ถ้าเอ่ยถึงรถกระบะที่เป็นอเนกประสงค์ ดีไซน์สวยทั้งภายนอกภายใน เชื่อแน่ว่าชื่อที่เข้ามาเป็นตัวเลือกคนหนีไม่พ้น ISUZU D-max และล่าสุดก็มีข่าวหลุดเล็ดลอดออกมาว่าจะมีเปิดตัวรุ่นล่าสุด ISUZU D-max Minorchange และคาดว่าน่าจะได้ยลโฉมจริงในงาน Motor Expo 2018
ส่อง ISUZU D-max Minorchange ก่อนยลโฉมจริง
ISUZU D-max เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 ในโลกที่ประเทศไทย จากนั้นก็ได้มีการปรับปรุงเรื่อยมาจนกระทั่งได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2015 ที่ได้ปรับปรุงดีไซน์ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่จาก 1.9 ลิตรเป็น 2.5 ลิตร กลายเป็นรุ่น Minorchange อยู่ตระกูลใหม่ RZ4E-TC พร้อมชื่อ Blue Power จากนั้นในปี 2017 ก็ได้ปรับปรุงดีไซน์ให้ดุดันกว่าเดิม พร้อมสีใหม่เมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา และปีนี้ก็คาดว่าจะมาให้ได้ยลโฉมอีกแล้ว โดยเตรียมเปิดตัวอีกไม่นาน
ISUZU D-max รุ่นปัจจุบัน ที่ครองใจใครหลายคน
ด้านหน้าคาดว่ามีการเปลี่ยนใหม่หมด มาพร้อมไฟหน้า Daytime Running Light แบบ Fibre-Optic เสริมความดุดัน ไฟเลี้ยวคาดว่าจะอยู่ด้านล่างติดกับโคมไฟหลัก กระจังหน้าทรงใหม่ มีการแบ่งเป็นส่วนบนและส่วนล่างอย่างชัดเจน ด้านล่างเชื่อมต่อกับแผงรังผึ้งได้อย่างสวยงาม และช่วยล่างสัมผัสถนนก็ยังมีล้อดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้วให้อีกด้วย ในด้านท้ายคาดว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงกันชนท้าย และฝากระบะท้ายแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ส่วนด้านภายในห้องโดยสารยังไม่มีรายละเอียดหลุดออกมาว่าจะเปลี่ยนไปอะไรยังไง ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ และ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่จะต้องรอการเปิดเผยอีกครั้ง ต้องรอดูว่าระบบปลอดภัยในรุ่นท้อปอย่าง Z-Prestigeจะมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งมาด้วยหรือไม่ ส่วนระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ESC / ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ต่างๆ ก็มีมาให้แล้วตั้งแต่รุ่นกลางๆ จะเหลือก็แค่ถุงลมนิรภัยเท่านั้นที่ยังไม่เท่าคู่แข่ง แต่บางกระแสก็บอกว่าภายในอาจจะเป็นแบบเดียวกับที่จำหน่ายในจีน แต่บางกระแสบอกแบบยุโรป หรือเป็นไปได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ผลิตในไทยโดยเฉพาะอันนี้ก็ต้องรอดูต่อไป
>>> ดูเพิ่มเติม ราคา isuzu d-max 2020
ภายในของ ISUZU D-max รุ่นปัจจุบัน
ดูเพิ่มเติม
>>Isuzu D-Max 2018 กับ Mitsubishi Triton 2018 เลือกคันไหนดีกว่ากัน ??
>>เมื่อ Isuzu D-max 2018 ปะทะ Toyota Hilux Revo 2018
เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกใน ISUZU D-max รุ่นปัจจุบัน
ในส่วนของเครื่องยนต์คาดว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงใช้เป็นเครื่องยนต์ Blue Powet แบบเดิมมี 2 ขนาดให้เลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.9 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 ตอนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ทำงานประสานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อม Turbocharger VGS แบบครีบแปรผัน และ Intercooler ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 ตอนาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ทำงานประสานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
รายละเอียดต่างๆเหล่านี้เป็ฯแค่การคาดการณ์ ซึ่งสามารถอีกไม่นานนี้คาดว่าเราจะได้รู้สเปครายละเอียดอย่างจัดเต็ม หรืออาจจะได้ยลโฉมจริงในงาน Motor Expo 2018 ในเร็วๆ นี้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Chobrod จะนำข้อมูลมาแจ้งให้ทราบอย่างแน่นอน
ดูเพิ่มเติม
>>Isuzu D-Max ไมเนอร์เชนจ์ 2018 ปรับอีกครั้งรับปลายปี ลุ้นเปลี่ยนใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน
>>รีวิว ISUZU D-MAX 2018
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ติดตามราคารถยนต์ เชิญที่นี่