รถยนต์ 4 รุ่นที่คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2018

มหกรรมรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยเราคงต้องยกให้สองงานใหญ่หัวปีท้ายปีคือ Bangkok International Motor Show ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนเมษายนให้ผู้คนได้ชื่นชมรถยนต์จากหลากหลายแบรนด์พร้อมเทคโนโลยีใหม่ก่อนที่จะหยุดยาวไปพักผ่อนเล่นน้ำกันในช่วงสงกรานต์ และอีกงานหนึ่งคือ Thailand International Motor Expo ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี รถยนต์ต่างๆที่มีแนวโน้มจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี2019 ก็อาจจะเอามาให้คนไทยได้ยลโฉมกันในงาน Motor Expo 2018 ก่อนเพื่อให้ผู้คนได้เก็บเงินพร้อมกับโบนัสปลายปีได้จับจองรถกันในช่วงปีใหม่ที่จะมาถึงต่อไป และนี่คือแนวโน้มของรถยนต์ที่น่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2018จนถึงต้นปี 2019 เราลองไปดูการคาดการณ์นี้กันครับว่ามีรถอะไรบ้างและจะมีสเปกที่คาดไว้แบบไหน

I. Mazda CX-8

​ใน Product Line ของ Mazdaประเทศไทย Mazda CX-8 จะเป็นรถน้องใหม่ในตลาดบ้านเรา และคาดว่าจะเข้ามาในไทยให้ได้ยลโฉมกันในช่วงปลายปีนี้หรืออย่างช้าปีหน้า CX-8 เป็นรถ SUV 6-7 ที่นั่ง ที่มีแถวนั่งที่3เพิ่มขึ้นมาจากCX-5 ทำให้น่าจะถูกใจลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนแต่ไม่ต้องการระดับรถตู้ ส่งผลให้มิติตัวถังใหญ่ขึ้นคือ มีความยาว 4,900 มิลลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร และสูง 1,730 มิลลิเมตร  ขนาดจะใหญ่กว่า CX-5 ตัวปัจจุบันแน่นอน ไฟหน้าและไฟท้ายจะเป็น แบบLED ล้อเป็นแบบอัลลอยขนาด 19 นิ้ว ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมเหมาะสำหรับคนชอบรถไสตล์ออฟโรด แต่ยังมีความโฉบเฉี่ยวไสตล์สปอร์ต ส่วนภายในยังคุมโทนให้เป็นสีดำ กว้างขวางนั่งสบาย มีที่นั่ง3แถวที่หุ้มด้วยหนังแท้ โดยแถวที่2มีช่องทางเดินเพื่อเข้าสู่แถวที่3ได้ 

รูปลักษณ์ภายนอก Mazda CX-8 ที่ใหญ่กว่า CX-5 

Mazda CX-8 ภายในกว้างขวางพร้อมที่นั่ง 3 แถว

ในด้านขุมกำลังคาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.2 หรือ 2.5 ลิตร Skyactiv พร้อมระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน4ล้อ i-Activ AWD ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรูปลักษณ์ต่างๆคงไม่แปลกไปจาก Mazda รุ่นอื่นๆมากนักเพราะ Mazda ต้องการทำให้ Commonเป็นไสตล์ Mazda อยู่แล้ว มีหน้าจอแสดงผลที่คอนโซลที่ควบคุมดัวยปุ่ม Center Commander เกี่ยวกับระบบช่วยในการขับขี่คิดว่าต้องมีใส่มาไม่ยั้งแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบแสดงภาพรอบคัน ระบบช่วยเบรก ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา ราคาที่คาดการณ์ไว้น่าจะประมาณล้านปลายๆถึง2ล้านต้นๆ(บาท) นับว่าเป็นรถรุ่นใหญ่อีกรุ่นหนึ่งที่เพียบพร้อมทั้งความงามและฟังก์ชั่น

ดูเพิ่มเติม
>> จับได้เต็มๆ! Toyota Camry ใหม่มาแล้ว! เริ่มวิ่งทดสอบในไทยแบบพรางตัว
>> Five Fact :: “ความหมาย ที่มา และความลับ” ของโลโก้รถยนต์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้!

