บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยไฮไลท์ในงาน Motor Expo 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม ได้นำ BMW XM Label Red คันจริงให้ได้สมัผัสในงาน พร้อมเปิดราคาจำหน่ายที่ 17,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI Standard)
BMW XM Label Red ปี 2023
ราคาจำหน่าย 17,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม BSI Standard)
อ่านเพิ่มเติม - BMW XM 2023 รุ่น Label Red เปิดตัวในไทย สุดลิมิเต็ด 500 คันทั่วโลก รับจองแต่ยังไม่เผยราคา
BMW XM Label Red รถยนต์เรือธงที่รวบรวมเอาที่สุดแห่งขุมพลัง ความพิเศษ และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและทรงพลังแบบไม่เหมือนใคร ที่ผลิตมาในจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 500 คันเท่านั้น พิเศษด้วยการระบุเลขรหัส ‘1 of 500’ บนป้ายบริเวณด้านล่างของจอ Control Display บ่งบอกถึงความเป็นรถ ‘ลิมิเต็ด เอดิชัน’ อย่างแท้จริง
ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือสีตัวถังภายนอกสีดำ BMW Individual Frozen Carbon Black Metallic กระจังหน้าทรงไตคู่ตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู M พร้อมขอบสองชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ด้านหน้ามาในรูปทรงแนวนอน
ขอบด้านนอกของกระจังหน้าทรงไตคู่แต่ละข้างยังตกแต่งด้วยสีแดง Toronto Red metallic ในขณะที่ขอบด้านในมากับไฟ Iconic Glow รูปทรงโค้งมนเป็นวงแหวนไฟที่ให้แสงอย่างคมชัดและต่อเนื่อง แถบเน้นสีมันวาวตัดกับพื้นผิวสีแบบด้านซึ่งส่องแสงระยิบระยับ
ภายในห้องโดยสาร เบาะหนังสีดำ Black ตัดกับสีแดง Fiona Red BMW Individual Merino ตราสัญลักษณ์ ‘XM’ สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ตรงใต้หน้าจอ Control Display และแถบตกแต่งภายในคาร์บอนไฟเบอร์แบบซาติน ประดับด้วยด้ายเน้นสีแดงและน้ำเงิน
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M มีส่วนประกอบตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M และแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวกและลบเป็นสีแดง
คุณสมบัติพิเศษเฉพาะของ BMW XM Label Red ได้แก่ ตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย ส่วนห้องโดยสารด้านท้ายแบบ M Lounge
เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อน M HYBRID ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 550 กิโลวัตต์/748 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร เครื่องยนต์สันดาปยังให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 750 รอบต่อนาที ที่ 1,800 – 5,400 รอบต่อนาที ส่วนระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร
สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีระยะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 96 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา ระบบเฟืองท้าย M Sport
ช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional, ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go และ ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus
ติดตั้งระบบ Teleservices ตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เซ็นเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบ Active Protection และระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