ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ที่หลายคนบ่นกันขรมต้องชิดซ้าย เมื่อเจอเหตุการณ์รถติดสุดอันตรายที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์โลก เจอแบบนี้อยากจะมีโดเรมอนเพื่อขอคอปเตอร์ไม้ไผ่มาใช้งานเหลือเกิน
รถติดเป็นปัญหากวนใจและสร้างความวุ่นวายเป็นวงกว้าง อย่างในประเทศไทยบ้านเราที่เชื่อว่าผู้ใช้ถนนบนกรุงเทพฯ ต่างต้องพบเจอและต้องมีเหตุการณ์ฝังใจเกี่ยวกับรถติดมาแล้วกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะใช้บริการขนส่งรูปแบบใดก็ตาม แต่เมื่อมีแอดอัดอยู่บนเส้นทางเดียว ก็กลายเป็นผู้ร่วมชะตากรรมที่ต้องค่อย ๆ คลืบคลาน ๆ ไปอย่างช้า ๆ อย่างน่าหงุดหงิดใจ ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝน หรือก่อนและหลังวันหยุดยาวสุดสัปดาห์แล้วล่ะก็ มือที่จับพวงมาลัยและคอยเหยียบคันเร่งจนแทบจะขึ้นเส้นเอ็นเลยทีเดียว
เมืองไทยเป็นประเทศที่พบเจอปัญหารถติดอยู่เป็นประจำ
แต่ความรุนแรงต่อเหตุการณ์รถติดที่พบเจอในบ้านเราอาจจะดูเล็กน้อยมาก ๆ เมื่อเจอกับ 10 เหตุการณ์รถติดสุดมหาโหด ที่โลกต้องจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ บางเหตุการณ์ถึงกับข้ามวันข้ามคืน และบางเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตระหว่างทางกันเลยทีเดียว เราลองมาชมและคิดตามกันดูว่าถ้าหากต้องเจอเหตุการณ์รถติดสุดอันตรายเหล่านี้จะรับมืออย่างไร? โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจัดเรียงตามปีที่เก่ามายังปัจจุบัน
เทศกาลดนตรีที่เกิดเหตุรถติดยาวนานถึง 3 วัน
งานแสดงดนตรี "วู๊ดสต็อก" ในเดือนสิงหาคมปี 1969 ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ จากเหตุการณ์ที่มีผู้คนมากกว่า 5 แสนคนต่างมารวมตัวที่ฟาร์มชื่อดัง แม็กซ์ ยาสเกอร์ ที่เมืองบีเธล มหาครนิวเยอร์คที่เป็นสถานที่สำหรับการจัดงาน การหลั่งไหลของผู้คนจำนวนมากในถนนสายเดียวกัน ทำให้เกิดภาวะรถติดยาวกว่า 32 กิโลเมตร และนานถึง 3 วัน ที่ทำให้บรรดานักดนตรีและทีมงานทั้งหมดต้องสัญจรด้วนการใช้เฮลิคอปเตอร์ และผู้มาเข้าชมงานเองต้องสละยานพาหนะของตนเพื่อเข้าชมงานเทศกาลครั้งนี้ ซึ่งไม่อยากจะคิดสภาพตอนเดินกลับมาขึ้นรถตัวเองเลยว่า แต่ละคนจะต้องวุ่นวายขนาดไหนในการมองหารถของตน
หวังกลับบ้านรีบไปพักผ่อน ต้องมาเจอเหตุการณืรถติดที่น่าหงุดหงิดซะงั้น
เดือนกุมภาพันธ์ปี 1980 ในขณะที่ประชาชนกำลังเดินทางกลับบ้านหลังวันหยุดยาวหวังจะได้ไปใช้เวลาส่วนตัวพักผ่อนบนที่นอนเพื่อเตรียมตัวกลับไปสู่วันทำงานตามปกติในวันรุ่งขึ้น กลับมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวน พายุหิมะถล่มมายังเส้นทางที่มีรถจำนวนมากกำลังเดินทางเข้าเมืองหลวง ทำให้เกิดสภาพการจราจรที่ติดขัดยาไปมากกว่า 175 กิโลเมตร และเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าเป็นวันที่รถติดยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ผู้คนบนท้องถนนต่างเฝ้ารอการไปพบหน้าครอบครัวอย่างมีความหวัง
เป็นวันอีสเตอร์แรกหลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ที่หลายครอบครัวได้มีโอกาสได้กลับไปพบหน้ากันหลังจากที่ถูกจับแยกกันมาอย่างยาวนานเกือบร่วมครึ่งศตวรรษ การเดินทางข้ามฝั่งระหว่างเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออกถูกบันทึกเอาไว้ในสถิติโลก ว่าเป็นเหตุการณ์รถติดที่รถยนต์มากที่สุดในโลก โดยมีมากถึง 18 ล้านคัน มีการสร้างพื้นที่เพื่อการระบายรถที่สถานีน้ำมัน ใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง แต่นั่นนับเวลาเป็นเวลาเพียงเล็กน้อยสำหรับพวกเขา หากเทียบกับเวลาที่ต้องถูกจับแยกออกจากกันที่นานกว่า 40 ปี นับเป็นเหตุการณ์รถติดที่ผู้คนบนท้องถนนมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยการรอคอยอย่างมีความหวังมากกว่าความรำคาญดังเช่นที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์รถติดอื่น ๆ
ดูเพิ่มเติม
>> จีนบุกเบิก เริ่มยกเลิกตู้เก็บเงินทางด่วนหลังลงสนามทดสอบ 3 ปี เซฟเงินได้ 9 พันล้านกว่าบาท!
>> สมกับเป็นญี่ปุ่่น รวม 6 มาตรการแก้ไขปัญหาบนท้องถนนอย่างยั่งยืน
เหตุการณ์ตึกเวิร์ลเทรดถล่มทำให้รถทุกคันบนถนนต้องทำการหยุดวิ่ง
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่ามีรถติดในระยะทางกี่กิโลเมตร หรือยาวนานถึงกี่วันอย่างเช่นเหตุการณ์ที่ผ่านก่อนหน้า แต่เหตุการณ์รถติดครั้งนี้ที่มีการพูดถึงเพราะเกิดเหตุจลาจลที่กลายเป็นประวัติศาสตร์ช็อคโลก เมื่อเกิดการโจมตีตึกสูงกลางมหานครนิวยอร์ก "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ 9/11 วันมหาวิปโยค ที่ทำให้ทุกช่องทางการสัญจรต้องหยุดชะงักลงทันที ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อให้รถของเจ้าหน้าที่ทำงานรถทุกคันจึงต้องหยุดวิ่งและเปิดทางให้เหล่าหน่วยที่เกี่ยวข้องทำงานได้สะดวก นั่นทำให้มีรถที่ติดค้างอยู่บนถนนเส้นหลักเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของโลก
เหตุการณ์หนีพายุสุดระทึก ที่ทำรถติดกว่า 160 กิโลเมตร
ไม่เพียงแต่หิมะที่ทำให้รถติด ในปี 2005 เดือนกันยายน ประชาชนในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัสถูกสั่งให้อพยพออกจากตัวเมืองโดยด่วน เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเรียกได้ว่าไม่ทันตั้งตัวเลยก็ว่าได้ เมื่อมีรับแจ้งว่าพายุเฮอร์ริเคนริต้ากำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ตัวเมือง ผู้คนกว่า 2.5 ล้านคนเมื่อได้ยินประกาศก็รีบเก็บของที่จำเป็นขนขึ้นรถและพาครอบครัวมุ่งหน้าไปตามทางหลวงสาย 45 แต่เพราะจำนวนรถที่มากเกินไป ทำให้เกิดรถติดยาวกว่า 160 กิโลเมตร กินเวลาไปมากว่า 2 วัน ทำให้ล้านคนต้องทิ้งรถและเดินเท้าแทน ท่ามกลางความตื่นตระหนกด้วยเกรงว่าจะอพยพหนีไปจากจุดอันตรายเหล่านี้ไม่ทัน แต่ในที่สุดทุกคนก็ปลอดภัยจากพายุร้ายที่มาโดยไม่บอกไม่กล่าวนี้ได้อย่างโล่งใจ แต่ก็ต้องมาเสียเวลาเดินกลับมาตามหารถของตนเองท่ามกลางรถหลายแสนคันที่ถูกทิ้งเอาไว้ตามทางยาวเกือบ 500 กิโลเมตรที่โชคดีไม่โดนพายุหอบไปด้วย
สภาพความแอดอัดบนท้องถนนที่เหมือนฝูงมดนับล้านตัว
ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก เลยไม่น่าแปลกในที่ยานพาหนะบนถนนจีนนั้นจะคับคั่งหนาแน่นมากมายขนาดไหน ขนาดทางด่วนสายปักกิ่ง-ธิเบต ในช่วงเวลาปกติยังใช้เวลาเดินทางจากทางเข้าไปยังทางออกถึง 3 วัน (ไม่น่าเชื่อว่ายังจะสามารถใช้ชื่อเรียกว่าทางด่วนได้อยู่อีก) ซึ่งเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นที่ทางด่วนสายนี้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2010 ที่เกิดความหนาแน่นทางจราจร รถติดยาวกว่า 100 กิโลเมตร เหตุเนื่องมาจากถนนสายทางหลวง G110 นี้เป็นเส้นทางหลักของรถบรรทุก ทำให้ถนนเกิดชำรุดจึงต้องมีการซ่อมแซม และนั่นทำให้เกิดปรากฏการณ์รถติดระดับโลกเพราะทางหลวงสายธิเบต-ปักกิ่งนั้น เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อและใกล้เคียงกับบริเวณที่ปรับปรุง ทำให้เกิดความคับคับคั่งบนถนนนี้ยาวนานไปถึง 12 วัน มีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสออกมาเร่ขายของกินทำให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตผ่านเหตุการณ์รถติดนี้ไปได้ชนิดที่ว่าต้องจำไปจนตายเลยทีเดียว
เมืองซานเปาโลที่ขึ้นชื่อเอาไว้ว่าเป็นเมืองที่รถติดระดับโลก
ไม่ต้องมีพายุหิมะถล่ม หรือต้องรอวันเทศกาลสำคัญอะไร เมืองซานเปาโลแห่งประเทศบราซิลก็ถูกกล่าวเอาไว้ว่าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อรถติดมหาโหดที่สุดในโลกอยู่แล้ว ปกติผู้คนต่างใช้เวลาบนถนนยาวนานกว่าถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมีระยะทางรถติดในบางครั้งที่ยาวกว่า 180 กิโลเมตร และอาจยาวถึง 300 กิโลเมตร ในวันที่รถติดที่สุด โดยเฉพาะวันศุกร์ ที่เป็นเหมือนฝันร้ายของผู้คนที่ต้องสัญจรผ่านเส้นทางนี้ เพราะเส้นทางถนนของเมืองนี้มีการเชื่อมโยงกันเป็นระยะยาว เมื่อมีเหตุรถติดสักที่ก็จะติดลามยาวกันไปเรื่อย ๆ โดยเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ของถนนเส้นนี้ว่ามีการจราจรติดขัดหนักที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2009 มีการระบุว่า รถติดยาวกว่า 290 กิโลเมตรและกระจายออกไปเป็นวงกว้างถึง 840 กิโลเมตร ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินของผู้ที่ใช้เส้นทางนี้เป็นประจำหรอก เพราะพวกเขาเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่คิดว่ามีโอกาสเกิดได้เช่นครั้งนี้อยู่แล้ว มันเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายและชินชาปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาเสียมากกว่าจะเกิดอารมณ์หงุดหงิดหัวเสียเหมือนเหตุการณ์ที่อื่นที่เกิดเพราะเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เพราะความปกติอย่างเช่นที่พวกชาวซานเปาโลต้องเจออย่างเลี่ยงไม่ได้
สภาพรถที่ติดหิมะ ย่ำแย่กว่ารถยนต์ติดน้ำขังที่กรุงเทพฯ เสียอีก
วันแรกของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 ในชั่วโมงเร่งด่วนยามค่ำคืนของเมืองชิคาโก้แห่งรัฐอิลลินอยส์ ที่รู้จักกันในชื่อเมืองแห่งลม แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาแค่ลม เพราะพาหิมะมาถล่มเส้นทางรถติดอยู่แล้ว ทำให้เกิดเหตุการณ์รถติดยิ่งขึ้นไปอีก รถยนต์หลายคันถูกจมไปกับกองหิมะ กินเวลายาวนานไปกว่า 12 ชั่วโมงกว่าที่จะจัดการการจราจรให้กลับมาไหลลื่นได้อีกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันเองที่ชิคาโก้ยังพบเจอปัญหารถติดที่เกิดจากพายุหิมะจนทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อย ๆ เช่นเดิม เรียกได้ว่าหนาวไปทั้งคนหนาวไปทั้งคันกันเลยทีเดียว หากมีสกีหลายคนคงจนจับมาใช้และปล่อยรถทิ้งเอาไว้แล้ว เพราะเส้นทางที่มีหิมะปกคลุมเช่นนี้ การสัญจรที่ได้ผลที่สุดก็คือการใช้สกีนี่แหละ
รถติดเพราะพายุหิมะที่รัสเซีย ที่กลายเป็นฝันร้ายของใครหลายคน
พายุหิมะเป็นต้นเหตุยอดฮิตเสียจริงที่ทำให้เกิดรถติด ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 ประเทศรัสเซีย ในเดือนปลายปีอย่างเดือนธันวาคม ที่เรียกว่าเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศเลวร้ายจากหิมะ ครั้งนี้มันทำพิษด้วยการถล่มไปบนถนนทางหลวงสาย M10 ที่เชื่อมระหว่างมอสโคว์และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร มีรถที่ติดอยู่กว่าหนึ่งหมื่นคัน และกินระยะเวลาร่วมกว่า 3 วัน บรรดาผู้ขับขี่รถยนต์และรถบรรทุกทั้งหลายต้องลงมือทำอาหารกินกันเองที่ข้างทาง มีความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่พยายามช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทั่วถึง แม้กระทั่งน้ำมันเองก็ไม่มีน้ำมันเหลือ รวมไปถึงยังถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าแม่ค้าที่ฉวยโอกาสตั้งราคาอาหารให้สูงขึ้น ถือว่าเป็นอีกเหตุการณ์ราวกับฝันร้าย ที่ผู้ประสบชะตาทั้งหลายต้องจดจำเอาไว้ขึ้นใจกันทีเดียว และถึงขั้นกับหมายหัวพวกคนจอมเอาเปรียบเอาไว้ เพื่อที่จะไม่หลงมาใช้บริการจากที่นี่อีกครั้ง ถือว่าผูกใจเจ็บกันน่าดู
รถติดครั้งใหญ่ที่อินโดนีเซียแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังไม่สามารถขยับไปได้
มาถึงอันดับสุดท้ายที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของที่สุด ไม่ใช่เพราะรถติดนานที่สุด หรือว่ารถติดด้วยเส้นทางที่ยาวที่สุด แต่เป็นเหตุการณ์รถติดที่เลวร้ายที่สุด เพราะมีการสูญเสียเกิดขึ้น โดยเหตุการณ์รถติดวิปโยคครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2016 บนถนนจากกรุงจาการ์ตา มายังเทกัล ในเมืองเบรเบส ตะวันออก เขตขวากลาง ในประเทศอินโดนีเซีย เป็นช่วงเทศกาลวันออกเดือนถือศีลอด ที่ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม หลายครอบครัวได้ออกมาขับรถเพื่อเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน และกลับภูมิลำเนาเดิมในช่วงวันดังกล่าว และต้องมีการพารถเข้าคิวเพื่อชำระค่าทางด่วน ซึ่งในขั้นตอนนี้มีการดำเนินการที่คลืบคลานไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดเกิดเป็นเหตุการณ์ที่สร้างรถติดสะสมยาวไปมากกว่า 20 กิโลเมตร กินเวลานานกว่า 3 วัน ถึงแม้จะยาวไม่ถึง 200 กิโลเมตรเท่ารัสเซีย และไม่นานถึง 12 วันเท่าจีน แต่กลับมีความแออัดหนาแน่นมาก ๆ พ่อค้าแม่ค้าบนถนนท้องถนนที่แห่มาทำมาหากิน เป็นอีกปัจจัยที่มาซ้ำเติมความยุ่งเหยิงนี้ และความแออัดท่ามกลางเหล่าควันพิษ สร้างความเหนื่อยล้าให้แก่ผู้คนบนถนน ผนวกกับอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เหตุการณ์รถติดมหาโหดนี้คร่าชีวิตผู้คนไป 12 ราย ซ้ำร้ายยังเกิดอุบัติเหตุจากเหตุการณ์นี้อีก 6 ราย นับว่าเป็นรถติดที่อันตรายมากที่สุดเลยทีเดียว
ทางประเทศไทยในตอนนี้เองก็กำลังเตรียมแก้ไขปัญหารถติดอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
แต่ละเหตุการณ์เชื่อแล้วว่ามันมหาโหดจนสมควรที่จะต้องบันทึกเอาไว้จริง ๆ ลองนึกภาพตามว่าถ้าเราต้องไปเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้จะตองรับมือกับมันยังไงนะ? ขนาดรถติดในไทย 2-3 ชั่วโมงก็ดูท่าว่าสาหัสสากรรจ์น่าดูแล้ว และถึงไทยในปัจจุบันนี้จะปะสบปัญหารถติดที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ก็ยังไม่เคยเจอเลวร้ายเท่ากับเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคต ประเทศไทยอาจจะเกิดเหตุการณ์รถติดที่สำคัญและถูกบันทึกเอาไว้เช่นนี้ก็ได้ หากวิธีการแก้ไขปัญหารถติดในตอนนี้ไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ ก็ต้องมาลุ้นและจับตามองกันต่อไป Chobrod เองก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่กรุงเทพฯ ทุกคน ให้เดินทางราบรื่น ปลอดภัย รถไม่ติดบ่อย ๆ หรือน้อยลงกว่าเดิมก็ยังดี
ดูเพิ่มเติม
>> ปรับเพิ่มความเร็วรถ 120 กม./ชม. แก้ปัญหารถติดได้จริงหรือ?
>> พวกขับช้าแช่ขวาเตรียมโดนจับ พร้อมเพิ่มความเร็ว 120 กม./ชม.บนทางหลวง
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อ รถมือสอง สภาพดี เชิญเข้าดูที่ ตลาดรถ ตรงนี้