รัฐบาลนอร์เวย์เผยยอดขายรถยนต์ใหม่ครึ่งปีแรกเกือบครึ่งเป็น "รถยนต์ไฟฟ้า" ชี้เพราะการประกาศ "แบน" เครื่องยนต์สันดาปปี 2025 ได้ผล พร้อมงดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าทำคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ส่งผลเป็น "สวรรค์ตลาดรถ" แต่ละค่าย
เผยยอดขายรถยนต์ใหม่ในนอร์เวย์ เกือบ 50% คือ "รถยนต์ไฟฟ้า"
เมื่อเรามองถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังฮิตและมาแรงมาขึ้นเรื่อยๆ จากความนิยมของผู้บริโภคเองที่หันมาสนใจ และค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ก็เร่งมือป้อนรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายตัวเองเข้าสู่ตลาดรถ แต่นอกไปจากประเทศจีนแล้ว หากเราจะมองว่า "ตลาดรถ" ที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยปริมาณคน กำลังเงิน เราจะมองประเทศไหนรองลงมา
คำตอบอาจจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรืออย่างประเทศอังกฤษ ที่เริ่มกระตุ้นให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่จากข้อมูลของรัฐบาลจาก "นอร์เวย์" ก็สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า คนประเทศดินแดนไวกิ้งแห่งนี้ กำลังต้องการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก เพราะเกือบ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในนอร์เวย์ มันคือ "รถยนต์ไฟฟ้า"
เกือบครึ่งของรถยนต์ใหม่ที่ส่งมอบให้คนนอร์เวย์ไปใช้งานในปีนี้ ปรากฎว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังฮิตมากที่สุด และมันทำให้ประเทศแถบสแกนดิเนเวียแห่งนี้เปรียบเป็นสวรรค์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอีกแห่งก็ว่าได้
ด้วยมาตรการที่เข้มข้นของรัฐบาล ก็ผลักดันให้คนนอร์เวย์เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายๆ
รัฐบาลนอร์เวย์ เปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และรวมถึงการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากประชาชนของพวกเขา โดยพบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนมิถุนายน 2562 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาก้าวกระโดดมาถึง 48.4% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดของนอร์เวย์
และเมื่อลองเทียบเคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือช่วงเดือนมกราคม-เดือนมิถุนายน 2561 คนนอร์เวย์ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้งานเพียงแค่ 25% เห็นได้ชัดว่าแค่ระยะเวลา 1 ปี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในนอร์เวย์ก้าวกระโดดมาถึงเกือบ 1 เท่าตัว
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวนอร์เวย์เลือกใช้ "รถยนต์ไฟฟ้า" มากขึ้น และแน่นอนว่ามันทำให้ตลาดรถแห่งนี้ก็คึกคักตามไปด้วย นั่นเพราะรัฐบาลนอร์เวย์ประกาศไว้ชัดเจนว่าจะ "แบน" รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันเบนซิน และเครื่องยนต์น้ำมันดีเซลภายในปี 2025 และใครที่เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะได้มาตรการช่วยเหลือทางภาษีจากรัฐบาล เมื่อเป็นเช่นนี้ ในเมื่อจะซื้อรถยนต์ใหม่ทั้งที และรัฐบาลก็จะสั่งให้เลิกขายรถยนต์น้ำมันเด็ดขาดในอีกแค่ 5-6 ปีข้างหน้าซึ่งมันระยะสั้นและเร็วมาก การเลือกซื้อรถยนต์ใหม่จึงหันไปหา และทิ้งน้ำหนักไปที่ "รถยนต์ไฟฟ้า" กันมากขึ้น
เมื่อคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้มากยิ่งขึ้น มันทำให้ตลาดรถนอร์เวย์กลายเป็นสวรรค์ของค่ายรถยนต์ในทันที
