เปิดสเปค ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นจำหน่ายไทย เตรียมจำหน่ายสิงหาคมนี้

ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 เป็นรถยนต์ไฮบริดเทคโนโลยีใหม่จาก เอ็มจี ซึ่งเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นที่ 2  มาพร้อมขุมพลังไฮบริด HYBRID+ เครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า เคลมเบื้องต้นน้ำมันหนึ่งถังวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที

อ่านเพิ่มเติม

- ทำความรู้จักกับระบบ HYBRID+ ขุมพลังของ All New MG 3 ปี 2024 ที่เตรียมเปิดตัวในไทยสิงหาคมนี้
- เอ็มจี เปิดภาพทดสอบ All New MG3 Hybrid ในไทย มาแน่ครึ่งปีหลัง 2024

สเปคเบื้องต้นก่อนเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นจำหน่ายไทย

• รถแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู
• ขุมพลังไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E20
• อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 8 วินาที
• แบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
• ปรับโหมดควบคุมการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Standard และโหมด Sport ทั้งยังมีระบบ KERS เหมือนในรถไฟฟ้าที่สามารถปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ
• ระบบความปลอดภัยด้วยระบบ ADAS ที่เกี่ยวข้อง 8 ระบบ
• ระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)
• กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition

ดีไซน์และอุปกรณ์ ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 รุ่นจำหน่ายไทย

ใการออกแบบ ALL NEW MG3 HYBRID+ เคลทเป็นรถที่มีความกว้างมากที่สุดในคลาส B-Segment ด้วยขนาด 1,797 มิลลิเมตร 

• ดีไซน์ไฟหน้า LED แบบใหม่ Hunter Eye Headlamp
• ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ
• ตัวถังเน้นความโค้งมน
• ภายในห้องโดยสาร Modular Concept ออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ
• ห้องโดยสารทูโทนขาวสลับดำ
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว
• ระบบเชื่อมต่อรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
• กุญแจรีโมทอัจฉริยะแบบ Smart Key
• แอร์สำหรับที่นั่งแถวหลัง
• ห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร

ALL NEW MG3 HYBRID+ ปี 2024 ถูกทดสอบ รวมระยะทางมากกว่า 14,000 กิโลเมตร กับการวิ่งทดสอบบนถนนจริง (Road Test) ในทวีปยุโรปเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนเต็มในช่วงฤดูร้อน และมากกว่า 10,000 กิโลเมตร ใน 2 เดือนเต็มของช่วงฤดูหนาว ระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร 

วิ่งทดสอบและปรับจูนในสถานการณ์ที่หลากหลาย (Multi-scenario Road Test and Tuning) โดยมี สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ และพื้นผิวบนท้องถนนที่แตกต่างกัน อาทิ สนามทดสอบ กว่างเต๋อ (SAIC - GM Guangde Proving Ground) ในมณฑลอานฮุย (Anhui) สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ซึ่งเป็นสนามทดสอบรถทุกรุ่นของ SAIC MOTOR CORPORATION ก่อนปล่อยสู่ตลาด

ตลอดจนทดสอบวิ่งบนถนนสาธารณะ (Public Road) บนทางไฮเวย์ รวมถึงการทดสอบวิ่งในสนามที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นอย่าง Hailar Ultra-cold Proving Ground ในเมืองไฮลาเออร์ ประเทศมองโกเลีย กับการทดสอบแบบ Extreme Cold Test ภายใต้อุณหภูมิ -30 °C  ทั้งยังผ่านการทดสอบการวิ่งใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัด หรือ Extreme Hot Test ภายใต้อุณหภูมิพื้นผิวสูงถึงกว่า 70

สำหรับในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมวิศวกรได้นำ ALL NEW MG3 HYBRID+ วิ่งทดสอบ รวมระยะทางวิ่งแล้วกว่า 10,000 กิโลเมตร ทั่วทุกภูมิภาค

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ALL NEW MG3 HYBRID+ เป็นรถยนต์ไฮบริดที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค และถือเป็นโกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ที่ได้นำเทคโนโลยีอย่าง ระบบ HYBRID+ สู่การรังสรรค์รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานรถของลูกค้า ทั้งยังเป็นยนตรกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เอ็มจี ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สีเขียว (Green Mobility) ให้กับตลาดยานยนต์โลก โดย ALL NEW MG3 HYBRID+ ถูกวางให้เป็นหนึ่งในโมเดลยุทธศาสตร์ (Strategic Model) ประจำปีนี้ของ เอ็มจี ในการบุกและปลุกตลาด B-Segment ในเมืองไทยกับการเป็นยนตรกรรมที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความสมดุลระหว่างความประหยัดและสมรรถนะที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยราคาที่เข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่าย ซึ่ง เอ็มจี มีแผนเปิดราคาจัดจำหน่ายของ ALL NEW MG3 HYBRID+ อย่างเป็นทางการภายในเดือนสิงหาคมนี้”

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