เกาหลีใต้ก็ไม่หยุด กับรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

ผมว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ที่เราเกิดมาแล้วรถยนต์ที่เราเห็นแล่นผ่านไปมาในแต่ละวันนั้นใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นเชิ้อเพลิง ทั้งๆที่โลกนี้มีพลังงานอีกมาก พลังงานหนึ่งที่มนุษย์เองก็รู้จักกันมานานและสามารถนำมาทำเป็นเชื้อเพลงทดแทนการใช้น้ำมันได้คือ “ไฮโดรเจน” ไฮโดรเจนในอุณหภูมิปกติมีสถานะเป็นก๊าซ และมันมีคุณสมบัติที่ติดไฟ เรียกว่าถ้ามีมากๆในที่แคบๆก็ระเบิดดีๆนี่เอง นั่นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่เอามันมาทำเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันหรือก๊าซหุงต้ม ด้วยความที่มันอันตรายกว่าก๊าซอื่นอยู่เล็กน้อย ในทางกลับกันสำหรับรถยนต์แล้วมนุษยชาตินิยมใช้น้ำมัน แม้จะเป็นวัตถุไวไฟเช่นกันแต่กลับขนส่งง่ายและเป็นต้นทุนที่ไม่ได้มีราคาแพงมากนัก หาง่าย ใช้สะดวกนั่นเอง

โลกเราในทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้า จนสามารถนำเอาไฮโดรเจนมาทำเป็นเชื้อเพลิงได้แล้ว แถมยังไปได้ไกลกว่าการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเสียอีก แน่นอนว่าไม่ได้เอามาทำเป็นเชื้อเพลิงเพื่อจุดไฟโดยตรง แต่เอามันมาทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศได้เป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บลงแบตเตอรี่เพื่อนำมาปั่นมอเตอร์ต่อไป (ไม่ใช่เอาไฮโดรเจนมาจุดระเบิดเพื่อหมุนลูกสูบของเครื่องยนต์เหมือนน้ำมัน) สรุปแล้วมันก็คือรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบหนึ่งที่จำเป็นต้องมีแบเตอรี่และเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็นพลังงานไฟฟ้าก่อน

น้ำมันใช้ในการจุดระเบิดเครื่องยนต์แต่ไฮโดรเจนนั้นไม่ใช่

รถยนต์ที่มีชื่อเสียงด้านไฮโดรเจนคงหนีไม่พ้น Toyota Mirai ที่ทาง Toyota ตั้งความหวังกับมันไว้สูง เนื่องจากจะเป็นทางเลือกของพลังงานชนิดใหม่ที่ได้ไอเสียเป็นศูนย์อีกด้วย แต่หลังจากที่ยังไม่ดังเปรี้ยงปร้างมากนักทำให้ยอดขายไม่ค่อยวิ่งเท่าไร และกำลังชั่งใจว่าจะเอาอย่างไรดีกับธุรกิจในระยะยาวบนพลังงานทางเลือกอย่างไฮโดรเจนนี้

รถยนต์ Toyoat Mirai รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Toyota

ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น

ไม่เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นหรือToyota เท่านั้นที่สนใจพลังงานจากไฮโดรเจน เกาหลีใต้เองก็สนใจเช่นกันแม้ว่าในสายตาของชาวโลกยังคงไม่แน่ใจว่าพลังงานไฮโดรเจนจะไปรอดไหมเมื่อเทียบกับพลังงานจากไฟฟ้าหรือไฟฟ้าที่ได้จากโรงงานนิวเคลียร์ก็ตาม เพราะล่าสุดได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าทางประเทศเกาหลีมีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์ไฮโดรเจนหรือที่เรียกกันว่า Fuel Cell ให้ได้มากถึง 6.2 ล้านคันและจะสร้างสถานีเติมไฮโดตรเจนทั่วประเทศอีกราว 1200 สถานีภายในปี 2040 เนื่องจากทางรัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลว่า จะเป็นอิสรภาพทางพลังงานและไฮโดรเจนไม่ใช่พลังงานที่หายากนอกจากนั้นยังปั้นตัวเองให้เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีด้านไฮโดรเจนอีกด้วย นี่คือหนึ่งใน Road map ทางพลังงานของรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นการเพิ่มทางเลือกของพลังงานและจะเพิ่มจำนวนของพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตได้ให้มีมากกว่า 5.26ล้านตันภายในเวลา 20ปี การมีจำนวนไฮโดรเจนที่มากขึ้นจะทำให้ราคาของไฮโดรเจนถูกลงมากและมีเป้าหมายของราคาไฮโดรเจนอยู่ที่ราคาต่ำกว่า 85บาทต่อกิโลกรัม

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นาย มุน แจ อิน เยี่ยมชมบริษัท Hyundai และสานต่อนโยบายรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

