12 ค่ายรถรับลูกนโยบายภาครัฐ ร่วมผลิตรถยนต์ลดปัญหาฝุ่นพิษ

ถือเป็นความคืบหน้าอย่างมากกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือฝุ่น PM2.5 ที่แม้ว่าขณะนี้เจ้าเบาบางลงแล้วโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่หากเมื่อมองไปถึงสาเหตุของปัญหา ก็มีการระบุอยู่บ่อยครั้งว่า "รถยนต์" ที่วิ่งกันขวักไขว่บนท้องถนน คือ อีกหนึ่งสาเหตุของฝุ่นพิษที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยเฉพาะกลุ่มการใช้เครื่องยนต์ที่พ่นไอเสียที่เป็นมลพิษต่ออากาศ ทำให้ช่วงที่ผ่านมา "รถยนต์" ในประเทศไทยที่วิ่งกันจ้าละหวั่นกลายเป็นผู้ร้ายทันที และภาครัฐเองก็เล็งเห็นถึงปัญหาของเรื่องนี้ จึงพยายามผลักดันในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องมาร่วมกันหาทางออกด้วย

ปัญหามลพิษอันเป็นปัจจัยมาจากรถยนต์กำลังจะได้รับการแก้ไข

ล่าสุดก็มีความคืบหน้าอย่างที่บอกเอาไว้ในข้างต้น เมื่อนายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ร่วมมือกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 12 ยี่ห้อ โดยทั้งหมดยืนยันและแสดงเจตจำนงในการจะยกระดับมาตรฐาน "การระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์" เพื่อให้เทียบเท่ากับระดับมาตรฐานยูโร 5 ให้ได้ภายในปี 2564 และให้ได้มาตรฐานระดับยูโร 6 ในปี 2565 เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหาฝุ่นมลพิษของประเทศไทย

และนี่ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีไม่น้อย ที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งผู้ผลิต และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ หรือซัพพลายเชน ต่างมีความพร้อมร่วมกัน อีกทั้งหากได้เป็นการยกระดับมาตรฐานให้ดีขึ้นได้จริง ก็จะมีผลต่อการส่งออกรถยนต์จากฐานผลิตในประเทศไทยสู่ตลาดรถยนต์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแบรนด์ในทั่วโลกได้อีกด้วย

รถยนต์ที่เคยเป็นสาเหตุของปัญหามลพิษ จากผู้ร้ายกำลังจะกลายเป็นพระเอก 

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีการปรับสู่มาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 ที่ช้ากว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากปัญหาความพร้อมในด้านต่างๆ ทำให้ประเทศไทยช้ากว่าประเทศในภูมิภาคยุโรปเกือบ 10 ปี ทั้งที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีนโยบายที่ช้ากว่ายุโรปประมาณ 2-3 ปีเท่านั้น โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อมีการปรับใหม่ จะทำให้สามารถช่วยลดฝุ่นละออง PM2.5 ลดลง 80% ในอนาคต

ขณะที่อีกความเห็นจาก นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สำหรับผู้ผลิต และนำเข้ารถยนต์ทั้ง 12 ยี่ห้อ ประกอบไปด้วย ออดี้ บีเอ็มดับเบิ้ลยู อีซูซุ มาสด้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ มิตซูบิชิ มินิ เอ็มจี นิสสัน ซูซูกิ โตโยต้า และวอลโว่ ซึ่งทั้งหมดแจ้งมาแล้วว่าพร้อมจะยกระดับมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 พร้อมกัน

12 ค่ายรถยนต์พร้อมใจรับลูกนโยบายรัฐบาลเพื่อร่วมกันแก้ปัญหามลพิษ 

ดูเพิ่มเติม
>> รถเครื่องดีเซลก่อมลพิษ “มากกว่า” รถเครื่องเบนซิน จริงหรือ ?
>> ก.อุตฯเร่งบังคับมาตรฐานรถยนต์ Euro5 หวังแก้ปัญหาฝุ่น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกด้วยว่า การปรับสู่การผลิตรถยนต์ยูโร 5 และยูโร 6 จะไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนของการผลิตรถยนต์ รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนด้วย เพราะที่ผ่านมาก็มีการผลิตรถยนต์ตามมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 เพื่อการส่งออกไปต่างประเทศจากฐานการผลิตในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันพบว่าประเทศไทยมีรถที่ได้มาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 รวมทั้งสิ้น 171 รุ่น

"ต้นทุนรถยนต์ยูโร 5 จะไม่เพิ่มขึ้น เพราะเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้กันมานานแล้ว แต่สำหรับมาตรฐานยูโร 6 จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมาราว 10,000 บาท/คัน" นายณัฐพล กล่าว

ภาพการแก้ไขปัญหาฝุ่นแบบนี้ ในอนาคตเราอาจจะไม่เจอแล้ว 

ปัญหาฝุ่นกับวิธี งดใช้รถส่วนตัวไปทำงานที่ผ่านมา

อนึ่ง มีรายงานเพิ่มเติมว่ายังมีรถยนต์อีก 3 ยี่ห้อที่ไม่ได้เข้าร่วมแสดงเจตจำนง คือ ฟอร์ด จีเอ็ม และฮอนด้า โดยฟอร์ดและจีเอ็มให้เหตุผลว่า จะต้องรอนโยบายเรื่องดังกล่าวจากบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ และหากมีแนวทางที่ชัดเจนออกมาบริษัทก็พร้อมดำเนินการร่วมด้วยทันที ส่วนฮอนด้า มีการแจ้งว่ามีนโยบายผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงาน E85 เป็นแนวทางของบริษัทอยู่แล้ว และไม่มีผลกระทบใดๆต่อปัญหามลพิษ

ดูเพิ่มเติม
>> ตรวจเข้ม ! ขนส่งสั่งห้ามรถบรรทุกควันดำเข้ากทม. ลงโทษสูงสุดปรับ 5 พันบาท !
>> เจาะคำถามล้วงคำตอบ : สอบความความคิดเห็นจากคนไทยเรื่องของ ฝุ่น Pm 25

คราวหน้าทาง Chobrod ยังมีบทความที่น่าสนใจมาฝากเพื่อนๆ กันต่อ อย่าลืมติดตามกันนะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้