วุ่นกลางถนนแต่จบที่โรงพัก "ทหารเรือวีออสVSสาวแจ๊ส" ทะเลาะกันเจอปรับทั้งคู่

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากต้นทางก็คือเฟซบุ๊คที่มีบัญชีผู้ใช้ว่า "ปพนศักดิ์ ทรัพย์เกษตรกิจ" เผยแพร่คลิปดังกล่าวพร้อมข้อความเขียนกำกับเอาไว้ว่า " "เหตุการณ์เช้านี้ก่อนหน้านี้ไม่รู้มีเรื่องอะไรกันมาก่อนแต่เห็นรถเก๋งviosวิ่งไล่จี้ตูดแล้วบีบแตรค้างไล่มาตลอดทางจนมาถึงที่เกิดเหตุ (ใส่ชุดข้าราชการอีกแล้ว) #ถนนพุทธมณฑลสาย3"

จากคลิปดังกล่าวทำให้โลกออนไลน์ได้เห็นภาพ เหตุการณ์ขณะที่รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ได้บีบแตรยาว จากนั้นคนขับรถสวมชุดสีกากีได้วิ่งไปเตะรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว 1 ครั้ง ก่อนจะวิ่งขึ้นรถและขับเบี่ยงหลบออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นดังนั้นชายหญิงเจ้าของรถแจ๊สได้ลงมาไล่ตามเจ้าของรถวีออสที่ไม่สามารถขยับรถไปได้ไกลนัก เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด พร้อมเปิดศึกย่อมๆ กลางถนน ซึ่งภายหลังจากที่มีการทะเลาะกันไม่นาน ได้มีพลเมืองดีเข้าไปช่วยห้ามปรามเหตุดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตำรวจสน.ศาลาแดง ท้องที่รับผิดชอบที่เกิดเหตุก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่กรณีมาสอบปากคำและตรวจสอบเหตุการณ์ ต่อมามีการตรวจสอบหนุ่มที่เป็นคู่กรณีที่แต่งกายในชุดข้าราชการ คนที่ขับรถเก๋งวีออส พบว่าเป็นทหารเรือ ชั้นยศเรือตรี ส่วนฝ่ายผู้ขับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส ที่เป็นผู้หญิงทราบชื่อคือ น.ส.สุนาวรี อินดิบ วัย 32 ปี อาชีพช่างเสริมสวย ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เข้ามาพูดคุยเจรจากันที่โรงพัก และยินยอมพบตำรวจแต่โดยดี

เรื่องร้อนๆ ที่มาจากอารมณ์บนท้องถนนของกรุงเทพฯ เกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว

ตำรวจได้เข้าไปสอบถามเหตุการณ์ ซึ่งฝั่งทหารเรือยศเรือตรี ให้การว่า รถของคู่กรณีขับอยู่เลนซ้าย แต่ไม่ยอมเลี้ยวซ้ายจึงบีบแตรไล่กัน ซึ่งทางเจ้าของรถแจ๊สได้เข้ามาทุบรถของตนเองก่อน จึงได้เข้าไปทำความเสียหายรถของคู่กรณีบ้างเท่านั้น

ขณะที่ฟากฝั่งของ น.ส.สุนาวรี ก็ให้การบ้างว่า ตนไม่ได้ขับรถปาดหน้ากับคู่กรณีตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ขณะเกิดเหตุนายทหารพยายามขับจี้ท้ายรถ และบีบแตรตลอดทาง ก่อนที่นายทหารคนดังกล่าวจะตะโกนต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคายพาดพิงไปถึงบุพการี ว่าทำไมนำสติกเกอร์มาปิดป้ายทะเบียนรถ พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือ ซึ่งตนโกรธมากที่มีคนมาต่อว่าพาดพิงถึงบุพการีของตน แต่ตนพยายามไม่สนใจ เนื่องจากที่ต้องปิดสติกเกอร์ทับเลขเดิมเนื่องจากไม่ถูกโฉลกกับเลข 1 และ 5 และพยายามใจเย็น คิดว่าเดี๋ยวไฟเขียวแล้วก็จะจบ ก่อนที่ตนจะขับหนีแต่ชายคนดังกล่าวยังไม่ยอม บีบแตรไล่หลัง และยังตะโกนด่าทอกันระหว่างรถไปมา

อารมณ์ร้อนๆ ที่กระทำโดยอารมณ์ชั่ววูบย่อมไม่เป็นผลดีเลย 

กระทั่งติดไฟแดง ชายทหารคนดังกล่าวลงจากรถพร้อมกระโดดถีบท้ายรถของเราและพยายามจะขับรถหลบหนี เราจึงวิ่งเข้าไปหาพยายามเรียกให้ลงมาคุยกัน แต่เขากลับขับหนีจึงวิ่งตามไปพร้อมใช้ข้อศอกกระแทกกระจกคู่กรณีแตก ซึ่งเขาตกใจและย้ายไปนั่งเบาะข้างคนขับพร้อมตะโกนกลับมาใส่ร้ายว่า เราทำร้ายร่างกายเขา พยายามฆ่า และต่อว่าเราเมายา นอกจากนี้ยังข่มขู่ว่า รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร เขาใส่ชุดข้าราชการสีกากี เป็นทหาร เขารู้จักผู้ใหญ่หลายคน และจะเอาเรื่องเราให้ถึงที่สุด หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ได้ลงรถมาเจรจากันโดยนายทหารคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่าให้รับผิดชอบค่าเสียหาย ค่ากระจก 8,000 บาท ซึ่งตนพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย เพราะยอมรับว่าบันดาลโทสะ" น.ส.สุนาวรี กล่าว