แต่การจะทำให้ไฮโดรเจนแพร่หลายยังมีนโยบายอย่างอื่นตามมาด้วยนั่นก็คือ การสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างและในมุมของครัวเรือนเกี่ยวกับ Fuel Cells เพื่อนำเซลเหล่านี้มาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า รวมไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมเรือ รถไฟ และเครื่องจักรต่างๆให้สามารถใช้พลังงานจากไฮโดเจนได้ เมื่อสิ่งเหล่านี้มีมากขึ้นแน่นอนว่าอุตสาหกรรมที่ใกล้ตัวพวกเรามากที่สุดอย่าง “รถยนต์” นั้นก็จะยิ่งสามารถเข้าถึงการใช้พลังงานไฮโดรเจนรวมถึงรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนได้ในราคาที่ถูกลงอย่างแน่นอน

นโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ด้านไฮโดรเจนเป็นอย่างไร

จากนโยบายการเดินหน้าป้อนพลังงานไฮโดรเจนเข้าสู่ระบบของประเทศเกาหลีใต้ ทำให้ตามแผนนี้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนในประเทศจะมีมากถึง 80,000คันภายใน4ปีข้างหน้า และจะมีมากถึง 1.8ล้านคันภายในปี 2030 ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลยังมีแผนจะให้เงินช่วยเหลือหนุนรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนสำหรับรถแท็กซี่และรถบรรทุกอีกด้วย ในทางเดียวกันตอนนี้จำนวนรถบัสมีแผนจะเพิ่มจำนวนรถบัสที่เป็นพลังงานไฮโดรเจนให้มีมากถึง 2000 คันภายในปี 2022 และจะแทนที่รถบัสตำรวจที่มีมากถึง 820 คันให้กลายเป็นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนทั้งหมดภายในปี 2021 ด้วยวิธีการนี้ ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าจะช่วยให้กำลังการผลิตรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนมีมากขึ้นและทำให้ราคารถถูกลง (เพราะมีรัฐบาลหนุนราคา) ประมาณคันละ 8แสนบาทภายในปี 2025

รถแท็กซี่ได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายพลังงานไฮโดรเจน

เพิ่มเติม
>> 3 ประเทศที่สถานีไฮโดรเจนมากที่สุด
>> เหตุผลที่ Toyota Mirai ยังไม่รุ่ง

เหตุผลหนึ่งที่มีการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในตลาดรถกันมากขนาดนี้ก็เพราะว่า วิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นาย มุน แจ อิน ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านพลังงานไฮโดรเจนโดยการเชื่อมโยงเทคโนโลยีด้านไฮโดรเจนต่างๆเข้ากับภาคอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ การเดินเรือ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมด้านเคมีต่างๆ การทำแบบนี้ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวเกาหลีใต้จะได้ใช้พลังงานสะอาดเท่านั้น สิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศก็จะดีขึ้น เปิดทางให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น และยังเป็นการสร้างงานให้กับประชาชนในประเทศในส่วนที่มีการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนอีกด้วย คาดการณ์กันไว้ว่าภายในปี 2040 รัฐบาลคาดหวังจะมีมูลค่าแรงงานกว่า 1.2ล้านล้านบาทเพิ่มมูลค่าทางเศรฐกิจให้กับประเทศเกาหลีใต้จากแรงงานที่เพิ่มขึ้นกว่า 420,000 ตำแหน่ง เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจเลยก็ว่าได้

แล้วทำไมต้องพลังงานไฮโดรเจน

ถ้ามองกันโดยภาพรวมของระบบแล้ว แม้รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนจะยังไม่เป็นที่นิยมในระดับโลกมากนัก แต่ด้วยคุณสมบัติของมันที่เป็นพลังงานสะอาด สะอาดหมดจดชนิดที่ห่วงโซ่ในอุตสาหกรรมทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบที่ทำให้ได้พลังงานออกมานั้นปราศจากกากสารพิษ ไม่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100%ที่ยังมีการใช้น้ำมันหรือถ่านหินในการนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า (ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษตอนผลิตกระแสไฟ) แต่การผลิตไฮโดรเจนนั้นไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากถ่านหินและน้ำมันก็มีพลังงานอย่างอื่นที่ใช้ทดแทนที่ได้ประสิทธิภาพพอๆกันในราคาที่ถูกกว่าด้วย

กรุงโซลเมืองหลวงเกาหลีใต้ก็เคยเจอปัญหาฝุ่นพิษที่แย่กว่าในไทยเสียอีก

เรื่องพลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทน นับเป็นเรื่องที่ต้องมองกันยาวๆระดับหลายสิบปีขึ้นไปและมีตัวแปรสำคัญที่สุดคือรัฐบาลด้วย อย่างที่เราเห็นกันแล้วสำหรับรัฐบาลเกาหลีใต้ที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล วิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่ต้องการให้สังคมเป็นสังคมที่สะอาดหมดจดปราศจากสารพิษมันเป็นแบบนี้นี่เอง แม้จะไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในปีนี้ปีหน้าแต่ก็นับว่าเป็นแผนที่ดูมีอนาคต ส่วนเรื่องความสำเร็จนั้นติดอยู่แค่คำถามเดียวว่า เมื่อไร?

เพิ่มเติม
>> เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย รถใช้แบตเตอรี่ vs รถใช้ Hydrogen
>> ไฮบริด, PHEV, EV ทำไมจึงแตกต่าง???

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้