แชร์กันให้ว่อน ผู้ประกอบการรถตู้โพสต์สเตตัสไว้อาลัยบริการรถตู้สาธารณะ เหตุต้องปิดกิจการ เจ๊งไม่เป็นท่าเพราะมาตรการจัดระเบียบขนส่งสาธารณะ ด้านชาวเน็ตแตกเสียงออกเป็นสองฝ่าย คอนเม้นต์เดือดร้อนทะลุไทม์ไลน์
ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะสายใต้ปิ่นเกล้า-หัวหิน โพสต์ Facebook ประกาศแจ้งปิดกิจการสิ้นเดือน 30 มิถุนายนนี้ ออกตัวแบบไม่เกรงกลัวใคร ว่าธุรกิจเจ๊งเพราะ คสช. ของรัฐบาลนายกประยุทธ์ จากกรณีการจัดระเบียบรถตู้ตั้งแต่ช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา โดนระบุข้อความเอาไว้ดังนี้
โพสต์ตัดพ้อจาก Facebook ของผู้ประกอบการรถตู้เจ้าหนึ่ง
เจ้าของโพสต์เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าธุรกิจของตนประสบภาวะขาดทุนหนักมาก จากการจัดระเบียบให้มาอยู่ที่สายใต้ ผู้โดยสารไม่ค่อยมาใช้บริการเพราะการเดินทางไม่สะดวกเช่นที่เดิม จากที่เคยมีรถในวิน 70 คัน ระยะเวลา 3 ปีลดเหลือเพียงแค่ 15 คัน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อต้องมาปะทะกับนักเลงมาเฟียจากวินนักการเมืองท้องถิ่นที่วินหัวหิน ที่คอยจูงงลากคนไปขึ้นที่วิน เผยลูกน้องของตัวเองเคยมีปัญหาถึงขั้นทำร้ายร่างกาย แจ้งความแล้วแต่ก็ไม่พบความคืบหน้าใด ๆ ตนกล่าวเป็นการประสบปัญหาที่รุนแรงมาก บางครั้งเข้าวินไป 3 ชั่วโมงแล้วไม่มีคนมาใช้บริการสักคน
เหตุการณ์การกล่าวอ้างที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. ได้เข้าจัดระเบียบรถตู้โดยสายสาธารณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559 โดยทำการย้ายท่ารถตู้ส่วนหนึ่งไปยังสถานีขนส่งสายใต้ปิ่นเกล้า สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีขนส่งเอกมัย ทำให้เกิดการแย่งผู้โดยารกันระหว่างผู้ประกอบการรถตู้ด้วยกันเอง ทั้งนี้ยังจัดระเบียบรถตู้ทุกสายในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 ก็เกิดภาวะแย่งผู้โดยสารซ้ำกันไปอีก โดยเฉพาะเส้นทางสายใต้ปิ่นเกล้า และสถานีหมอชิต
โดยหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวที่แชร์ออกไปอย่างแพร่หลาย ก็เกิดคอมเมนต์แตกไปหลายทิศทาง ส่วนหนึ่งแสดงความเสียใจและรู้สึกเสียดาย พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เคยใช้บริการของบริการขนส่งสาธารณะรายนี้ บางส่วนมีความเห็นอกเห็นใจและต่อว่าคสช. และก็มีส่วนที่สนับสนุนข้อความเจ้าของโพสต์ว่าตนเองก็ประสบปัญหาเฉกเช่นเดียวกัน
แต่อีกในทิศทาง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการให้บริการของวินดังกล่าว มีการบอกเล่าประสบการณ์ที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจ และกล่าวตักเตือนว่าให้มองความผิดในฝั่งตนเองบ้าง เพราะการให้บริการของรถตู้วินนี้ มีหลายคนที่ประสบปัญหาที่ไม่น่าประทับใจ และมองว่าเป็นเหตุผลประกอบที่สมควรแล้วที่ธุรกิจจะเจ๊งไม่เป็นท่าจนถึงขั้นล้มเลิกกิจการ ดูได้จากการให้คะแนนรีวิวในเพจที่ค่อนข้างติดลบ ขอให้ผู้ประกอบการเอกมองย้อน ทบทวน และยอมรับความจริง ว่าเหตุผลหลักที่แท้จริงก็มีจากการทำตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นเอะอะจะโทษรัฐบาลอย่างเดียวก็เห็นท่าว่าจะไม่ถูกต้องไปซะทั้งหมด
ดูเพิ่มเติม
>> รถตู้ สะดวก รวดเร็ว ไม่แพง ผู้โดยสารนิยม แล้วยังมีปัญหาอะไร
>> เอาใจคนขับรถ ขนส่งทางบกเพิ่ม 65 จุดบริการ "เลื่อนล้อต่อภาษี"
ส่วนหนึ่งของคำวิจารณ์ที่มองว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้ประกอบการของมองย้อนมาดู
สถานการณ์ล่าสุด หลังจากเรื่องไปถึงกรมการขนส่งทางบก ก็ไม่รีรอรุดเข้าไปตรวจสอบกับบ.ข.ส.และสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในทันที เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และเปิดเผยข้อมูลดังนี้
เส้นทาง 978 กรุงเทพฯ-หัวหิน บขส.เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง มีจำนวนรถโดยสารรวมทั้งหมด 101 คัน (เป็นรถบัสปรับอากาศ 9 คัน รถตู้ 92 คัน)วินรถตู้มีจำนวน 6 วิน ได้แก่
กรมการขนส่งทางบกยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่าวินรถตู้จูนแอนด์เจมส์นั้นในช่วงที่ผ่านมาทำการฝ่าฝืนไม่เข้าจุดจอดที่คณะทำงานจัดระเบียบกำหนดไว้ ตั้งแต่ปลายปี 2561 เนื่องจากจะเลิกกิจการและผู้ดูแลวินได้มีการขายรถตู้ออกไปแล้ว และการที่วินจูนแอนด์เจมส์ เลิกกิจการ ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน รถที่เหลือยังเพียงพอต่อการให้บริการ นอกจากนี้ วิน ณ เณร ยังได้มีการจัดซื้อรถมินิบัสจำนวน 10 คัน เพื่อเข้าทดแทนรถตู้ที่ครบอายุการใช้งานไว้แล้ว ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เรามองเรื่องราวได้ในหลายมุม ในมุมของผู้ประกอบกิจการเองก็มองว่าเป็นความผิดของรัฐบาล ในมุมของผู้โดยสารก็มองว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดโดยตรงของทางผู้ประกอบการเช่นกัน และเรื่องราวเหล่านี้ก็สามารถแตกประเด็นกลายให้คนได้ถกกันด้วยหลักฐานและความคิดเห็นส่วนบุคคลได้ กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ และเปิดมุมมองใหม่ ๆ ที่มาแลกเปลี่ยนกันในโพสต์ ๆ เดียว
ดูเพิ่มเติม
>> ปรับ 5 พันโชว์เฟอร์รถเมล์ตีกับผู้โดยสาร สาเหตุเพราะเล่นมือถือ
>> ขึ้นได้ก็ขึ้นไป “ค่ารถเมล์” คนไทยไม่สน แต่อยากได้บริการที่ดีขึ้น
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้
ข่าวการจัดระเบียบรถตู้โดยสารหัวหินเมื่อเมษายนปี 2560 ที่ผ่านมา