Mazda CX-8 ภายในที่คงกลิ่นอายของรถหรูและดีไซน์ของ Mazda

2. MG GV

MG ค่ายรถสัญชาติอังกฤษ นับว่าเริ่มต้นกับตลาดรถยนต์ในไทยได้ดีไม่น้อย และก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการส่งรถตู้ MG GV ลงสู่ตลาดบ้านเรา โดยเป้าหมายสำคัญคือมาแบ่งส่วนแบ่งทางตลาดกับรถตู้จาก Hyundai H-1 และ Toyota Ventury เลย กำหนดการเปิดตัวของMG GVมีการเลื่อนมาหลายครั้งหลายครา คงต้องมาดูกันว่าคนไทยจะได้ยลโฉมในช่วงปลายปีนี้หรือไม่ เพราะการวิ่งทดสอบในกรุงเทพก็มีผู้คนบนท้องถนนเห็นมาบ้างแล้ว MG GV มีมิติตัวถังคือ มีความยาว 5,168 มิลลิเมตร กว้าง 1,980 มิลลิเมตร และสูง 1,928 มิลลิเมตร  ฐานล้อกว้าง 3,198 มิลลิเมตร เครื่องยนต์จะมีทั้งแบบเบนซินและดีเซล โดยดีเซลขนาด 1.9 ลิตร เบนซินขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ และ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150, 225 และ 143 แรงม้าตามลำดับ ส่วนราคานั้นมีการคาดการณ์ว่าอยู่ที่1ล้านกลางๆบวกลบ(บาท) คงต้องลองดูกันตอนเปิดตัวอีกทีว่า สเปกต่างๆจะเปลี่ยนไปจากรุ่นที่เปิดขายในต่างประเทศมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้เหมาะสมกับตลาดประเทศไทยมากที่สุด เพราะถ้าอ็อฟชั่นมาดีราคาไม่แรงน่าจะมาแย่งส่วนแบ่งตลาดได้แน่ๆ

รูปลักษณ์ภายนอกของรถตู้ MG GV สวยงามน่าคบหา
 

ภายในของ MG GV ที่ดูเป็นรถตู้ไสตล์หรูหรา

MG GVกับมิเตอร์เรียบง่ายและคมชัด

3. MG T60

MG ยังคงแย็บหมัดต่อเนื่องและมีแผนจะส่งรถปิคอัพ MG T60 เข้าสู่ตลาดบ้านเราที่มียอดขายของรถยนต์ประเภทปิคอัพสูงระดับแสนคันมากกว่าทุก Segment ที่มีอยู่ ดังนั้นเค้กชิ้นใหญ่ที่สุดนี้ MG เองก็อยากจะขอส่วนแบ่งด้วย สเปกจะลองอ้างอิงจากที่ MG ไปเปิดตัวมาแล้วในต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศแถบเอเชีย เครื่องยนต์มีทั้ง2ชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงคือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่3400รอบต่อนาที ส่วนเครื่องยนต์เบนซินมีขนาด 2.0 ลิตรและ2.4ลิตร 

รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูบึกบึนของ MG T60

MG T60 กับกระจังหน้าแนวตั้งทำให้ดูแข็งแกร่งมาก

ส่วนบรรทุกของ MG T60 ที่กว้างและดูแข็งแกร่ง

ส่วนระบบอื่นๆที่คาดการณ์สำหรับรุ่นที่จะทำตลาดในไทยเรียกว่าเป็นเรื่องที่คาดเดายากมาก คงต้องรอดูกันตอนเปิดตัวเพราะว่า MG กำลังวิจัยอย่างเต็มที่ว่าระบบอื่นๆควรจะใส่อะไรลงมาบ้างให้สอดคล้องกับลูกค้าคนไทยและไปในแนวทางเดียวกันกับ Product Line ตัวอื่นๆเองของ MG แต่ที่เห็นๆจากรุ่นที่เปิดตัวในออสเตรเลียมีเครื่องเสียงที่มีหน้าจอระดับ 10 นิ้ว แถมยังมีระบบช่วยขับขี่อย่าง Blind Spot Monitor และแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลนอีก ซึ่งถ้ารุ่นในไทยได้ตามนี้นี่มีฮือฮาแน่นอน (ส่วนตัวผมคิดว่ายาก)

