Byton บริษัทสตาร์ทอัพผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประกาศให้บริการ M-Byte ภายในปี 2019

ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 10 ม.ค 2562
แชร์ 0

หลังจากที่ Byton บริษัทสตาร์ทอัพผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เปิดตัวคอนเซ็ปต์รถไฟฟ้าM-Byte ไปในงาน CES เมื่อปี 2018 ปีนี้ก็ได้กกลับมาอีกครั้งในงาน CES ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา พร้อมประกาศให้บริการ M-Byte ภายในสิ้นปี 2019 นี้ พร้อมด้วยการนำระบบ AI และ 5G เข้ามาใช้ รวมถึงติดตั้งจอแสดงผลขนาด 48 นิ้ว

Byton M-Byte 2019

ภาพ Byton เผยโฉมรถขับเคลื่อนรถไฟฟ้าคอนเซ็ปต์ M-Byte ในงาน CES 2018

ภาพ Byton เผยโฉมรถขับเคลื่อนรถไฟฟ้าคอนเซ็ปต์ M-Byte ในงาน CES 2018

ตลาดรถเตื่นเต้นเมื่อ M-Byte จาก Byton มีมาให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน โดยเริ่มต้นการขับเคลื่อนที่มากถึง 250 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และอีกรุ่นหนึ่งที่มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นสามารถขับเคลื่อนได้ถึง 320 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับราคาของทั้ง 2 รุ่นนี้อยู่ที่ $ 45,000 (ประมาณ £ 35,000, AU $ 63,000) หรือประมาณ 1,439,600 บาท

Byton ประกาศเตรียมขาย M-Byte ภายในปี 2019

Byton ประกาศเตรียมขาย M-Byte ภายในปี 2019

M-Byte มาพร้อมกับนวัตกรรมต่างๆ มากมาย และถือเป็นรถยนต์คันแรกที่มีการเชื่อมต่อทุกการขับเคลื่อนแบบเต็มรูปแบบด้วยเสาอากาศ และอุปกรณ์ 5G ที่ติดตั้งมาให้กับตัวเครื่อง ภายในมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่า 48 นิ้ว หรือมีขนาดเท่าความกว้างของรถ เทียบเท่ากับแท็ปเล็ต 7 เครื่อง หรือสมาร์ทโฟน 24 เครื่อง

ดูเพิ่มเติม
>> นวัตกรรมปลดล็อครถด้วยใบหน้าคนขับ โดย บริษัทชาวจีน BYTON
>> เผยโฉม Byton Concept 2018 Crossover ระบบไฟฟ้าสุดทันสมัย

ภาพภายในของ M-Byte ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่

ภาพภายในของ M-Byte ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่

ภาพภายในของ M-Byte ที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่

รูปลักษณ์ภายในมีการปรับโฉมจากรุ่น Concept ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคง “Driver Tablet” ขนาด 7 นิ้วด้านหน้าพวงมาลัย โดย Driver Tablet ตัวนี้จะไม่หมุนตามพวงมาลัย แต่จะควบคุมทิศทางการขับเคลื่อนให้ถูกต้องตลอดเวลา ในขณะที่ยังคงมีปุ่ม และก้านพวงมาลัยที่ด้านบน และด้านหลังพวงมาลัย เพื่อให้เข้าถึงคุณสมบัติหลักได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ให้รูปลักษณ์ และความรู้สึกที่คุ้นเคยสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งหน้าจอแสดงผลขนาด 8 นิ้วที่อยู่ระหว่าง 2 ที่นั่งด้านหน้าของ Byton M-Bite ซึ่งสามารถใช้งานผ่านการควบคุมด้วยเสียง และท่าทางได้อีกด้วย Byton M-Byte ยังมาพร้อมการขับขี่แบบอิสระ 3 ระดับ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถละสายตาจากถนน รวมถึงการขับขี่ชั่วขณะได้

ภาพคอนเซ็ปต์ของ Byton K-Byte ที่คาดว่าจะจำหน่ายในปี 2021

ภาพคอนเซ็ปต์ของ Byton K-Byte ที่คาดว่าจะจำหน่ายในปี 2021

ภาพคอนเซ็ปต์ของ Byton K-Byte ที่คาดว่าจะจำหน่ายในปี 2021

Amezon Alexa ได้นำมารวมกับ Byton OS ทำให้สามารถสั่งการด้วยเสียงในระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ เพื่อควบคุมเพลง และการนำทาง รวมถึงสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ แนะนำ และจองร้านอาหารได้อีกด้วย Byton OS มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายทั้งการนำทาง, ประสิทธิภาพของยานพาหนะ, การสื่อสารที่เชื่อมต่อทั้ง 5G และเสาอากาศ, ระบบความบันเทิง ประสิทธิภาพเครื่องมือช่วยเหลือ และระบบจดจำใบหน้า ซึ่งสามารถควบคุมได้หลายวิธี เช่น เสียง สัญญาณมือ และการสัมผัส รวมทั้งลดจำนวนปุ่มลงให้เหลือแค่ฟังก์ชั่นที่สำคัญเท่านั้น แต่ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงในการใช้งานอยู่เนื่องจากฟังก์ชั่นของระบบปฏิบัติการที่มีอยู่มาก อาจทำให้เกินความสับสนขณะการใช้งาน และสั่งการได้

ดูเพิ่มเติม
>> 9 บริษัทในจีนที่กำลังตั้งตัวเป็นคู่แข่ง Tesla
>> จะดีกว่าไหม?? ถ้าวันหนึ่งเบาะรถยนต์ส่งผลดีต่อสุขภาพ

ฺByton M-Byte และ Byton K-Byte อีกหนึ่งอนาคตของรถไฟฟ้า

ฺByton M-Byte และ Byton K-Byte อีกหนึ่งอนาคตของรถไฟฟ้า

อีกหนึ่งตัวช่วยก็คือแอปพลิเคชั่นของ Byton ที่ให้บริการแล้วทั้งระบบปฏิบัติการณ์ iOS และ Android ที่จะเป็นแอปพลิเคชั่นช่วยเหลือในการขับขี่ และเชื่อมต่อกับทุกฟังก์ชั่นภายในรถ แม้ว่าในปัจจุบันแอปพลิเคชั่นจะยังไม่สามารถชงานได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่คุณจะสามารถเลือกตกแต่งรถทั้งภายนอก – ภายใน และสีล้อได้ มีมุมมอง 360 องศารอบ M-Byte และสามารถเปิดประตูเพื่อดูภายในผ่านการใช้งานโหมด AR ที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ของรถได้เสมือนโลกแห่งความจริง สำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของ Byton M-Byte สามารถจองได้ฟรีผ่านแอปพลิเคชั่นได้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด Byton K-Byte ที่ประกาศออกไปในปี 2018 อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งจะติดตั้งกระจังหน้าดิจิตอลสุดเท่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ โดยคอนเซ็ปต์ Byton K-Byte คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปี 2021 และอาจจะเปิดตัวรุ่นที่ 3 ในปี 2023 อีกด้วย

สำหรับข่าวสารวงการรถยนต์สามารถติดตามได้ที่ Chobrod.com เช่นเคยนะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้