โตโยต้าเดือดออกแถลงการณ์โต้ “ทรัมป์” หลังชี้นำเข้ารถยนต์คือภัยต่อความมั่นคงสหรัฐฯ ชี้หากใช้มาตรการภาษีกระทบแรงงานภาคผลิตรถยนต์แน่ แถมผู้บริโภคสหรัฐฯ อาจต้องจ่ายแพงขึ้น-มีรถยนต์ให้เลือกน้อยลง
นอกจากสหรัฐอเมริกากำลังทำสงครามการค้ากับจีนแล้ว ในอีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ ที่ภายใต้การนำของประธานธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ก็กำลังเปิดศึกกับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกจากแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน และแบรนด์รถยนต์ที่ว่านั่นก็คือ "โตโยต้า" นั่นเอง
โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาให้ข้อมูลต่อสาธารณะและอ้างว่า รถยนต์นำเข้ามีความเสี่ยงต่อ "ความมั่นคง" ของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าจากคำพูดของคนที่เป็นประธานาธิบดีประเทศที่มากล้นด้วยอำนาจมากที่สุดในโลกออกมาพูดเช่นนี้ ก็ย่อมสะเทือนไปทั้งวงการอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ทีเดียว เพราะสหรัฐฯ เองก็ถือเป็น "ตลาดรถ" ขนาดใหญ่ของโลก ที่ปริมมาณยอดขายแต่ละปีก็ไม่น้อยทีเดียว
ประเด็นกีดกันทางการค้าเริ่มรุกรามมายังอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ แล้ว
กระนั้นก็ตาม ผลพวงของคำพูดดังกล่าวทำให้ "โตโยต้า" ก็ต้องออกแถลงการณ์มางัดกับ "โดนัลด์ ทรัมป์" ทันที ซึ่งเรื่องนี้เอง บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ ยูเอสเอ อิงค์ ที่มีที่ตั้งอยู่ที่รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ก็ออกมาระบุแถลงการณ์ถึงกับขนาดที่ว่า การประกาศเช่นนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับเป็นการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่สำหรับผู้บริโภคในสหรัฐฯ รวมไปถึงแรงงาน และอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ เอง
ดูเพิ่มเติม
>> “โตโยต้า”ผนึกเสียง”ฮอนด้า”สะท้อนเหตุผลไม่ร่วม “อีโคอีวี” ตลาดรถไทย
>> เปิดผ้าคลุม Toyota C-HR EV 2019 ไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้าที่งาน Auto Shanghai 2019
"ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นอย่าชัดเจนว่า การจำกัดการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ จะขัดขวางการสร้างงาน การกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้ง การกระทำใดๆ ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค หากมีการกำหนดโควต้านำเข้า ผู้ที่สูญเสียมากที่สุดก็จะเป็นผู้บริโภค ซึ่งจะต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อรถยนต์ และมีรถยนต์ให้เลือกน้อยลงอีกด้วย" หนึ่งในถ้อยแถลงการณ์ของโตโยต้า
การจำกัดนำเข้ารถยนต์ของค่ายรถต่างประเทศ อาจทำให้ตลาดรถของสหรัฐฯ ต้องกระเทือน
กระนั้นก็ตาม โตโยต้าเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ได้กล่าวออกมานั้น จะมีทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับกาเจรจาเพื่อให้เกิดการคลี่คลายปัญหาการนำเข้ารถยนต์ในตลาดรถสหรัฐฯ ได้ลุล่วงสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
เพราะว่าหากสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการทางภาษีเพื่อจำกัดการนำเข้ารถยนต์มายังตลาดรถของสหรัฐฯ ก็จะเป็นการบีบบังคับให้ผู้บริโภคของสหรัฐฯ เอง ต้องจ่ายเงินมากขึ้นต่อการหาซื้อรถยนต์สักคัน และโตโยต้ายังประเมินว่าประเด็นสำคัญคือจะส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองด้วย
โตโยต้าสหรัฐฯ จะไม่ทนให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กดดันแต่ฝ่ายเดียวแน่
ทั้งนี้ ในส่วนโตโยต้า มอเตอร์ เซลล์ ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดรถของสหรัฐฯ ทั้งในแง่ของการจัดจำหน่าย และการผลิต ประกอบรถยนต์อีกด้วย เพราะโตโยต้ามีการจ้างงานกับคนสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากถึง 475,000 คน และยังมีการลงทุนในสหรัฐฯ อีกมากถึง 6 หมื่นล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาททีเดียว โดยเฉพาะกับการลงทุนไปด้านโรงงานผลิต ประกอบรถยนต์ของค่ายที่มีถึง 10 แห่ง และยังมีเครือข่ายดีลเลอร์อีก 1,500 แห่งทั่วทั้งสหรัฐฯ
มาตรการเข้ามงวดของ "โดนัลด์ ทรัมป์" อาจไม่ส่งผลดีต่อตลาดรถสหรัฐฯ
ถือเป็นข่าวที่ต้องจับตาทีเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์กับตลาดรถสหรัฐฯ ที่ถือเป็นตลาดใหญ่ระดับโลก การสร้าง "อเมริกันให้แข็งแกร่ง" ตามนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยการใช้มาตรการทางสภาษีกดดันบริษัทต่างชาติ และขณะนี้กำลังมากดดันกับบริษัทผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นเองด้วย แต่การเตือนผ่านแถลงการณ์ของโตโยต้าก็มีนัยยะ
ดูเพิ่มเติม
>> สหรัฐฯ สอบ Hyundai-Kia หาสาเหตุ “บกพร่องกระทบความปลอดภัย”
>> 5 อันดับรถยุโรปที่คน ‘มะกัน’ร้องยี้-มียี่ห้อที่ขับกันบ้างหรือเปล่า ไปเช็คเลย
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้