Nissan Serena e-Power ปี 2025 เปิดตัว 1.69 ล้านบาท ขุมพลังไฮบริด 1.4 ลิตร นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 24 มี.ค 2568
แชร์ 0

24 มีนาคม 2025 นิสสัน ประเทศไทย เปิดตัว Nissan Serena e-Power ปี 2025 ราคา 1,690,000 บาท ส่งมอบตั้งแต่เดือนมิถุนายน Nissan Serena e-Power ปี 2025 เป็นรถ MPV 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟในรูบแบบการทำงานของของขุมกำลัง e-Power

Nissan Serena e-Power ปี 2025 เปิดตัว 1 รุ่นย่อย

  • Nissan Serena e-Power - 1.4 Highway Star ราคา 1,690,000 บาท

Nissan Serena e-Power ปี 2025 มีให้เลือก 6 สี

  • สีฟ้าเทอร์ควอยซ์บลู หลังคาดำ
  • สีขาวปริซึมไวท์ หลังคาดำ
  • สีขาวปริซึมไวท์
  • สีดำไดมอนด์แบล็ค
  • สีเทากันเมทาลิก
  • สีเงินบริลเลียนท์ ซิลเวอร์

นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ (Nissan Serena e-Power ปี 2025) คอนเซ็ปต์ Big. Easy. Fun. ที่จะมอบ “ความสนุกที่ใช่ ความสบายที่ชอบ” ให้แก่ครอบครัวนักเดินทาง

Nissan Serena e-Power ปี 2025 เป็นรถยนต์เอนกประสงค์แบบเอ็มพีวี (MPV) ขนาดกลางอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ทันสมัย ปราดเปรียว มีระดับมากขึ้น กระจังหน้าดีไซน์ Next Generation V-Motion ดีไซน์สปอร์ตพร้อมสเกิร์ตในตัว ไฟหน้า และหลัง แบบ Full LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังคา และด้านข้าง ที่ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง กระจกรอบคันขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง กระจกบานหน้า และหน้าต่างประตูคู่หน้า เป็นแบบ Acoustic Glass หนา 2 ชั้น

ภายในห้องโดยสาร หน้าจอ TFT 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูงให้ภาพคมชัด พร้อมกราฟิกเคลื่อนไหว 3 มิติ การออกแบบอุปกรณ์ และปุ่มกดต่าง ๆ บนแผงหน้าปัดคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวก เอื้อมถึงได้ง่าย

หน้าจอทัชสกรีน 12.3 นิ้ว เลือกแสดงผลเป็นภาษาไทยได้ พร้อมระบบ NissanConnect ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมทั้งยังมีปุ่ม Camera สำหรับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring : IAVM)

เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำทั้ง 3 แถวที่ใช้โครงสร้าง Zero Gravity นั่งสบายแม้เดินทางไกล เบาะแถว 2 แบบ Captain Seat สามารถปรับแยกได้อย่างอิสระ พร้อมโต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้ ส่วนเบาะแถว 3 สามารถปรับเอน และพับเก็บได้

พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พร้อมช่องเก็บของใต้พื้นที่ด้านหลัง ที่วางแก้วมากถึง 17 จุด  ช่องชาร์จ USB-C ทุกแถวที่นั่ง มีช่องชาร์จแบบ Type A ในที่นั่งแถวหน้าและรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ปแร์อัตโนมัติ 3 โซน พร้อมระบบฟอกอากาศ Plasmacluster

ขุมมอเตอร์ไฟฟ้า 163 แรงม้า ให้แรงบิด 315 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.77 kWH เครื่องยนต์สันดาปภายในรหัส HR14DDe ขนาดความจุ 1.4 ลิตร 3 สูบ แบบหัวฉีดไดเร็กอินเจ็กชั่น รองรับน้ำมัน E10 พัฒนามาสำหรับอี-พาวเวอร์ โดยตรง เทคโนโลยี Mirror Bore Coating ที่ช่วยลดแรงเสียดทาน และลดเสียงจากการสั่นสะเทือน ส่งผลให้เครื่องยนต์เดินได้เรียบ และเงียบมากขึ้น ทำให้การเดินทางที่ราบรื่น นุ่มนวล

คันเร่งอัจฉริยะ อี-เพดัล สเต็ป (e-Pedal Step) เร่งและชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว สะดวกสบายเมื่อต้องขับขี่ในเมือง หรือในช่วงการจราจรคับคั่ง ในขณะเดียวกันการขับขี่ด้วย อี-เพดัล สเต็ป สามารถช่วยเพิ่มการฟื้นฟูพลังงานด้วยการชาร์จกระแสไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น

ใช้ปุ่มกดสำหรับเลือกตำแหน่งเกียร์ ที่ให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ด้วยการกดปุ่มแทนการปรับคันเกียร์ ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย สะอาดตา ใช้งานง่าย  มี N Hold Mode ที่ทำให้สามารถเข็นรถได้ง่าย ให้ความสะดวกเมื่อต้องจอดซ้อนคันรวมถึง เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold ที่เสริมความสะดวกในการใช้งาน

มีรูปแบบการขับขี่ 3 โหมดหลัก ได้แก่ Standard mode , Sport mode และ Eco Mode มีโหมด EV mode สามารถปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ

Nissan Serena e-Power ปี 2025 มีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360° Nissan Safety Shield พร้อมระบบป้องกัน และปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ครบครัน

  • ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า หรือ Intelligent Forward Collision Warning (IFCW) ที่สามารถตรวจจับรถยนต์ด้านหน้าได้ถึง 2 คัน
  • กระจกมองหลังอัจฉริยะ Intelligent Rear View Mirror (IRVM)  
  • ระบบสัญญาณแจ้งหยุดฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน  (Emergency Stop Signal - ESS)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control - ICC) สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วตามรถคันหน้าจนถึงหยุดนิ่ง
  • ระบบป้องกันการชนรถในจุดอับสายตา (Intelligent Blind Spot Intervention - IBSI)
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning - LDW) ที่ทำงานคู่กับระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง (Intelligent Lane Intervention - ILI) และอื่น ๆ 

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้องเมื่อไม่สามารถเลี่ยงอุบัติเหตุได้ เช่น ถุงลมนิรภัย SRS 6 ใบ บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย และระบบที่ให้ความสะดวก และปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ เช่น ระบบล็อกรถอัตโนมัติ Walk-Away Door Lock พร้อมระบบปลดล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทเข้าใกล้ตัวรถ 

โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า

“นิสสันเป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมานานกว่า 72 ปี และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่ๆ และนวัตกรรมของยานยนต์อย่างต่อเนื่องสู่ตลาดของประเทศไทย เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม การเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้การเปิดตัว นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์สำหรับประเทศไทย ที่นิสสันมองเห็นถึงความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นของรถยนต์แบบ MPV ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มครอบครัว และผู้ที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ ด้วยยานยนต์ที่ให้ความสนุกสนาน สอดรับกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่”

“นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์ ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ต่อจาก คิกส์ อี-พาวเวอร์  ซึ่งหลังจากนี้  นิสสันมีแผนที่จะนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ รุ่นอื่นๆ เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