ดูเพิ่มเติม
>> ตรวจพบคนไทยดองใบสั่งสูงสุด 144 ใบ !!
>> รวมเหล่า 10 ค่าปรับจราจร .. ที่มือใหม่และบุคคลทั่วไปควรรู้

และระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำทั้งคู่อยู่นั้น ปรากฎว่ามีชายแต่งเครื่องแบบนายทหารระดับสูง ซึ่งเป็นชั้นยศนายพลเดินทางมาที่โรงพักสน.ศาลาแดง และระบุว่าเป็นบิดาของทหารเรือนายดังกล่าวที่เป็นคู่กรณีด้วย พร้อมกับระบุว่า กชายอาจจะเป็นผู้ถูกกระทำก่อนก็ได้ ซึ่งตามปกติแล้วธรรมชาติลูกชายจะเป็นคนอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าใครมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเขาก็จะไม่ยอม เพราะเขาเป็นคนยึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ลูกชายได้รับประกาศนียบัตรจากพระชั้นผู้ใหญ่ระดับประเทศ เป็นคนธรรมะธัมโม ซึ่งที่ผ่านมาจะอยู่ในโอวาทตลอด ส่วนในเรื่องของคดีความพ่อก็ไม่อยากเอาเรื่องค่าเสียหายใดๆ แต่ลูกชายไม่ยอม ซึ่งตนก็อยากให้อภัยซึ่งกันและกัน แต่เชื่อว่าที่มีปัญหากันอาจเคยมีเรื่องกันตั้งแต่อดีตชาติ

เดือดร้อนถึงตำรวจที่ต้องมาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยให้ 

แต่ท้ายสุด พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผกก.สน.ศาลาแดง ก็ออกมาเปิดเผยหลังจากได้ไกล่เกลี่ยให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายต่างตกลงกันได้ไม่ติดใจเอาความกันแต่อย่างใด และต่างฝ่ายต่างขอโทษกันแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหาและเปรียบเทียบปรับทั้ง 3 คน คือ ทหารยศเรือตรี น.ส.สุนาวรี และเพื่อนชายที่นั่งรถมาด้วย ในข้อหา กระทำความอื้ออึงจนประชาชนแตกตื่น สำหรับน.ส.สุนาวรี มีความผิดเพิ่มเติ่มคือ มีการนำสติกเกอร์ปิดป้ายทะเบียนฮอนด้า แจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กญ5331 ได้ทำการเปรียบเทียบปรับเพิ่มเติมตามความผิด พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะขนาดและสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ พ.ศ.2547 ต้องไม่นำวัสดุหรือสิ่งอื่นใดไม่ว่าจะก่อให้เกิดแสงสว่างหรือเรืองแสงหรือไม่ก็ตามมาปิดบังทับบังหรือติดไว้ในบริเวณใกล้เคียงกับแผ่นป้ายทะเบียนรถจนไม่สามารถมองเห็นตัวอักษรประจำหมวดหมายเลขทะเบียนหรือตัวอักษรบอกชื่อกรุงเทพมหานครหรือจังหวัด

การขับรถบนท้องถนน น้ำใจระหว่างกันนับเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้วินัยจราจรทีเดียว 

แต่ล่าสุดก็เหมือนงานจะเข้าหนุ่มทหารเรือผู้นี้ซ้ำอีก เพราะ พล.ร.ท.กาญจน์ ดีอุบล โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นกำลังพลของกองทัพเรือหรือไม่ ซึ่งตามนโยบายของ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนหากกำลังพลทำผิด ต้องดำเนินการลงโทษตามวินัยอย่างเด็ดขาด ส่วนคดีทางอาญา ให้ทั้งคู่กรณีไปดำเนินการกันเอง

ถือเป็นอีกเหตุการณ์ร้อนๆ บนท้องถนนบ้านเราที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย และไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นโรงพักหากเกิดการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และใจเย็น มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทางด้วยกัน

คลิป วุ่นกลางถนนแต่จบที่โรงพัก "ทหารเรือวีออสVSสาวแจ๊ส" ทะเลาะกันเจอปรับทั้งคู่ 

ดูเพิ่มเติม
>> ดีเดย์ 1 ก.ค. "ค้างค่าปรับใบสั่ง" ไม่ได้ต่อภาษีรถ
>> กฎหมายน่ารู้ ... รถป้ายแดงขับตอนกลางคืนได้หรือไม่ ?

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้