รูดม่าน F1 2019 เช็คเลย 10 ทีมใครเป็นใคร คอ Motor Sport ห้ามพลาด!!!

2 ทีมที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย Toro Rosso และ Alfa Romeo Sauber

เข้าสู่ฤดูกาลที่ 70 แล้วสำหรับรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก FIA Formula One World Championship 2019 ใน 21 สนามปีนี้จะมีเรซที่ 1000 ของ F1 ในสนามที่ 3 ที่ประเทศจีนด้วย ทั้งลูอิส แฮมิลทันและ Mercedes ต่างกลับมาป้องกันแชมป์ปีนี้ในฐานะแชมป์โลก 5 สมัย และครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่มีนักแข่งสัญชาติไทยลงแข่งขัน นี่คือ 10 ทีม 4 แบรนด์ที่จะลงแข่งในปีนี้ (เรียงตามอันดับปีที่แล้ว)

Mercedes AMG F1 W10 EQ Power+

Mercedes
Mercedes-AMG Petronas Motorsport/เมร์เซเดส เปอโตรนาส
เครื่องยนต์: Mercedes M10 EQ Power+
สัญชาติ: เยอรมัน
ฐานที่ตั้ง: แบร็คลีย์, นอร์ธแอมป์ทันเชียร์, อังกฤษ
นายใหญ่: นิกิ เลาด้า, โตโต้ โวล์ฟ
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: เจมส์ อัลลิซัน
นักทดสอบ: เอสเตบัน โอกอน, สตอฟเฟล ฟานดอร์เน่อ, เอสเตบัน กูเตียร์เรซ

เริ่มจากแชมป์ 5 สมัยกันก่อน พื้นสียังคงเป็น Silver Arrow ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Mercedes แต่หลังห้องคนขับเพิ่มลายดาวสามแฉกตกแต่งลงไป ส่วนสีฟ้าน้ำทะเลของ Petronas มีน้อยลง

วัลต์เตริ บ็อตตาส (ซ้าย) และ ลูอิส แฮมิลทัน (ขวา)

ลูอิส แฮมิลทัน (#44)
เกิด: 7 มกราคม 1985, สตีเว่นเนจ, อังกฤษ
ผลงานปี 2018: แชมป์โลก, ชนะ 11, 11 โพล, 7 โพเดียม, แข่งไม่จบที่ออสเตรีย

วัลต์เตริ บ็อตตาส (#77)
เกิด: 28 สิงหาคม 1989, นาสโตล่า, ฟินแลนด์
ผลงานปี 2018: 5th, 2 โพล, 8 โพเดียม, แข่งไม่จบที่ออสเตรีย

Ferrari SF90

Ferrari
Scuderia Ferrari Mission Winnow (สกูเดเรีย แฟร์รารี่ มิสชั่น วินนาว)
เครื่องยนต์: Ferrari 064
สัญชาติ: อิตาลี
ฐานที่ตั้ง: มาราเนลโล่, แคว้นเอมิเลีย-โรมานญ่า
นายใหญ่: มัตเตีย บิน็อตโต้
นักทดสอบ: อันโตนิโอ ฟโวโก้, เบรนด้อน ฮาร์ทลีย์, ดาวิเด้ ริก้อน, ปาสกาล แวหร์ไลน์

ทีมม้าลำพองได้บุหรี่ Marlboro กลับมาเป็น Title Sponsor อีกครั้ง แต่ทาง Philip Morris เลือกใช้โครงการ Mission Winnow มาทำการตลาดแทนตั้งแต่ที่ซูซูกะปีที่แล้ว โครงการนี้ Philip Morris ตั้งขึ้นเพื่ออุทิศเรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม แต่ตัวย่อ MW เมื่อวางตะแคงแล้วจะเหมือนกับทรงของ Marlboro พอดี ในปีนี้ นอกจากส่วนของ Marlboro จะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำแล้ว มัตเตีย บิน็อตโต้ขึ้นมาเป็นนายใหญ่คนใหม่แทนที่เมาริซิโย อาร์ริวาเบเน่ และดันอนาคตแชมป์โลกชาวโมนาโก ชาร์ลส์ เลอแกลร์ มาเป็นมือสองจาก Sauber สวนทางกับกิมี่ แรอิกโกเน่น

ดูเพิ่มเติม
>> ว่าด้วยเหตุผลที่เครื่องรถ F1 ใช้วางบนรถทั่วไปไม่ได้
>> เจาะสังเวียน เวียดนาม GP

เซบาสเตียน เฟทเทล (ซ้าย) และ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ (ขวา)

เซบาสเตียน เฟทเทล (#5)
เกิด: 3 กรกฎาคม 1987, เฮพเพนไฮม์, รัฐเฮสเซ่อ, เยอรมัน
ผลงานปี 2018: 2nd, ชนะ 5, 5 โพล, 7 โพเดียม, แข่งไม่จบที่เยอรมัน

ชาร์ลส์ เลอแกลร์ (#16)
เกิด: 16 ตุลาคม 1997, มอนเต้ การ์โล, โมนาโก
ผลงานปี 2018: 13th, 6th ที่อาเซอร์ไบจัน, แข่งไม่จบ 5

Red Bull RB15

Red Bull
Aston Martin Red Bull Racing/แอสตัน มาร์ติน เร้ด บูลล์ เรซซิ่ง
เครื่องยนต์: Honda RA619H
สัญชาติ: ออสเตรีย
ฐานที่ตั้ง: มิลทัน คีย์นส์, บักคิงอัมเชียร์, อังกฤษ
นายใหญ่: คริสเตียน ฮอร์เนอร์, เฮลมุท มาร์โค
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: อาเดรียน นิวอีย์, ปิแยร์ วาเช่
นักทดสอบ: เซบาสเตียง บูเอมี่

หลังจากประสบความสำเร็จกับทีมลูกอย่าง Toro Rosso ถึงเวลาที่ Honda จะมาซัพพอร์ทให้ Red Bull ทีมใหญ่เต็มตัว ขณะที่คู่ค้าเก่าอย่าง Renault ได้แดน ริคาร์โด้ไปร่วมทีม ทำให้ Red Bull ต้องดันปิแยร์ กาสลี่ขึ้นจาก STR ไปด้วย แต่สีรถปีนี้ยังคงเป็นสีกรมท่าสีหลักของทีมเช่นเคย

แม็กซ์ แวร์สตัปเปิน (ซ้าย) และ ปิแยร์ กาสลี่ (ขวา)

แม็กซ์ แวร์สตัปเปิน (#33)
เกิด: 30 กันยายน 1997, ฮัสเซิลต์, จ.ลิมบวร์ก, เบลเยียม
ผลงานปี 2018: 4th, ชนะ 2, 9 โพเดียม, แข่งไม่จบ 3

ปิแยร์ กาสลี่ (#10)
เกิด: 7 กุมภาพันธ์ 1996, ครูอ็อง, แคว้นนอร์ม็องดี้, ฝรั่งเศส
ผลงานปี 2018: 15th, 4th ที่บาห์เรน, แข่งไม่จบ 5

Renault R.S.19

Renault
Renault F1/เครอโนลต์
เครื่องยนต์: Renault E-Tech 19
สัญชาติ: ฝรั่งเศส
ฐานที่ตั้ง: เอนสโตน, อ็อกซ์เฟิร์ดเชียร์, อังกฤษ
นายใหญ่: ซีริล อบิตบุล
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: นิค เชสเตอร์, เครมี่ ตัฟแฟ็ง, มาร์ซซิน บุดกอฟสกี้
นักทดสอบ: โจว กวานหยู่

จากที่เราคุ้นเคยในรูปแบบรถกล้วยหอม Renault เน้นสีดำมากขึ้น แต่สีเหลืองคราวนี้สว่างกว่าของปีที่แล้วและโปรโมทแบรนด์ในกลุ่ม Renault-Nissan-Mitsubishi อย่าง Infiniti เป็นหลักหลังจากเคยเป็น Title Sponsor ให้ Red Bull สมัยที่บริษัทซัพพอร์ทเครื่องยนต์ให้ การมาของแดน ริคาร์โด้พอดีกับที่ McLaren เจรจาคว้าตัวการ์โลส ไซนซ์ออกไปพอดี และทำให้เบียร์ Estrella Galicia ตามไปอยู่ McLaren ไปด้วย

แดน ริคาร์โด้ (ซ้าย) และ นิโก้ ฮึลเคินแบร์ก (ขวา)

แดน ริคาร์โด้ (#3)
เกิด: 1 กรกฎาคม 1989, เพิร์ธ, ออสเตรเลียตะวันตก
ผลงานปี 2018: 6th, ชนะ 2, 2 โพล, แข่งไม่จบ 8

นิโก้ ฮึลเคินแบร์ก (#27)
เกิด: 19 สิงหาคม 1987, เอมเมอริค อัม ไรน์, รัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลีย, เยอรมัน
ผลงานปี 2018: 7th, 5th ที่เยอรมัน, แข่งไม่จบ 7

Haas VF-19

Haas
Rich Energy Haas F1/ริช เอเนอร์จี้ ฮาส F1
เครื่องยนต์: Ferrari 064
สัญชาติ: USA
ฐานที่ตั้ง: แคนนาโปลิส, รัฐนอร์ธ กาโรลิน่า
นายใหญ่: กึนเธอร์ สไตเนอร์
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: ร็อบ เทย์เลอร์, เบน อากาธานเกลู
นักทดสอบ: เปียโตร ฟิตติปาวดี้

Haas เลือกใช้สีดำเป็นสีหลักเป็นครั้งแรกหลังจากใช้สีขาวมา 2 ครั้งกับสีเทาเงินอีกครั้ง เครื่องดื่มชูกำลังจากอังกฤษ Rich Energy เข้ามาเป็น Title Sponsor ในฤดูกาลนี้ ซึ่งสีทองของแบรนด์ถูกใช้เป็นสีตกแต่งบนตัวรถ แต่โลโก้ Haas เจ้าของทีมยังคงเป็นสีขาวเช่นเดิม

เควิน แม็กนุสเซ่น (ซ้าย) ที่นำเสื้อผ้า Jack & Jones มาเป็นสปอนเซอร์ทีมด้วย และโครแม็ง โกรส์ฌอง (ขวา)

เควิน แม็กนุสเซ่น (#20)
เกิด: 5 ตุลาคม 1992, ครอสกิลด์เอ้อ, เดนมาร์ก
ผลงานปี 2018: 9th, 5th 2 ครั้ง, แข่งไม่จบ 2 + DQ 1

โครแม็ง โกรส์ฌอง (#8)
เกิด: 17 เมษายน 1986, เจนีวา, สวิส (ถือสัญชาติฝรั่งเศส)
ผลงานปี 2018: 14th, 4th ที่ออสเตรีย, แข่งไม่จบ 5 + DQ 1

McLaren MCL34

McLaren
McLaren F1/แม็คลาเรน
เครื่องยนต์: Renault E-Tech 19
สัญชาติ: อังกฤษ
ฐานที่ตั้ง: โว้คคิง, เซอร์รีย์
นายใหญ่: แซ็ค บราวน์
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: แพท ฟราย, อันเดรีย สเตลล่า, เจมส์ คีย์
นักทดสอบ: แซร์ชิยู เซ็ชเช่ ก่ามาร่า

แม้จะผลงานดีขึ้นจากรองบ๊วย (9th) มาจบ 6th แต่อดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่ฟื้นจากขาลงมาก ยังไม่รวมการยุติความสัมพันธ์แทบไม่เผาผีกับ Honda อีก McLaren เปลี่ยนนักแข่งยกแผง เฟร์นานโด อลอนโซ่ แชมป์โลก 2 สมัยประกาศอำลาทีมเพื่อไปโฟกัส WEC กับ Toyota แถมยังชนะเดย์โทน่า 24 ปีนี้ด้วย แต่จะยังคงอยู่กับ McLaren ในการลงแข่งอินดี้ 500 สตอฟเฟล ฟานดอร์เน่อหลุดจากทีมทำให้ต้องไปอยู่กับ Mercedes ชุดสำรอง และลงแข่งให้ HWA ในศึก Formula E สต็อฟหลีกทางให้กับยุวคนใหม่ของทีม แลนโด้ นอร์ริส ที่พกดีกรีรองแชมป์ F2/GP2 และแชมป์ FIA F3 ยุโรป 2017 แลนโด้จะคู่กับการ์โลส ไซนซ์ในรถส้มคาดฟ้าที่มีต้นแบบจากรถที่อลอนโซ่ลงแข่งครั้งสุดท้ายกับทีมที่อาบูดาบีเมื่อปลายปี McLaren ยังได้สปอนเซอร์ใหม่อย่าง British-American Tobacco มาเป็นสปอนเซอร์แต่ใช้โครงการ A Better Tomorrow มาโปรโมท เหมือนกับ Marlboro Ferrari ส่วนเบียร์ Estrella Galicia สปอนเซอร์ของไซนซ์อยู่ที่ท้ายรถ นอกจากนี้ McLaren ยังดึงเจมส์ คีย์มาจาก Toro Rosso มาช่วยงานฝ่ายเทคนิคด้วย โดยจะเริ่มงานหลังจบออสเตรเลีย GP

การ์โลส ไซนซ์ จูเนียร์ (ซ้าย) และ แลนโด้ นอร์ริส (ขวา)

การ์โลส ไซนซ์ จูเนียร์ (#55)
เกิด: 5 ตุลาคม 1992, ครอสกิลด์เอ้อ, เดนมาร์ก
ผลงานปี 2018: 10th, 5th ที่อาเซอร์ไบจัน, แข่งไม่จบ 2

แลนโด้ นอร์ริส (#4)
เกิด: 13 พฤศจิกายน 1999, บริสตอล, อังกฤษ
ผลงานปี 2018: 2nd FIA F2, 38th (13th Prototype) เดย์โทน่า 24

Racing Point RP19

Racing Point
SportPesa Racing Point F1/สปอร์ตพีซ่า เรซซิ่ง พอยท์
เครื่องยนต์: Mercedes M10 EQ Power+
สัญชาติ: อังกฤษ
ฐานที่ตั้ง: ซิลเวอร์สโตน, นอร์ธแอมป์ทันเชียร์
นายใหญ่: อ็อตมาร์ ซาฟเนาเออร์

นี่คือครั้งแรกที่ Racing Point จะลงแข่ง F1 เต็มฤดูกาลหลังเทคโอเวอร์จาก Force India โดยได้บริษัทรับพนันของเคนย่า SportPesa มาเป็น Title Sponsor ปีนี้ ทำให้ตัวรถมีสีน้ำเงินอยู่หลังห้องคนขับ ส่วนสีชมพูที่จางลงมาจากปีที่แล้วมาจากสปอนเซอร์เดิมอย่างบริษัทกรองน้ำประปาจากออสเตรีย BWT Racing Point มีนายทุนหลักอย่าง แลร์รี่ สโตรล ทำให้ลูกชายของเขา แลนซ์ สโตรล ย้ายจาก Williams ตามพ่อมาอยู่กับทีม แต่ก็ทำให้เอสเตบัน โอกอน ต้องกลับไปอยู่ Mercedes ทีมแม่ของตนในฐานะตัวสำรอง

แลนซ์ สโตรล (ซ้าย) และ เซร์คิโอ เปเรซ (ขวา)

เซร์คิโอ เปเรซ (#11)
เกิด: 26 มกราคม 1990, กวาดาลาฆาร่า, รัฐฆาลิสโก้, เม่ฆิโก
ผลงานปี 2018: 8th, 3rd ที่อาเซอร์ไบจัน, แข่งไม่จบ 2

แลนซ์ สโตรล (#18)
เกิด: 29 ตุลาคม 1998, มงต์เครอาล, รัฐเกเบ็ก, แคนาดา
ผลงานปี 2018: 18th, 8th ที่อาเซอร์ไบจัน, แข่งไม่จบ 2

Sauber C38

Sauber
Alfa Romeo Racing/อัลฟ่า โรเมโอ เรซซิ่ง
เครื่องยนต์: Ferrari 064
สัญชาติ: สวิส
ฐานที่ตั้ง: ฮินวิล, ซือริค
นายใหญ่: เฟรเดริก วาเซอร์
ผอ.ฝ่ายเทคนิค: แอ็กเซล ครูเซ่อ

พันธมิตรม้าลำพองอันยาวนานอย่าง Sauber ถูก FCA ซื้อทีมในปีนี้ และจะใช้ชื่อทีมผู้สร้างว่า Alfa Romeo สีขาวของ Sauber ยังคงใช้เป็นสีพื้นอยู่แต่มีสีแดงของ Alfa Romeo ระบายอยู่หลังห้องคนขับ การปล่อยชาร์ลส์ เลอแกลร์ไปอยู่กับทีมแม่ม้าแลกกับการได้แชมป์โลก 2007 ขวัญใจแฟนคลับอย่าง กิมี่ แรอิกเกอเน่น มาประครองทีม ซึ่งเป็นการกลับบ้านเก่าหลังเดบิวต์กับ Sauber เมื่อปี 2001 แถมยังพาเบียร์สิงห์ของไทยเราไปอยู่บนรถด้วย กิมี่จะคู่กับอันโตนิโอ โจวินาซซี่ อีกหนึ่งตัวสำรอง Ferrari โดยมาแทนที่ มาร์คุส เอริกซอน ที่ถอยไปเป็นสำรองและย้ายไปลงแข่ง IndyCar แทน

กิมี่ แรอิกเกอเน่น (ซ้าย) และ อันโตนิโอ โจวินาซซี่ (ขวา)

กิมี่ แรอิกเกอเน่น (#7)
เกิด: 17 ตุลาคม 1979, เอสปอ, แคว้นอูซิม่า, ฟินแลนด์
ผลงานปี 2018: 3rd, ชนะที่ USA, 11 โพเดียม, แข่งไม่จบ 4

อันโตนิโอ โจวินาซซี่ (#99)
เกิด: 17 ตุลาคม 1979, เอสปอ, แคว้นอูซิม่า, ฟินแลนด์
ผลงานปี 2018: สำรอง Ferrari, 20th (5th GTE Pro) เลอ ม็องส์ 24

Toro Rosso STR14

Toro Rosso
Red Bull Toro Rosso Honda/เร้ด บูลล์ โตโร่ รอสโซ่ ฮนดะ
เครื่องยนต์: Honda RA619H
สัญชาติ: อิตาลี
ฐานที่ตั้ง: ฟาเอนซ่า, แคว้นเอมิเลีย-โรมานญ่า
นายใหญ่: ฟร้านซ์ ทอสท์

กระทิงน้อยยังคงใช้สีน้ำเงินสดเป็นสีหลักจากที่เริ่มใช้เมื่อปีที่แล้ว แต่เป็นอีกทีมที่เปลี่ยนนักแข่งใหม่หมด ปิแยร์ กาสลี่เลื่อนชั้นไปอยู่กระทิงใหญ่ แต่เบรนด้อน ฮาร์ทลีย์หลุดจากทีม แม้ว่าจะเป็นแชมป์เลอ ม็องส์ 24 2017 (กับแชมป์ WEC 2 สมัย) ก็ฟอร์มหลุดลุ่ยในการขับรถ F1 ดานีล กวย้าต (กวะ-ย้าด) กลับมาสู่ทีมอีกครั้งหลังโดน Red Bull ลอยแพปลายปี 2017 จนต้องระเห็จไปเป็นสำรองของ Ferrari หนุ่มหมีขาวจะจับคู่กับนักแข่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อเล็กซ์ อัลบอน ที่ทาง Red Bull ต้องลงทุนไปเจรจาขอ Nissan ปล่อยตัวออกจากทีม Formula E ฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ อัลบอนซึ่งเคยเป็นกระทิงแดงจูเนียร์มาก่อนเมื่อปี 2012 จะเป็นนักแข่งสยามคนแรกนับตั้งแต่ร้อยเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือที่รู้จักกันในนามพระเจ้าพีระ ที่ทรงลงทำการแข่งขันเมื่อปี 1950-1954 หรือในรอบ 65 ปี และเป็นนักแข่งอาเซียนคนที่ 4 ที่ลงทำการแข่งขัน ต่อจากพระเจ้าพีระ, อเล็กซ์ เสียง หลง และ ริโอ ฮาดร์ยานโต

อเล็กซ์ อัลบอน (ซ้าย) และ ดานีล กวย้าต (ขวา)

ดานีล กวย้าต (#26)
เกิด: 26 สิงหาคม 1994, อูฟา, บาชกอร์ตอสตาน, รัสซียา
ผลงานปี 2018: สำรอง Ferrari

อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์ (#23)
เกิด: 23 พฤศจิกายน 1996, ลันเดิน, อังกฤษ (ถือสัญชาติไทย)
ผลงานปี 2018: 3rd FIA F2

Williams FW42

Williams
ROKiT Williams Racing/โรคิท วิลเลี่ยมส์ เรซซิ่ง
เครื่องยนต์: Mercedes M10 EQ Power+
สัญชาติ: อังกฤษ
ฐานที่ตั้ง: โกรฟ, อ็อกซ์เฟิร์ดเชียร์
นายใหญ่: แฟร้งค์ วิลเลี่ยมส์, แคลร์ วิลเลี่ยมส์
นักทดสอบ: นิค ลาติฟี่

อดีตแชมป์โลกที่ดิ่งลงเหวไม่เลิก ในปีนี้ สุราชื่อก้องโลกอย่าง Martini หมดสัญญากับทีม ทำให้บริษัทโทรคมนาคมเมืองผู้ดี ROKiT เข้ามาเป็น Title Sponsor และสีของรถกลายเป็นสีฟ้าครามแทน โดยคาดสีขาวไว้ตรงกลาง เมื่อแลนซ์ สโตรลย้ายตามพ่อไป Racing Point ทำให้ทีมต้องดันอดีตอนาคตแชมป์โลกชาวโปลอย่าง รอเบิร์ต กูบิซซ่า ขึ้นมาแข่งขันหลังต้องฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหลังประสบอุบัติเหตุขณะแข่งแรลลี่เมื่อปี 2011 ขณะที่เซอร์เก ซิร็อตกิ้นก็ทำผลงานได้ย่ำแย่ เพราะทั้งปีที่แล้วได้แต้มเดียวที่อิตาลี (เพราะโกรส์ฌ็องโดน DQ) ทำให้ทีมต้องฉกยุวของ Mercedes ขึ้นมาแทนอย่างจอร์จ รัสเซลล์ แชมป์ F2 แลกกับการเสียสปอนเซอร์ก้อนใหญ่อย่างธนาคาร SMP

จอร์จ รัสเซลล์ (ซ้าย) และ รอเบิร์ต กูบิซซ่า (ขวา)

จอร์จ รัสเซลล์ (#63)
เกิด: 15 กุมภาพันธ์ 1998, คิงส์ ลินน์, นอร์โฟล์ค, อังกฤษ
ผลงานปี 2018: แชมป์ FIA F2

รอเบิร์ต กูบิซซ่า (#88)
เกิด: 15 กุมภาพันธ์ 1998, คิงส์ ลินน์, นอร์โฟล์ค, อังกฤษ
ผลงานปี 2018: สำรอง Williams

ปฏิทินการแข่งขัน F1 2019

ดูเพิ่มเติม
>> Toyota Top 3! Hamlin ชนะ Daytona 500 ครั้งที่ 61
>> Toyota เฮกลางหิมะ! Tänak ชนะแรลลี่ สวีเดนขาดเกือบนาที

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้