มาแล้ว!! Toyota C-HR 2018 ลงพื้นที่ โชว์ตัวจริงที่โชว์รูมอย่างเป็นทางการแล้ว

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 10 มี.ค 2561
แชร์ 1

ข่าวอัพเดทล่าสุดของ Crossover รุ่นแรกจากค่ายสามห่วง Toyota C-HR ตอนนี้พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากมีการเพิ่มรายละเอียดตัวรถ และราคาลงบนหน้าหลักของเว็บไซต์ Toyota เป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งปล่อยรถคันจริงออกไปตามโชว์รูปทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว

สวยล้ำทุกมุมมอง สำหรับ Toyota C-HR

สวยล้ำทุกมุมมอง สำหรับ Toyota C-HR

สวยล้ำทุกมุมมอง สำหรับ Toyota C-HR

หลังจากเปิดตัวสร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อีกทั่งยังเปิดให้จองพร้อมสิทธิ์พิเศษในการสั่งเพลทติดหลังรถสั่งชื่อได้ตามความต้องการของผู้จอง มาถึงตอนนี้ Toyota C-HR พร้อมแล้วจะให้ผู้สนใจได้สัมผัสตัวเป็นๆ คันจริงได้ง่ายขึ้นที่โชว์รูมของ Toyota ทั่วประเทศ กับดีไซน์ภายนอกในแบบ Keen Look ที่ด้านหน้ามาพร้อมกับโคมไฟดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดูเป็นหนึ่งเดียวกับแก้มข้างตัวถัง ในรุ่น Hybrid จะพิเศษกว่าด้วยไฟหน้าแบบ โปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมไฟ LED Daytime Running Lights แบบ Light Guiding แต่ถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาจะเป็นไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน ซึ่งมีไฟ Daytime Running Lights ในโคมเช่นเดียวกัน

ลองเทียบมิติตัวถังที่ภายนอกกับรุ่นคู่แข่งอันดับหนึ่งอย่าง Honda HR-V จะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกัน

เทียบมิติตัวถัง Honda HR-V กับ Toyota C-HR

  • ความยาวตัวถัง (mm.) :: HR-V(4,294), C-HR(4,360)

  • ความกว้างตัวถัง (mm.) :: HR-V(1,772), C-HR(1,795)

  • ความสูงตัวถัง (mm.) :: HR-V(1,605), C-HR(1,565)

  • ระยะฐานล้อ (mm.) :: HR-V(2,570), C-HR(2,640)

  • ความสูงจากพื้น (mm.) :: HR-V(185), C-HR(154)

คู่แข่งในตลาดอันดับหนึ่งน่าจะเป็น Honda HR-V

คู่แข่งในตลาดอันดับหนึ่งน่าจะเป็น Honda HR-V

เทียบจากมิติตัวรถจะเห็นว่า C-HR จะกว้างกว่า และความสูงตัวถังจะน้อยกว่า นั่นหมายถึงตัวรถจะให้ความรู้สึกที่แบนกว่า Honda HR-V และด้วยระยะฐานล้อที่มากกว่าของ C-HR นี้นั่นหมายถึงพื้นที่ในห้องโดยสารจะมากกว่าตัว HR-V ด้วยเช่นกัน แม้ตัวรถจะดูเตี้ย แบนราบ แต่ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารไม่ยิ่งหย่อนกว่า Honda HR-V อย่างแน่นอน

ซึ่งภายในห้องโดยสารภายใต้การออกแบบที่ล้ำสมัยต่อเนื่องมาจากภายนอก อีกทั้งในด้านอุปกรณ์ออพชั่นความสะดวกสบายต่างๆ มีมาให้อย่างครบครัน หน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/HDMI/Micro SD Card มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย และในรุ่นไฮบริดทั้งสอง Toyota ยังมีการติดตั้งระบบ T-Connect Telematics มาให้ด้วย ซึ่งฟังก์ชั่นการทำงานดังต่อไปนี้

  • ค้นหาพิกัดรถพร้อมฟังก์ชั่น Parking Alert เตือนเมื่อรถเคลื่อนย้ายหรือถูกสตาร์ท

  • สัญญาณ Wi-Fi ภายในรถ (Toyota Wi-Fi)

  • แจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. (SOS Emergency Service)

  • ผู้ช่วยส่วนตัวในรถยนต์ (Operator Service)

ในรุ่นท็อปสุด HV Hi ซึ่งเป็นรุ่นไฮบริดยังใส่ระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถทุกรุ่นที่มีจำหน่ายของ Toyota ประเทศไทยเข้ามาด้วยนั่นคือระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ซึ่งมีการทำงานของ 4 ระบบด้วยการใช้เซ็นเซอร์ และเรดาห์เข้ามาช่วยในการทำงาน

  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชนและช่วยเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System

  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Warning With Steering Assist

  • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control

  • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control

ภายในล้ำสมัยไม่แพ้ภายนอก

ภายในล้ำสมัยไม่แพ้ภายนอก

ราคาของ Toyota C-HR 2018 รุ่นย่อยทั้งหมดของ มีดังต่อไปนี้

  • 1.8 Entry 979,000 บาท

  • 1.8 MID 1,039,000 บาท

  • 1.8 Hybrid MID 1,069,000 บาท

  • 1.8 Hybrid 1,159,000 บาท

 

สีตัวรถของ Toyota C-HR มีตัวเลือกในความพิเศษให้กับรุ่น Hybrid ที่มาพร้อมกับสีทูโทนหลังคาดำเท่านั้น ขับไปที่ไหนก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรุ่นท็อปกับรองท็อป และถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.8L ธรรมดาจะมาโทนสีเดียวเหมือนกันทั้งตัวรถ โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ดังต่อไปนี้

  • สีน้ำเงิน/หลังคาดำ BLUE METALLIC / BLACK ROOF มีเฉพาะรุ่นไฮบริด (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

  • สีแดง/หลังคาดำ PREMIUM RED / BLACK ROOF มีเฉพาะรุ่นไฮบริด (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

  • สีเขียว/หลังคาดำ RADIANT GREEN METALLIC / BLACK ROOF มีเฉพาะรุ่นไฮบริด (เพิ่มเงิน 10,000)

  • สีขาวมุก WHITE PEARL CRYSTAL (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

  • สีดำ ATTITUDE BLACK MICA

  • สีบรอนซ์เงิน METAL STREAM METALLIC

สีทูโทนหลังคาดำจะมีให้เฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น

สีทูโทนหลังคาดำจะมีให้เฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น

สีทูโทนหลังคาดำจะมีให้เฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น

ใครที่ยังไม่ได้ไปเห็นตัวจริงของ Toyota C-HR เมื่อครั้งโชว์ตัวในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2017 ก็สามารถไปสัมผัสคันจริงของรุ่นนี้ได้แล้วที่โชว์รูม Toyota ทั่วประเทศ

ดูเพิ่มเติม