ภายในที่เป็นจอระดับ10นิ้วต้องดูกันว่าในไทยจะออกมาในรูปแบบไหน​

4. Toyota Camry

เป็นที่รอคอยของใครหลายคนสำหรับลูกค้ากลุ่มรถซีดานหรูอย่าง Toyota Camry ที่ได้เวลาเปลี่ยนโฉมเสียที มันได้ถูกเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ตลาดในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และจีนได้ยลโฉมไปแล้วก่อนหน้านี้ รูปร่างหน้าตาที่จะมาเปิดตัวในไทยคงไม่หนีไปจากที่เปิดตัวแล้วในประเทศอื่น หลักๆที่ต่างกันน่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆมากกว่า คาดการณ์กันว่าน่าจะเปิดตัวภายในปี2018 เต็มที่อย่างช้าต้นปีหน้า สำหรับสเปกที่ใช้อ้างอิงคือสเปกในประเทศจีนซึ่งคาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับประเทศไทยที่สุด พัฒนาแพลทฟอร์มบนพื้นฐาน TNGA (Toyota New Global Architecture)  โดยมิติตัวถึงมีความยาว 4,900 มิลลิเมตร กว้าง 2,825 มิลลิเมตร และสูง 1,455 มิลลิเมตร  กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาบด้วยไฟหน้าที่รูปทรงเรียวโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ด้านล่างถัดลงมาเป็นแผงระบายอากาศแบบรังผึ้งที่ดูหรูหรา

Toyota Camry ใหม่ที่ภายนอกที่เปิดเผยโฉมหน้ากันไปแล้วในระดับโลก

ส่วนภายในนั้นอลังการงานสร้างล้างภาพเดิมๆออกไปเสียสิ้น ด้วยการวางดีไซน์ใหม่แบบ Y-Shape พาดระหว่างด้านบนลงล่างจากฝั่งคนขับไปยังที่นั่งผู้โดยสาร ตรงกลางเป็นหน้าจอเครื่องเสียงขนาด 7 นิ้วที่พื้นผิวเป็นแบบเปียโนแบล็กสร้างความหรูหราสมกับเป็น Camry หน้าจอแสดงผลมิเตอร์ใหม่ที่ใหญ่และสดใสกว่าเดิม พร้อมจอแสดงผลแบบ Head-up Display ขนาด10นิ้วที่แสดงผลความเร็วและการแจ้งเตือนต่างๆของระบบช่วยเหลือกการขับขี่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ว่านี้คือ Toyota Safety Sense ที่เป็นแพ็คเก็จของฟังก์ชั่นต่างๆรวมกัน จัดกันมาให้เต็มแบบไม่ยั้ง เช่น ระบบเบรกก่อนการชนที่ตรวจจับได้ถึงระดับคนเดินถนน, ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบปรับเปลี่ยนความเร็วตามรถคันหน้าแบบ Full Speed หรือ Adaptive Cruise Control, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยรถออกจากที่จอดรถ พร้อมถุงลมนิรภัย10จุดและกล้องมองหลัง เมื่อมาเปิดตัวในไทยแล้วสเปกจะเป็นอย่างไรคงต้องรอติดตาม แต่ระบบช่วยเหลือคนขับคงมีแน่นอนเพราะรุ่นปัจจุบันก็มีแล้วถึงแม้จะไม่จัดเต็มเท่ากับในต่างประเทศก็ตาม ส่วนราคาคาดว่าคงอยู่ในระดับเดิมอาจจะมีรุ่นที่ราคาสูงกว่าเดิมเล็กน้อยตามไสตล์ Toyota

ภายใน Toyota Camry ที่อลังการงานสร้างดูโมเดิร์นมากๆ

มิเตอร์ดีไซน์ใหม่ของ Toyota Camry

Toyota Camry กับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ทั้งหมดนี้คือ 4 คันที่มีแนวโน้มมากกว่าจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2018 หรืออย่างช้าต้นปี 2019 หากไม่มีเหตุการณ์ใดๆมาทำให้พลิกผัน ส่วนเรื่องสเปกชัดๆอย่างไรคงต้องรอทางเจ้าของแบรนด์ประกาศอย่างเป็นทางการอีกทีซึ่งในตอนนั้นก็จะรู้ราคาและเกรดต่างๆของรุ่นนั้นๆด้วย สำหรับใครที่มีแผนจะซื้อรถคันใหม่ก็คอยติดตามข่าวสารจากเรา Chobrod ต่อไปนะครับ จะได้วางแผนกันได้ทันท่วงทีครับ

ดูเพิ่มเติม
>> รถแต่งงาน คุณค่าที่ควรคู่
>> รถยนต์คันแรกของโลกหน้าตาเป็นอย่างไร