สแกนเนีย เปิดตัว รถบัสโดยสาร สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 ปี 2024 แชสซีส์รุ่นใหม่ทั้งคัน เครื่องยนต์ยูโร 5 จุดเด่นด้านระบบความปลอดภัยสูงสุด การประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 (Generation Euro 5) มีแชสซีใหม่ ให้เลือก 3 แบบ
สำหรับราคาขายนั้น รุ่น 6 ล้อ เริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท ซึ่งสแกนเนีย (Scania) มีหน่วยงานบริการด้านการเงิน (ไฟแนนซ์) ของตัวเอง ยืดหยุ่นและให้เงื่อนไขพิเศษ
อ่านเพิ่มเติม - สแกนเนีย มองตลาดรถบรรทุกปี 2024 ฟื้น เปิดแผนครบทุกด้าน พร้อมรถใหม่ มาตรฐานยูโร 5
สแกนเนีย ประเทศไทย สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 (Scania New Bus Generation EURO 5) พร้อมแชสซีส์ใหม่
คุณสมบัติเด่นล่าสุดของตระกูลรถยูโร 5 ด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 8% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ยูโร 3 ของสแกนเนีย มีระบบเทคโนโลยีบำบัดมลพิษในไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงภายในเครื่องยนต์ (Selective Catalytic Reduction : SCR) โดยเติมแอดบลู (AdBlue) หรือ สารยูเรียที่ไม่เป็นอันตรายในการบำบัดไอเสียให้แปรสภาพจากไนโตรเจนออกไซด์ที่เป็นก๊าซพิษเป็นไนโตเจนกับน้ำก่อนปล่อยออก ทำให้ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยลง ลด PM2.5 ได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับรถยูโร 3 และระบบเกียร์ใหม่ที่มีเกียร์เดินหน้าถึง 12 เกียร์ (จากเดิม 8 เกียร์เดินหน้า)
ชูระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดในตลาดประเทศไทย ใหม่ล่าสุดกับ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (LDW), ระบบเตือนจุดอับสายตา(Blind spot warning), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ที่เบรคจนถึงจุดหยุดนิ่ง ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ที่ปรับความเร็วรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ และยังออกตัวเองเมื่อจอดไม่เกิน 3 วินาที
ระบบความปลอดภัยเดิมที่ยังมีอยู่ครบและยังทำงานได้ดีขึ้น เช่น เบรก ABS และ EBS เบรกไอเสียและเบรกเสริมรีทาร์เดอร์ ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ESP) ระบบกันลื่นไถล (Traction Control) ฯลฯ
นางสาวดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายงานขาย และกลยุทธ์ประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการบุกตลาดและการเปิดตัวรถโดยสารยูโร 5 ใหม่เป็นเจ้าแรกของไทยว่า
การมาถึงของ สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 (Scania New Bus Generation EURO 5) พร้อมแชสซีส์ใหม่ จะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งให้กับวงการรถโดยสารของไทย ซึ่งสแกนเนียมีเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยูโร 5 ที่ใช้ในงานขนส่งจริงมามากกว่า 15 ปี โดยมีการพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้นทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง เอเชีย โอเชียเนีย และยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในทั่วทุกภูมิภาคของโลก
สำหรับหัวใจที่ทำให้ สแกนเนีย ครองความเป็นอันดับหนึ่งรถบัสโดยสารพรีเมียมนั้น มาจากการผลิตที่คำนึงถึงทุกส่วนสำคัญของผู้ประกอบการ คือ ความคุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน ทั้งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และความคงทนของแชสซีส์ ความคุ้มค่าด้านต้นทุนจากการประหยัดน้ำมัน ความแข็งแรง เป็นผู้นำเรื่องระบบความปลอดภัยสูงสุด ช่วยลดการศูนย์เสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน มีช่วงล่างที่ผู้โดยสารประทับใจในความนุ่มนวลมั่นคง ไม่เวียนหัวแม้จะนั่งแถวหลังสุดของรถโดยสาร นอกจากนั้นยังมีงานบริการดูแลรักษาที่มีคุณภาพครบวงจร ส่วนในด้านของความยั่งยืนก็ไม่ได้เป็นแค่การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแค่การปล่อยไอเสียที่น้อยลงด้วยเครื่องยนต์ยูโร 5 ที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ความยั่งยืนที่สแกนเนียทำเป็นความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร สังคม และสิ่งแวดล้อม
