Honda Jade ไมเนอร์ฯ Compact MPV น่าขับที่คนไทยได้แต่มอง

Honda Jade ไมเนอร์ฯ Compact MPV น่าขับที่คนไทยได้แต่มอง

โดยในรุ่น RS ที่มาพร้อมกับสีส้ม Premium Crystal Orange Metallic แบบเฉพาะของ Honda ใช้การตัดกับสีดำเมทัลลิกมาช่วยตกแต่งทั้งส่วนของกระจัง และกระจกข้าง และล้ออัลลอย 5 ก้านสีดำขนาด 18 นิ้ว พร้อมโลโก้ RS ที่แสดงถึงความพิเศษของรุ่น ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมที่ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตเร้าอารมณ์ได้อย่างมีนัยยะ ให้อารมณ์แตกต่างจากโฉมก่อนที่เปิดตัวเมื่อช่วงปี 2013 ได้ไม่น้อย ดูเฟรช สดใหม่ และสวยน่าขับขึ้นอีกเป็นกอง ซึ่งนอกจากในรุ่นตกแต่งพิเศษ RS นี้แล้ว ในรุ่นธรรมดาก็มีการไมเนอร์เชนจ์เพิ่มลูกเล่นในเรื่องของทางเลือกจำนวนเบาะ ที่มีรุ่นเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่งออกมาให้เป็นตัวเลือกกับผู้ใช้อีกด้วย กับความพิเศษที่เรื่องความหนาของเบาะที่มากกว่า และพื้นที่ Legroom วางขาให้มามากขึ้น และมื่อไม่มีเบาะแถวที่ 3 เข้ามาขวาง พื้นที่ด้านหลังก็จะกลายมาเป็นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ กลายมาเป็นอีกตัวเลือกสำหรับครอบครัวไหนที่ไม่เน้นจำนวนโดยสาร 5-6 คน แต่เป็นแค่ 3-4 คนก็จะนั่งกันได้แบบสบายๆ 

สปอร์ต ดุดันยิ่งขึ้นกับรุ่น RS จนอาจทำให้ลืมความเป็นรถ MPV ไปได้เลย 

โดยโทนสีการตกแต่งภายในของ Honda Jade ไมเนอร์เชนจ์นี้ จะมาพร้อมกับทางเลือกของโทนสีในการตกแต่งดังต่อไปนี้ 

• เบาะผ้าและหนังสีดำตัดส้ม เฉพาะในรุ่น RS
• เบาะผ้าและหนังสีเบจ Ivory (มีหนังแท้ให้เลือกเป็น Option)
• เบาะผ้าและหนังสีดำ Black (มีหนังแท้ให้เลือกเป็น Option)
• เบาะผ้าสีดำ Black

ดูเพิ่มเติม:
>> เปรียบเทียบรถ 7 เบาะน่าขับ Toyota Rush กับ Honda BR-V เลือกคันไหนใช่ที่สุด?
>> Honda แดนโรตีรอคิวขายจริง All New Amaze 2018 แล้วกลางเดือนนี้

ภายในแบบเบาะ 2 แถวใหม่ที่เข้ามา กับภายในเบาะ 3 แถวเดิม เลือกได้ตามการใช้งาน

มาที่เรื่องของขุมกำลัง Honda Jade มากับขนาดตัวรถที่ใกล้เคียงกับ C-Segment Sedan หรือ Honda Civic บ้านเรา ดังนั้นเครื่องยนต์รหัสเทอร์โบที่ขนาด 1.5L กับแรงม้าที่ 150 ตัวพร้อมแรงบิด 203 Nm จับคู่กับระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งาน รวมไปถึง Honda ก็ไม่ลืมที่จะมาพร้อมกับขุมกำลังทางเลือก สำหรับรุ่นเครื่องยนต์แบบ Hybrid ด้วยกับรหัสเครื่องยนต์ LEB-H1 ขนาดเครื่องยนต์ 1.5L ที่กำลังม้า 131 ตัวแรงบิด 155 Nm ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังม้าอยู่ที่ 29.5 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 160 Nm จับคู่การทำงานกับเกียร์อัตโนมิต Dual Clutch 7 Speed 

เครื่องยนต์ทางเลือกในแบบไฮบริดมีมาให้เลือกกับ 2 รุ่นย่อย 

อีกจุดที่โดยเด่นสำหรับการไมเนอร์ฯ ใน Honda Jade ครั้งนี้คือเรื่องความปลอดภัยที่ในทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Honda Sensing ที่จะมาพร้อมกับระบบตรวจจับคนเดินถนน คนปั่นจักรยานพร้อมช่วยเบรก และการช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อหลบเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ จากผสานการทำงานของกล้องและเรดาห์ในตัวรถ ซึ่งในไทยยังไม่มีรุ่นไหนของ Honda มาให้สัมผัสกับเทคโนโลยีนี้เลยสักรุ่นเช่นกัน ต้องรอไปก่อน

ความปลอดภัยจาก Honda Sensing มีมาให้ทุกรุ่นย่อย

โดยราคาของไมเนอร์เชนจ์ใน Honda Jade นี้ในรุ่นเริ่มต้นเครื่องยนต์ธรรมดากับ 3 รุ่นย่อยตีเป็นเงินไทยจะอยู่ราวเกือบ 7 แสนบาทไทย และ 2 รุ่น Hybrid จะเริ่มต้นที่เกือบ 8 แสนกลางๆ โดยมีจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่น โดยมีสีให้เลือกดังต่อไปนี้ 

• สีส้ม Premium Crystal Orange Metallic (เฉพาะรุ่น RS)
• (สีใหม่) สีขาว Platinum White Pearl 
• (สีใหม่) สีแดง Premium Crystal Red Metallic 
• สีดำ Crystal Black Pearl
• สีน้ำเงิน Cobalt Blue Pearl
• สีเงิน Modern Steel Metallic
• สีเทา Super Platinum Metallic

ส่วนในสยามประเทศยังไม่มีวี่แววว่า Honda ประเทศไทยจะนำเข้ารุ่นนี้มาจำหน่ายแต่อย่างใด คงได้แต่นั่งมองความสวยน่าใช้กันอยู่ไกลๆ ไปก่อน
แล้วอย่าลืม! บอกกับเรา Chobrod.com หน่อยว่า Honda Jade นี้คุณชอบหรือไม่ และเพราะอะไร ใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย