ภาครัฐฯ อวดผลงานของโครงการ Taxi OK โครงการที่ออกมาเพื่อยกระดับมาตรฐานบริการรถแท็กซี่ขนส่งเพื่อมอบความมั่นใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และบริการที่เหนือกว่า พบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้ใช้รถโดยสารเป็นอย่างดี มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Taxi OK นี้ไปแล้วเกือบ 70,000 ครั้ง และมีผู้เรียกใช้งานเฉลี่ยกว่า 2,000 ครั้งต่อวัน
ใช้เหอะ Taxi OK ประหยัดกว่า! รัฐฯ เผยผลตอบรับดีโชว์มีผู้ใช้กว่าวันละ 2,000 ครั้ง
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ให้ที่ประชุมรับทราบการรายงานในโครงการ Taxi OK เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ให้มีมาตรฐานความปลอดภัย และการให้บริการที่มีคุณภาพกว่าแท็กซี่แบบเก่า พบว่ามีการตอบรับของประชาชนเกี่ยวกับโครงการนี้ดีมาก มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ไปใช้บริการแล้ว 69,684 ครั้ง และมีประชาชนเรียกใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 ครั้ง ซึ่งขณะนี้มีแท็กซี่ที่ทำการจดทะเบียนเป็น Taxi OK แล้วกว่า 2,824 คัน และคาดว่าจะมีรถแท็กซี่ที่เข้ามาจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
จากสถิติของกรมขนส่งทางบกมีรายงานว่าพื้นที่ที่มีประชาชนเรียกใช้บริการแท็กซี่มากที่สุดจะเป็นบริเวณ แยกลาดพร้าว, สวนจตุจักร, ถนนสุขุมวิท, บีทีเอสอโศก ซึ่งทางรัฐบาลจะส่งเสริมให้ประชาชนมีการใช้ Taxi OK ให้มากขึ้นในพื้นที่นี้ โดยทางกรมการขนส่งฯ ได้กำหนดบังคับให้รถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ทุกคันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบคุมเพื่อความปลอดภัยเพื่อเข้าโครงการ Taxi OK ดังต่อไปนี้
โดยตัวรถจะเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการแท็กซี่กลางด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ผ่านศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้างของเอกชนเพื่อส่งข้อมูลการเดินรถลักษณะ on-line แบบ Realtime
รถที่จดทะเบียนใหม่เป็นแท็กซี่จะต้องเข้าโครงการ Taxi OK ทุกคัน
สำหรับบริการ Taxi OK สามารถเรียกใช้รถแท็กซี่ผ่านแอพพริเคชั่นได้ง่ายๆ โดยมีค่าบริการเพียง 20 บาทเท่านั้นต่อการเรียกหนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงที่ให้บริการรถโดยสารอย่างผ่านแอพฯ อย่าง Uber หรือ Grab พบว่าในเส้นทางเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน แม้จะรวมค่าบริการของ Taxi OK 20 บาทไปแล้ว ราคาค่าโดยสารยังถูกกว่าทั้ง Uber และ Grab ยิ่งถ้าไปในระยะทางไกลๆ ความต่างของค่าโดยสารจะยิ่งเห็นได้ชัดเจน
ปุ่ม SOS ควรใช้เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
เพิ่มความสะดวกรวมเร็วในการเดินทางด้วยด้วยบริการจาก Taxi OK อีกทั้งในเรื่องความปลอดภัยก็มั่นใจได้มากขึ้น ด้วยปุ่มฉุกเฉิน SOS ที่เพียงแค่กดปุ่มเมื่อมีเหตุร้ายในขณะที่นั่งโดยสารอยู่ของผู้โดยสาร ก็จะส่งสัญญาณแจ้งไปที่ศูนย์ในทันที แต่จากรายงานพบอีกว่า มีพฤติกรรมของผู้โดยสารที่กดปุ่ม SOS นี้เล่นโดยไม่จำเป็น เฉลี่ยถึง 70-100 ครั้งต่อวัน จึงขอประชาสัมพันธ์สำหรับประชาชนที่ใช้บริการ Taxi OK นี้ว่าควรกดปุ่ม SOS เฉพาะเวลาฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
เมื่อดีขนาดนี้กับมาตรฐานใหม่ของรถโดยสารเมืองไทย อย่าลืมไปลองใช้บริการกันดู จะไม่มีประโยคคลาสสิคเมื่อยามต้องการรถ Taxi แล้วไม่ไปอ้างว่า “แก๊สหมด” มารบกวนใจคุณอีกต่อไปเพียงเรียกใช้ Taxi OK
ดูเพิ่มเติม