลดการใช้น้ำมันไปในตัว

เครื่องยนต์ 3.6 Pentastar V-6 (เฉพาะรุ่นที่ขายในตะวันออกกลางและแอฟริกา): เครื่องยนต์ 3.6 ให้กำลัง 284 แรงม้าที่ 6,400 รอบ/นาทีกับ แรงบิด 347 นิวตัน/เมตรที่ 4,100 รอบ/นาที และมี Stop-Start (ESS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตัวเครื่องถูกวิศวกรรมเพื่อให้รอบแรงบิดที่กว้างพร้อมโฟกัสไปที่แรงบิดต่ำสุด คุณสมบัติสำคัญของรถที่มีสมรรถนะออฟโร้ดสูงอย่าง Wrangler

Jeep Wrangler

Jeep Wrangler Rubicon

ระบบ Uconnect ใหม่ให้ความมั่นใจในเรื่องเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายดีที่สุด

Jeep Wrangler ใหม่เลือกติดตั้งชุด Uconnect รุ่นที่สี่ 5 นิ้ว, 7 นิ้ว หรือ Uconnect 8.4-นิ้ว NAV ซึ่งมีจุดเด่นที่ใช้งานง่าย โพรเซสเซอร์ที่ทรงกำลังและทำงานได้ดีกว่าด้วยความสามารถในการตอบสนองที่ดีขึ้นกับจอสัมผัสที่แสดงกราฟฟิกความละเอียดสูง ระบบให้คนขับควบคุมลักษณะเด่นต่างๆ ในรถ ประกอบด้วยสภาพอากาศกับเสียง ผ่านจอ Uconnect โดยตรง ทำให้ขับขี่ได้ปลอดภัยขึ้น ระบบ Uconnect ใหม่ยังรองรับ Apple CarPlay กับ Android Auto (สำหรับชุด Uconnect 7 หรือ 8.4 นิ้ว NAV) เพื่อการใช้โทรศัพท์ไร้สาย, ระบบนำทาง และการพิมพ์ข้อความด้วยเสียง

บริการ Jeep Uconnect LIVE ในชุดจอ 8.4 นิ้ว NAV

Uconnect ขนาด 8.4 นิ้ว NAV ใน Jeep Wrangler ยังให้บริการ Uconnect LIVE services ซึ่งให้ผู้ใช้ชมและสอดส่อง แอพพลิเคเชินต่างๆ ได้ง่ายๆ บนจอ Uconnect ด้วยการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถ แอพ Uconnect LIVE สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store หรือ Google Play แล้วติดตั้งในสมาร์ทโฟน

อุปกรณ์มาตรฐานในชุด Uconnect 8.4 นิ้วของ Wrangler มีระบบนำทางออนไลน์ TomTom Live กับ Off-road Pages ซึ่งแสดงมุมเงยกับคว่ำและความสามารถ 4x4 อื่นๆ ในรถ ประกอบด้วยระบบ 4x4 กับตัวล็อคเฟืองท้าย, เช่นเดียวกับบริการ Live พร้อม infotainment: เพลงและวิทยุออนไลน์, สังคมออนไลน์, ข่าวสารข้อมูล และระบบนำทางพร้อมข้อมูลการจราจรสดๆ

ด้วย Uconnect LIVE แล้วใช้จอสัมผัส ผู้ใช้เชื่อมต่อกับ Tune In Internet วิทยุในเว็บที่มากกว่า 100,000 สถานีทั่วโลก; แอพฟังเพลงออนไลน์ Deezer มีเพลงมากกว่า 35 ล้านเพลง; Reuters เพื่อเกาะติดข่าวรอบโลก; และแน่นอน Facebook, Facebook CheckIn กับ Twitter เพื่อสื่อสารกับเพื่อนๆ และผู้ติดตามทั้งหลาย

ระบบความปลอดภัยขั้นสูงมากมาย

ความปลอดภัยของคนขับและผู้โดยสารเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาของ Jeep Wrangler ใหม่ ซึ่งให้ชุดความปลอดภัยทั้งเชิงรุกและรับ ประกอบด้วยระบบสอดส่องจุดอับสายตากับระบบตรวจจับวัตถุท้ายรถ, ระบบช่วยจอดรถหน้าและท้าย, กล้องมองท้ายรถพร้อมเส้นกริดพลวัต, ระบบคุมเสถียรรถด้วยไฟฟ้า (ESC) พร้อมระบบป้องกันรถคว่ำ (ERM) และถุงลมนิรภัยสี่ลูก

>>สนใจซื้อหรือเช็คราคา Jeep Wrangler ได้ที่นี่

แท็ก JeepJeep Wrangler