ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม เรื่อง การเร่งรัดยกระดับมาตรฐานมลพิษรถยนต์เป็น Euro 5 และ 6 เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก ณ ห้องประชุม 601 อาคารสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
9 แบรนด์รถในไทยหารือกับสศอ. เตรียมผลิตรถยูโร 5
นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทรถยนต์ 9 ยี่ห้อ ได้แก่ BMW, GM, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, MG, Suzuki และ Toyota ได้ตอบรับที่จะผลิตรถยนต์มาตรฐานมลพิษระดับยูโร 5 ในรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นทุกคันที่ขายในประเทศไทยภายในปี 2564 เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยระยะยาว รวมทั้งจะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM ได้กว่าร้อยละ 20 – 25
“บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ขานรับนโยบายภาครัฐและตระหนักว่าแม้การยกระดับมาตรฐานรถยนต์ยูโร 4 เป็นยูโร 5 และยูโร 6 โดยเร็วจะมีต้นทุนการปรับเปลี่ยนและต้นทุนการผลิตรถยนต์สูงขึ้นก็ตาม แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าและประชาชนทุกคนต้นทุนดังกล่าวก็คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับต้นทุนจากปัญหาสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัย N95 และเครื่องกรองอากาศแบบกรองฝุ่น PM 2.5 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอื่น ๆ “ นายณัฐพล กล่าว
ณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ได้ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 15,000-20,000 บาทต่อคัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องใช้เงินซื้อหน้ากาก N95 ทุกวันคิดเป็น 18,250 บาทต่อปีต่อคน เพื่อป้องกันฝุ่นจากรถมาตรฐานยูโร 4 ที่มีกว่า 10 ล้านคันแล้ว เฉพาะคนในเขตกรุงเทพมหานคร 11 ล้านคน คิดเป็นเงินที่ต้องจ่ายถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเครื่องกรองอากาศอีกเฉลี่ย 20,000 บาทต่อหลังคาเรือน และต้องรวมกับการเปลี่ยนไส้กรอง ดังนั้นหากซื้อรถยนต์ใหม่มาตรฐานยูโร 5 ที่แพงขึ้นจะคุ้มค่ากว่า”
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ Eco car รุ่นที่ 2 จำนวน 27 รุ่นและรถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ 11 รุ่น รวมทั้งรถยนต์นำเข้า 19 รุ่น สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น ซึ่งมีราคาเริ่มต้นเพียง 467,000 บาท
ดูเพิ่มเติม
>> ไทยล้ำหน้า ผุดโครงการ “รีไซเคิลซากรถยนต์” ต้นแบบให้ชาติในอาเซียน
>> การคลังเตรียมรื้อภาษีรถยนต์ใหม่ พร้อมตั้งทีมเอกชนดันรถยนต์ EV
บรรยากาศการประชุม
นายณัฐพล กล่าวว่า บริษัทรถยนต์ทุกรายมองว่าการใช้รถยนต์ควรมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องและต้องยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันให้เป็นยูโร 5 อย่างไรก็ตาม รถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ยังคงมีการปล่อยฝุ่น PM จากไอเสียเครื่องยนต์ที่มีความเข้มข้นกว่ารถยนต์มาตรฐานยูโร 5 ถึง 5 เท่าตัว
ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เดิมค่ายรถยนต์มีกำหนดการยกระดับมาตรฐานยูโร 4 เป็นยูโร 5 ในปี 2567 ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น เช่น งบประมาณจากงานวิจัย การปรับเปลี่ยนอะไหล่ให้รองรับน้ำมันยูโร 5 ส่วนราคาแต่ละค่ายจะปรับขึ้นเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับการคำนวณต้นทุนและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการปรับจากมาตรฐานยูโร 3 ขึ้นมายูโร 4 มีการแข่งขันในตลาดสูง ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้ผลิตน้ำมันต้องยกระดับน้ำมันให้เป็นยูโร 5 ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์
เจ้าหน้าที่ตัวแทนจาก Suzuki
เจ้าหน้าที่ตัวแทนจาก Toyota
เจ้าหน้าที่ตัวแทนจาก Mercedes
คราวหน้าทาง Chobrod ยังมีข่าวที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันต่ออย่าลืมติดตามกันนะคะ
ดูเพิ่มเติม
>> ฝุ่นพิษปกคลุม ปอดคนกรุงเทพฯ พังทลาย? ฤาคนร้ายคือ “ดีเซล”
>> ตรวจเข้ม! ขนส่งสั่งห้ามรถบรรทุกควันดำเข้ากทม. ลงโทษสูงสุดปรับ 5 พันบาท!
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้