ประกอบกับ เรื่องภาษีอย่างที่บอกเอาไว้ในข้างต้นที่รัฐบาลหนุนอย่างหนักให้คนในประเทศหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการยกเว้นภาษีแบตเตอรี่ที่เป็นหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ ที่นำรถยนต์เข้ามาค่าย เมื่อภาษีได้รับการงดเว้น ราคารถยนต์ไฟฟ้ามันจึงขยับลงต่ำตาม ก็ทำให้ชาวนอร์เวย์เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีสิ่งจูงใจอื่นๆ อีกด้วยสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในนอร์เวย์ ทั้ง ส่วนลดค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วน และค่าใช้บริการเรือข้ามฟาก ทำให้ความนิยมในรถพลังไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับเครื่องยนต์สันดาป หรือเครื่องยนต์น้ำมันที่เพิ่มกำแพงภาษีให้สูงขึ้นไปอีก และเป็นการบีบให้ตลาดต้องเลือกรถยนต์ไฟฟ้ามาขายเพื่อแย่งยอดขายจากชาวนอร์เวย์
ดูเพิ่มเติม
>> ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยคึกคักสุดๆ รุ่นใหม่เปิดตัวเพียบ ฉายแววรุ่งยันปีหน้า
>> งบ 8 แสนบาท กับตลาดรถ Hybrid เมืองไทย
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่คนนอร์เวย์นิยมสูง ยังเป็นของ Tesla แต่ค่ายอื่นก็ตีตลาดขึ้นมาได้เช่นกัน
และในตลาดรถของนอร์เวย์แห่งนี้ แม้ "ปริมาณ" จะน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของตลาดรถใหญ่ๆ ของโลกอย่างจีน และสหรัฐฯ แต่หากเทียบกันในอัตราส่วนยอดขายรถยนต์ใหม่ระหว่าง "รถยนต์ไฟฟ้า" และ "รถยนต์เชื้อเพลิง" ถือว่านอร์เวย์ชนะขาดทุกประเทศด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
นอกไปจากนี้ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในนอร์เวย์ ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสหรัฐฯ คือ Tesla ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดของนอร์เวย์ถึง 24.5% และแค่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแค่เดือนเดียว Tesla ขายรถยนต์ให้คนนอร์เวย์ไปได้ถึง 3,760 คน และรุ่นที่ซื้อกันมากที่สุดก็คือ Tesla Model 3
นอกไปจากรถยนต์ไฟฟ้าจากดินแดนสหรัฐฯ ที่ไปได้สวยแล้ว แบรนด์สัญชาตเอเชียจากเกาหลีใต้ ทั้ง Hyundai รวมถึง KIA และฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Nissan ก็ไปได้ดีในตลาดรถนอร์เวย์เช่นกัน เพราะเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ที่ได้รับการจากการงดเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลนอร์เวย์
การประกาศจะเลิกขายรถยนต์นัำมันเชื้อเพลิงของนอร์เวย์ ก็ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูง
ถือเป็น "มาตรการ" ที่ต้องเรียกว่าเด็ดขาดจากรัฐบาล ที่ต้องการกำหนดทิศทางการใช้รถยนต์ในประเทศของนอร์เวย์ที่ทั้งบังคับทางตรง ในเรื่องภาษีรถยนต์ไฟฟ้า และได้ผลทางอ้อมคือเกิดการกระตุ้นการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของประชากรในประเทศอย่างได้ผลดีทีเดียว และหากรัฐบาลไทยจะเอาอย่างบ้าง ก็ต้องศึกษาดูผลได้ผลเสียให้ดี แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทิศทางการใช้นโยบายที่น่าศึกษาอันมีผลเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่น่าสนใจทีเดียว
ดูเพิ่มเติม
>> รถเครื่องดีเซลก่อมลพิษ “มากกว่า” รถเครื่องเบนซิน จริงหรือ ?
>> "เนเธอแลนด์”เบอร์หนี่งของโลก พร้อมที่สุดกับ “รถยนต์ไร้คนขับ”
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้