Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic ปี 2023 ปลั๊กอินไฮบริดใน C-Class โฉมปัจจุบัน ใหม่เจเนอเรชันที่ 4 ที่มากับ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี มอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh กำลังสูงสุด 313 แรงม้า
อ่านเพิ่มเติม - Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ปี 2023 รถตู้พรีเมียม เปิดตัว 3,100,000 บาท
Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ในรุ่น C-Class ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็นเจเนอเรชันที่ 4 ให้กำลังสูงสุดรวม 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดรวม 550 นิวตันเมตร
โดยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบพลังไฟฟ้าล้วน (EL) ได้ถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้า หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) จะใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ซึ่งด้วยความสะดวกในการเลือกใช้งานได้ทั้งสองระบบ ประกอบกับการชาร์จพลังไฟฟ้าด้วยเวลาไม่นาน หากเป็นการขับขี่ภายในเมือง ผู้ใช้สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อย่างสะดวกสบายด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
การออกแบบมีเอกลักษณ์ด้วยดีไซน์ใหม่ในคอนเซ็ปต์ Sensual Purity ที่ให้สัมผัสที่ผสมผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา
ดีไซน์ภายนอกดูโดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่พร้อม Star pattern อันเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมความละเอียดมากกว่า 1 ล้านพิกเซลในโคมไฟแต่ละข้าง กับรายละเอียดของการทำงานประสานกันระหว่างฟังก์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ที่สามารถควบคุมไฟ LED ให้สอดรับกับสถานการณ์บนท้องถนนได้อย่างอิสระ และ ULTRA RANGE Highbeam ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เน้นความสปอร์ต ส่วนด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่งและล้ออัลลอย AMG 5 twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว โดยในภาพรวม ตัวรถมีขนาดกว้างขึ้นในทุกมิติมอบการเดินทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารในที่นั่งด้านหลัง นอกจากนี้ ถังน้ำมันขนาดความจุ 50 ลิตรยังช่วยมอบอิสรภาพในการเดินทางที่มากยิ่งกว่าที่เคย
สำหรับดีไซน์ภายในของรถยนต์คันนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งภายในที่ถอดแบบมาจากรุ่น S-Class ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD ความละเอียดสูงบริเวณด้านหน้าของผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วแสดงผลคมชัด สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ "Discreet”, “Sporty”, “Classic" พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มด้วยหนัง
คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่พร้อมจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วที่เบี่ยงเป็นมุมเฉียงมายังผู้ขับขี่เล็กน้อย มาพร้อมระบบปรับอากาศควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ 2 โซนรวมถึงระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นล่าสุดเอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง รวมถึงฟังก์ชันการสแกนลายนิ้ว มือ (fingerprint scanner) ที่สามารถพาผู้ใช้เข้าสู่ระบบ MBUX ที่มีการตั้งค่าเฉพาะบุคคลได้รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น
ระบบจะช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ AI ที่ช่วยปรับการตั้งค่าของรถให้ดั่งเสมือน Comfort zone ของคุณ นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูงและส่วนรองรับศีรษะที่ได้รับการออกแบบใหม่ และไฟล้อมรอบห้องโดยสาร premium Ambient Lighting 64 สี รวมถึงฟังก์ชันสุดไฮเทคอีกมากมายที่จะเพิ่มความสะดวกสบายและน่าประทับใจในทุกการขับขี่
ระบบความปลอดภัยอาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), Lane Tracking package ที่ประกอบด้วยระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) รวมถึงระบบช่วยจอดด้วย PARKTRONIC ที่ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง พร้อมกล้องถอยหลังและเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ช่วยทำให้เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ตัวถังยังมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดพร้อมห้องโดยสารที่แข็งแรงเป็นพิเศษและโครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“หลังจากที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แนะนำ The new Mercedes-Benz C-Class รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกมาเป็นคันแรกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นเคย วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนออีกหนึ่งเวอร์ชันใหม่ของรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดรุ่นหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยคันนี้ กับ Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic รุ่นปลั๊กอินไฮบริดใหม่ที่ผสานขุมพลังเบนซินกับพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 4 ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในทุกสภาพถนน ทั้งยังประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะผู้ขับขี่สามารถเลือกขับด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยัง ขอแนะนำ Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select ใหม่ ที่สุดแห่งความหรูหราในแบบฉบับอเนกประสงค์ของรถตู้ระดับพรีเมียมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 11 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทั้งสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการความกว้างขวางสะดวกสบายในวันทำงาน และการเป็นรถยนต์สำหรับการใช้งานได้อีกหลายรูปแบบในวันหยุดหรือในทุกวันที่ต้องการ การเปิดตัวรถยนต์ทั้งสองรุ่นในวันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์มั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ารุ่นใหม่ที่สัมผัสได้ถึงจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทั้งสองเซกเมนต์ในตลาดรถยนต์ลักชัวรีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