นโยบายการผลักดันแกร็บให้ถูกกฎหมาย กำลังจะได้ข้อสรุป เมื่อทางกระทรวงคมนาคมเผย เตรียมส่งรายละเอียดเพื่อยื่นเสนอให้แก่รัฐบาลภายในเดือนนี้ หากได้ผล เตรียมเฮ บังคับใช้ปีหน้า
อีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาลอันเป็นประเด็นที่สังคมต่างจับตามอง ถึงการส่งเสริมและผลักดันให้แกร็บ (Grab) เป็นบริการที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหลังจากมีการประกาศถึงการดำเนินการนี้ในสภา ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มบุคคลจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มที่อ้างว่ากำลังจะเสียสิทธิ์ที่เคยมี
อย่างกลุ่มผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์แท็กซี่ กลุ่มรถแดง หรือกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ออกมารียกร้องสิทธิ์และทวงถามความยุติธรรม เนื่องจากเป็นกังวลว่าการส่งเสริมให้บริการดังกล่าวนี้ถูกกฎหมายจะทำให้ตนต้องสูญเสียรายได้ไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
แต่ทิศทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มเหล่านี้ กลับสวนทางกับความคิดของคนส่วนใหญ่ เมื่อสังคมมองว่านโยบายของรัฐบาลข้อนี้เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และต่างเฝ้ารอให้มีการออกกฎหมายบังคับใช้อย่างได้ผล และดูเหมือนว่าการรอคอยนั้นจะคุ้มค่า เพราะล่าสุดทางกระทรวงคมนาคมออกมาเปิดเผยแล้วว่า การส่งเสริมให้แกร็บถูกกฎหมายนั้นกำลังจะเป็นจริงในเร็ววัน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม ออกมาเปิดเผยความเคลื่อนไหวถึงแนวทางการผลักดันให้แกร็บเป็นบริการที่กฎหมาย โดยชี้แจงว่า ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมได้ข้อสรุปถึงเรื่องนี้แล้วว่าสามารถทำได้จริง และจะมีผลบังคับใช้อย่างแน่นอน และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาและส่งผลกระทบต่อฝ่ายที่ออกมาเรียกร้อง โดยเริ่มจากการบริการแท็กซี่ (Grab Taxi) จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลและหาแนวทางแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติขนส่ง เพื่อเปิดทางให้รถจักรยานยนต์ร่วมเดินทาง (Grab Bike) โดย คาดว่าจะเร่งสรุปข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดภายในเดือนกันยายนนี้
สำหรับแนวทางการผลักดันนโยบายแกร็บให้ถูกกฎหมายนั้น จะดำเนินการผ่านการแก้กฎกระทรวงคมนาคม เพื่อให้รถส่วนบุคคลสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ โดยมีการกำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่า จะต้องเป็นการเรียกใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ห้ามมิให้วิ่งรับส่งผู้โดยสารตามท้องถนน รวมถึงห้ามจอดรอรับผู้โดยสารตามจุดจอดของแท็กซี่ เพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้มีการกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องการติดป้ายสัญลักษณ์บนรถยนต์ส่วนบุคคลที่นำมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชั่นแกร็บ เพื่อแสดงว่ารถคันดังกล่าวเป็นผู้ให้บริการ Ride Hailing Service โดยเงื่อนไขดังกล่าว จะมีการนำไปใช้ในต่างจังหวัดที่มีการให้บริการแกร็บด้วยอย่างทั่วถึง
ดูเพิ่มเติม
>> เจาะประเด็นร้อน! ย้อนดูความขัดแย้ง แกร็บ-แท็กซี่ไทย ใครกันแน่ที่เป็นปัญหา?
>> แดงเดือด! สองแถวเชียงใหม่กว่า 2 พันคันขู่ตั้งม็อบประท้วงค้านแกร็บถูกกฎหมาย
อีกหนึ่งประเด็นที่เคยถูกนำมาถก นั่นคือการเสียภาษีของบริการแกร็บ อันเป็นข้อโต้แย้งที่หลายฝ่ายออกมาตั้งคำถามว่าในขณะที่ทางกลุ่มแท็กซี่มีการเสียภาษีที่ถูกต้อง แต่แกร็บกลับถูกละเว้น ไร้การตรวจสอบใด ๆ ดังนั้นเมื่อทางแกร็บถูกผลักดันให้ถูกกฎหมาย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องทางรัฐบาลต้องจัดการกำหนดมาตรการที่จะสามารถตรวจสอบการเดินบัญชีของแกร็บให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความสบายใจแก่ทุกฝ่าย และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
โดยให้การชำระเงิน มีการดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่นในมือถือหรือผ่านระบบแสกน QR Code เท่านั้น ควบคู่กับการชำระแบบการโอนผ่านบัญชีหรือการตัดผ่านบัตรเครดิต เพื่อเป็นการการันตีว่าเงินทั้งหมดจะมีการเข้าสู่ระบบและมีการเสียภาษีอย่างถูกต้องในประเทศไทย จึงมีการมอบหมายหน้าที่ให้ทางภาคเอกชนไปพัฒนาระบบชำระเงินดังกล่าวเพื่อรองรับมาตรการนี้ด้วย
ในส่วนของบริการเรียกรถจักรยานยนต์เพื่อรับส่งบุคคลหรือแกร็บไบค์ ทางกระทรวงเผยว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการมากกว่ารถยนต์ เนื่องจากมีข้อผูกพันทางด้านกฎหมายมากมายหลายหน่วยงาน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อนำไปสู่การแก่ไขกฎหมาย ปลดล็อกกติกาบังคับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งเรื่องของพื้นที่การให้บริการ หรือการจดทะเบียนรถ
โดยเบื้องต้นมีแนวทางการยกเลิกเงื่อนไขการห้ามวิ่งรับผู้โดยสารข้ามเขตของวินมอเตอร์ไซค์ ไม่มีกำหนดอย่างเช่นเดิมแล้วที่ระบุว่าวินของจุดนี้ ห้ามไปรับผู้โดยสารจุดอื่น เพราะจะเป็นการจำกัดและละเมิดสิทธิ์กันมากเกินไป โดยจะมีการจัดสรรพื้นที่ของผู้ให้บริการเอาไว้หรือที่เรียกว่า Zoning โดยระบบจะจัดสรรมอบหมายงานให้แก่ผู้ขับขี่ที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อมีผู้เรียกบริการในพื้นที่นั้น ๆ ห้ามจอดรับกตามถนนเช่นเดียวกับแกร็บแท็กซี่ และต้องมีการติดสัญลักษณ์เหมือนกันด้วย แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้เมื่อไหร่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
นโยบายทั้งหมดดังกล่าว หลังได้ข้อสรุปที่จะทำการรวบรวมภายในเดือนกันยายนนี้ ทางกรมขนส่งทางบกจะดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและเสนอเรื่องกลับมายังกระทรวงคมนาคมอีกครั้งในเดือนตุลาคม ก่อนที่จะยื่นเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีภายในสิ้นปี 2562 นี้ และดำเนินการต่อไปยังคณะกรรมการกฤษฎาฎีกา เพื่อตรวจร่างกฎหมายก่อนกลับมายังกระทรวงคมนาคม และประกาศเป็นกฎกระทรวง คาดว่ามีผลบังคับใช้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2563
ดูเพิ่มเติม
>> รักนะ 3,000 แจ้งเบาะแสจับแว้น-เพจชวนซิ่ง รับรางวัลนำจับ ประเดิมแล้วสองราย
>> กรมการขนส่งทางบกทบทวนนโยบาย ปรับเวลารถบรรทุกวิ่งเข้าเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ Chobrod.com