ซูซูกิ ประเทศไทย ปิดโรงงานเลิกขายอีโคคาร์ ย้ายฐานผลิตสู่อินโดนีเซีย เปิดตัวรถชุดใหม่ ไฮบริด - EV ปี 2025

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 18 ก.ค 2567
แชร์ 9

18 กรกฎาคม 2567 ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทยระยะกลาง หลังจากตัดสินใจปิดโรงงานผลิตรถยนต์ และเลิกจำหน่าย Eco Car ในปี 2025 ปรับประกันรถยนต์จำหน่ายต่อจากนี้ ฟรีค่าแรง 3 ปี หรือ 60,000 กม., ใช้แอพฯ Hello Suzuki ในการจองคิวเข้าศูนย์ ปรับพอร์ตเปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นทั้งไฮบริดและไฟฟ้าในปี 2025

ซูซูกิ ประเทศไทย ปิดโรงงานเลิกขายอีโคคาร์ ย้ายฐานผลิตสู่อินโดนีเซีย เปิดตัวรถชุดใหม่ ไฮบริด - EV ปี 2025

ซูซูกิ ประเทศไทย ปิดโรงงานเลิกขายอีโคคาร์ ย้ายฐานผลิตสู่อินโดนีเซีย เปิดตัวรถชุดใหม่ ไฮบริด - EV ปี 2025

ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จัดงานแถลงแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทยโดยมี นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) และ นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมแถลง

แผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ จะเกิดแคมเปญ SUZUKI WORRY FREE ยกระดับงานบริการในทุกด้าน โดยเน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ มอบคุณภาพของงานบริการที่ดีที่สุด ตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมอบให้เสมอมา

อ่านเพิ่มเติม - ซูซูกิ ประกาศปี 2025 ปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย

ซูซูกิ ประเทศไทย ปิดโรงงานเลิกขายอีโคคาร์ ย้ายฐานผลิตสู่อินโดนีเซีย เปิดตัวรถชุดใหม่ ไฮบริด - EV ปี 2025

ซูซูกิ ยังเตรียมความพร้อมแข่งขันในตลาดรถยนต์ในประเทศไทย เตรียมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ตั้งแต่ปี 2568 (2025) เป็นต้นไป ประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100%

ซูซูกิ ประเทศไทย ปิดโรงงานเลิกขายอีโคคาร์ ย้ายฐานผลิตสู่อินโดนีเซีย เปิดตัวรถชุดใหม่ ไฮบริด - EV ปี 2025

ภายใต้แคมเปญ SUZUKI WORRY FREE จะประกอบไปด้วย 7 หัวข้อ 

  1. ฟรีค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี เช็กระยะต่อเนื่องตามกำหนดกับศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทุกสาขา ฟรีค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  2. ขยายการรับประกันอะไหล่และงานบริการ นานถึง 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จากเดิมที่รับประกันเพียง 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร 
  3. บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม รถยนต์ที่อยู่ในระยะรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับรถยนต์ซูซูกิที่ต้องใช้เวลาตรวจเช็กมากกว่า 1 วัน (ไม่รวมระยะเวลาวิเคราะห์ปัญหา) และไม่รวมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
  4. HELLO SUZUKI APPLICATION ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution เชื่อมต่อข้อมูลการทำงาน การนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ, รายงานการการตรวจสอบและดูแลรถ, มอบสิทธิพิเศษ, สะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุง
  5. ระบบการจัดการอะไหล่ พื้นที่คลังอะไหล่ 2 แห่ง ทั้งที่คลังอ่อนนุช ขนาด 1,216 ตารางเมตร และคลังอะไหล่จังหวัดระยอง ขนาด 4,076 ตารางเมตร และรวมถึงคลังอะไหล่ของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ มีอะไหล่รวมมากถึง 741,000 ชิ้น รองรับความต้องการไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการผลิต บริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่น ๆ ภายใน 48 ชั่วโมง
  6. ศูนย์บริการครอบคลุมทุกทั่วประเทศ 92 แห่ง และเตรียมแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายใหม่เพิ่มอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดพัทลุง
  7. ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานของซูซูกิ ทั้งหมด 32 แห่ง ประกอบด้วย

ลำดับ

ชื่อบริษัทผู้จำหน่าย

ภาค

จังหวัด

1

บริษัท ซูซูกิ อินดี้ บางหว้า จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

2

บริษัท ดี โฟร์ คาร์ซิตี้ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

3

บริษัท พีพี เมกะ ออโต้ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

4

บริษัท มาพรพาณิชย์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

5

บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

6

บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สาขาทองหล่อ)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

7

บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

8

บริษัท ซูซูกิ ตงเจริญออโต้เซลส์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

9

บริษัท ซูซูกิ นวนคร จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

10

บริษัท นวซูซูกิ ปทุมธานี จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

11

บริษัท นวออโตโมบิล บางใหญ่ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

12

บริษัท ยนต์ตระการ พรีเมียม คาร์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

13

บริษัท สุพรรณยนตการ เทรดดิ้ง จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

14

บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สาขาบางบ่อ)

กรุงเทพและปริมณฑล

สมุทรปราการ

15

บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สำนักงานใหญ่)

กลาง

ราชบุรี

16

บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สาขาบ้านโป่ง)

กลาง

ราชบุรี

17

บริษัท ซูซูกิกาญจนบุรี จำกัด

กลาง

กาญจนบุรี

18

บริษัท พ.บรรจง ออโตซัพพลาย จำกัด

กลาง

ประจวบคีรีขันธ์

19

บริษัท ซูซูกิ หัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัด

กลาง

ประจวบคีรีขันธ์

20

บริษัท ซูซูกิเพชรบุรี (สิทธิภัณฑ์) จำกัด

กลาง

เพชรบุรี

21

บริษัท ซูซูกิ ฉะเชิงเทรา (2555) จำกัด

ตะวันออก

ฉะเชิงเทรา

22

บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัด

เหนือ

เชียงใหม่

23

บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัด (สาขาดอนจั่น)

เหนือ

เชียงใหม่

24

บริษัท บี.เค. ออโต้ โมบิล จำกัด

เหนือ

ตาก

25

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

26

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาบายพาส)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

27

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาปากช่อง)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

28

บริษัท ซูซูกิเจียงอุดร จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

29

บริษัท สำราญยนตรการ ชัยภูมิ จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

ชัยภูมิ

30

บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สำนักงานใหญ่)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุบลราชธานี

31

บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สาขาเดชอุดม)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุบลราชธานี

32

บริษัท เลิศวิจิตร ออโต้เซลส์ จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

อนาคต ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิ เพิ่มอีกจำนวน  9 แห่ง ทั้งในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอยุธยา จังหวัดลพบุรี และจังหวัดขอนแก่น ภายในปี 2567

นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า

สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศ​ยังคงซบเซา ช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-มิถุนายน) ตลาดรถยนต์รวมมียอดขายอยู่ที่ 307,995 คัน สำหรับซูซูกิ ยอดขายรวมทั้งสิ้น 3,791 คัน ลดลง 54 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดยังคงหดตัว คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินอย่างชัดเจน 

ทั้งนี้ แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันในอุตสากรรรมยานยนต์ที่เข้มข้น สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ฟื้นตัว จนส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในภาพรวม และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคง จึงเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ได้ทำการประกาศแก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

ในฐานะที่เข้ามารับผิดชอบดูแลงานด้านการวางแผนบริหารงานฝ่ายบริการและอะไหล่ สิ่งที่ยึดมั่นคือการดำเนินงานภายใต้ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care–เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” การพัฒนางานบริการในทุกด้านเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศเป็นเป้าหมายสำคัญยิ่งของซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

โดยเพื่อให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย การปรับปรุงแผนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง

“เราพยายามพัฒนางานบริการหลังการขายให้ยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มเข้ามาของบริการ HELLO SUZUKI คือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนา ระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ เพื่อทราบถึงข้อมูลการเข้ารับบริการของลูกค้าได้แบบ Real Time ซึ่งช่วยประเมินความต้องการของลูกค้า ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังร่วมมือกับผู้จำหน่ายทุกราย มุ่งเน้นการอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพให้มีใจรักในการบริการลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย” 

ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะการหดตัวลงของตลาดและความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งนอกจากต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของซูซูกิเป็นอย่างสูงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของซูซูกิทุกรายที่ทำงานอย่างหนัก จึงขอให้ลูกค้าซูซูกิทุกท่านเชื่อมั่นได้ว่า  เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ จนเราสามารถสร้างยอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ถึง 310,885 คัน 

อย่างไรก็ตาม ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” นอกจากเป็นแนวทางในการยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและคนไทยทุกท่าน ว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย พร้อมทั้งตอกย้ำการมาของรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ที่จะสร้างการเติบโตของตลาดรถยนต์ภายในประเทศต่อไป

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ

แท็ก Suzuki