ส่วนแนวโน้มของตลาดรถบัสโดยสารของไทยปีนี้ คาดว่าจะเป็นปีของการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากสัญญาณที่แสดงให้เห็นตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่มีการเดินทางของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ จนผู้ประกอบการรถบัสโดยสารด้านการท่องเที่ยว มีการติดต่อสอบถามเข้ามาเพื่อถามหาและจองรถบัสของสแกนเนียเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2566 และในปีนี้ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทั้งการฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซักสถานที่เริ่มเห็นผลอย่างชัดเจน จนประเมินว่าปีนี้อาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงถึง 40 ล้านคน ถือเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อตลาดรถบัสโดยสารและเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการที่ต้องการรถใหม่ เนื่องจาก สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 เป็นรถเทคโนโลยีล่าสุด ที่มีความคุ้มค่าสูง และจะสร้างแต้มต่อทางธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ให้บริการรถโดยสารด้านการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้อำนวยการสนับสนุนการขายและโลจิสติกส์ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงประสิทธิภาพของ สแกนเนีย นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 ที่มาพร้อมแชสซีส์ใหม่ว่า
เป็นรถบัสโดยสารที่มีนวัตกรรมและคุณสมบัติเด่นล่าสุดของตระกูลรถยูโร 5 ด้วยเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 8% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ยูโร 3 ของสแกนเนีย มีระบบเทคโนโลยีบำบัดมลพิษในไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงภายในเครื่องยนต์ (Selective Catalytic Reduction : SCR) โดยเติมแอดบลู (AdBlue) หรือ สารยูเรียที่ไม่เป็นอันตรายในการบำบัดไอเสียให้แปรสภาพจากไนโตรเจนออกไซด์ที่เป็นก๊าซพิษเป็นไนโตเจนกับน้ำก่อนปล่อยออก ทำให้ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยลง ลด PM2.5 ได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับรถยูโร 3 และระบบเกียร์ใหม่ที่มีเกียร์เดินหน้าถึง 12 เกียร์ (จากเดิม 8 เกียร์เดินหน้า) ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นนิ่มนวลจนผู้โดยสารไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงขณะเปลี่ยนเกียร์
อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับรถ สแกนเนีย คือ ระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดในตลาดประเทศไทย ใหม่ล่าสุดกับ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เต็มระบบ มาตรฐานเดียวกับรถโดยสารที่ใช้ในยุโรป เช่น ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (LDW) ระบบเตือนจุดอับสายตา(Blind spot warning) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ(AEB) ที่เบรคจนถึงจุดหยุดนิ่ง ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ที่ปรับความเร็วรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ และยังออกตัวเองเมื่อจอดไม่เกิน 3 วินาที รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยเดิมที่ยังมีอยู่ครบและยังทำงานได้ดีขึ้น เช่น เบรกABS และ EBS เบรกไอเสียและเบรกเสริมรีทาร์เดอร์ ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ESP) ระบบกันลื่นไถล (Traction Control) ฯลฯ ด้วยคุณสมบัติเด่นดังกล่าวทำให้ทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่รถบัสโดยสารระดับพรีเมี่ยมยกให้รถบัสสแกเนียเป็นแบรนด์ยุโรปอันดับหนึ่งในตลาดประเทศไทย
นอกจากนี้สแกนเนียยังมีความพร้อมด้านผู้เชี่ยวชาญการต่อตัวถังคอยดูแลให้รถได้มาตรฐาน และเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย
ด้านแผนการตลาดนั้น นายพรต โชตินันทน์ ผู้จัดการฝ่ายขายรถโดยสารสแกนเนีย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่า
ลูกค้ากลุ่มรถบัสโดยสารของ สแกนเนีย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรถประจำทาง กลุ่มรถท่องเที่ยว กลุ่มรถโรงงาน และกลุ่มรถที่มาจากการประมูลงานราชการหรือกลุ่มที่นำรถไปใช้ส่วนตัว ซึ่งสิ่งสำคัญของผู้ประกอบการรถโดยสาร คือ ความต้องการรถประสิทธิภาพสูงที่พร้อมทำงานได้ตลอดเวลา มีความปลอดภัยที่ได้รับความไว้วางใจจากนักขับและผู้โดยสาร และความคุ้มค่าในการดำเนินงาน เช่น การประหยัดน้ำมัน ซึ่ง สแกนเนีย มีความพร้อมตอบโจทย์งานขนส่งผู้โดยสารครบทุกมิติ จึงไม่แปลกที่จะเป็นตัวเลือกลำดับต้นของผู้ประกอบการ ซึ่งในช่วงแรกที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ได้รับความสนใจและมีความต้องการจากตลาดจองรถกันเข้ามาแล้ว
ส่วนงานบริการและอะไหล่นั้น สแกนเนีย ประเทศไทย พร้อม 100% เพราะ นิว บัส เจเนอเรชั่น ยูโร 5 มีการใช้งานแพร่หลายอยู่แล้ว ผนวกกับศูนย์บริการมาตรฐาน 11 สาขาทั่วประเทศบนเส้นทางขนส่งหลักและทีมช่างที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐานการดูแลรักษารถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสูงสุดเสมอ รวมถึงมีสต๊อกอะไหล่อย่างเพียงพอต่อความต้องการ
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