ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุฯ ชี้โดยสาร "รถตู้" ตายง่าย-ตายเร็วกว่า "มินิบัส"

เป็นเรื่องร้อนๆ ที่ยังอยู่ในกระแสสังคมอย่างมากกับประเด็น "รถตู้โดยสาร" ที่ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการก็พากันจับมือไปเรียกร้องเอากับ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อยื่นเรื่องให้ช่วยปลดล็อกจีพีเอส และยืดอายุการใช้งานรถตู้ให้ยาวออกไป

แต่เสียงจากสังคมโดยเฉพาะผู้ใช้บริการซึ่งก็เป็นคนที่เดินทางกันประจำ กลับดูเหมือนว่าจะไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องโดยเฉพาะการปลดล็อกจีพีเอสที่ควบคุมความเร็ว เพราะหวั่นเกรงว่าจะมีผลในเรื่องความปลอดภัยกับการเดินทางบนท้องถนน

กอปรกับที่ศักดิ์สยาม ก็มาประกาศยกเลิกมาตรการบังคับให้รถตู้โดยสารสาธารณะเปลี่ยนมาเป็นรถไมโครบัส ตามกำหนดภายในวันที่ 13 สิงหาคมทีผ่านมา โดยให้ผู้ประกอบการจดเปลี่ยนรถตู้เก่าเป็นรถตู้ใหม่ได้ และสั่งให้กรมการขนส่งทางบกศึกษาขยายอายุการใช้งานรถตู้จาก 10 ปี เป็น 12 ปี

และประเด็นความเร็วนี้เอง ที่ล่าสุดก็มีข้อมูลเป็นการสำทับถึงความปลอดภัยจากรถตู้อีกด้วย โดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ก็ออกมาเผยถึงข้อมูลที่น่าจะย้อนแย้งกับแนวคิดของรัฐมนตรีคมนาคมผู้นี้ เพราะระบุลงไปทันทีว่า รถตู้ มีความอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน มากกว่ารถไมโครบัส หรือมินิบัสที่รัฐพยายามจะเปลี่ยนมาก่อนหน้านี้

ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย เผยข้อมูลว่า สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุในรถตู้โดยสารนั้นมาจาก "การใช้ความเร็วของผู้ขับขี่" เนื่องมาจากคนขับรถตู้ต้องวิ่งทำรอบ หรือไม่ก็เป็นเพราะพฤติกรรมส่วนตัวของคนขับ ซึ่งแตกต่างกับรถมินิบัส หรือไมโครบัส ที่สามารถทำความเร็วหรือการแซงได้ช้ากว่ารถตู้ ดังนั้น อุบัติเหตุรถตู้จึงเกี่ยวข้องกับยานพาหนะโดยตรง

ดูเพิ่มเติม

>> ดีเดย์ 1 ต.ค.ขนส่งสั่งเปลี่ยน “รถตู้” เป็น “รถโดยสารขนาดเล็ก”ชี้เพื่อความปลอดภัย

>> งานเข้ารัฐบาล! รถตู้วินดังโพสต์ตัดพ้อ ปิดกิจการเพราะมาตรการของคสช.

จากข้อมูลดังกล่าว ยังพบว่า มีรถตู้อีกเป็นจำนวนมากที่ติดตั้งจีพีเอสควบคุมความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด แต่ส่วนใหญ่ของรถตู้ก็ไม่ได้เชื่อมข้อมูลไปยังกรมขนส่งทางบก จึงไม่สามารถตรวจสอบการใช้ความเร็วเกินกำหนด รวมถึงทำการเตือนรถตู้คันที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดได้

ขณะที่อีกประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหากเกิดอุบัติเหตุกับรถตู้แล้ว โดยเฉพาะหากเกิดการชนจากด้านหน้า ถังน้ำมันและท่อน้ำมันซึ่งอยู่บริเวณหน้ารถตู้จะแตกและเกิดเป็นประกายไฟทำให้รถทั้งคันไฟลุกได้ง่าย และแน่นอนว่าผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุและมีอาการบาดเจ็บจะไม่สามารถเอาตัวเองรอดออกมาจากรถได้อีกด้วย

แต่สำหรับรถมินิบัส หากเกิดอุบัติเหตุจะมีโอกาสที่ผู้โดยสารจะรอดตายได้มากกว่ารถตู้ เพราะภายในของรถมินิบัสมีพื้นที่ที่มากกว่า มีช่องทางเดินตรงกลาง มีหน้าต่างขนาดใหญ่พอจะทำลายและแทรกตัวออกมาได้ รวมไปถึงมีประตูฉุกเฉินที่ใช้งานได้จริงมากกว่ารถตู้ ที่เลือกเอาประตูด้านหลังเป็นประตูฉุกเฉินเท่านั้น

>> ดูเพิ่มเติม ราคารถตู้มือสอง คลิกที่นี่

ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอแนะอีกว่า  การยกระดับความปลอดภัยของการเดินทางด้วยรถตู้โดยสารสาธารณะ รัฐบาลต้องทำให้องค์ประกอบทุกด้านของการเดินทางด้วยรถตู้นั้นปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น คนขับรถตู้ ยานพาหนะ อุปกรณ์นิรภัย ผู้โดยสาร สภาพถนนและสิ่งแวดล้อม ขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง การยกระดับความปลอดภัยจะล้มเหลวทันที โดยกระทรวงคมนาคมไม่สามารถที่จะไปมุ่งหวังเฉพาะตัวคนขับรถเพียงอย่างเดียวได้ ซึ่งแนวคิดนี้ได้ถูกพิสูจน์มาแล้วในหลายๆ ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทางด้านความปลอดภัยทางถนน

ถือเป็นเรื่องที่ภาครัฐจะต้อง "เลือก" ระหว่างความปลอดภัยของผู้โดยสารที่มาพร้อมกับความกังวล กับการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ให้อยู่ได้ตามภาวการณ์ครองชีพ แต่ไม่ว่าทางไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับความปลอดภัยบนท้องถนนที่มันมีส่วนสำคัญต่อชีวิต และทรัพย์สินจากการเดินทางของผู้คน

ดูเพิ่มเติม

>> ถึงคิวอ้อนบ้าง "รถตู้" ขอคมนาคม "ปลดจีพีเอส-ยืดอายุรถเก่าเป็น 15 ปี"

>> ขนส่งติดเบรกรถตู้ หลังเจอประชาชนร้องเรียน "แอบขึ้นราคา"

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้