ข่าวอัพเดทกฎหมายจราจรล่าสุดที่ทาง Chobrod จะนำมาเสนอให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้ จะเป็นในเรื่องของการนำกำไล EM มาใช้เพื่อควบคุมความประพฤติผู้ที่ทำผิดกฎจราจร ในประเทศไทย ช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ปี 2561 ซึ่งทางกรมควบคุมความประพฤติได้เสนอให้มีการใช้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวหลายวัน โดยเนื้อหาจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาดูกันเลย
กรมควบคุมความประพฤติเสนอ กำไล EM หวังลดอุบัติเหตุ ช่วงวันสงกรานต์ ปี 62!
ถือว่าวันและเวลาได้ผ่านไปไวพอสมควร เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงช่วงเทศกาลหยุดยาววันสงกรานต์กันอีกครั้ง หากเราย้อนกัลบไปดูสถิติของการอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงวันสงกรานต์ปี พ.ศ. 2561 จะพบว่า อุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นใน 7 วันอันตราย มียอดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิต 418 คน และยอดผู้บาดเจ็บรวม 3,897 คน จากสถิติอุบัติเหตุในปีที่แล้ว ทำให้ในปีนี้ทางรัฐบาลมีจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจนเพื่อลดปริมาณอุบัติเหตุให้มีจำนวนลดลง โดยทาง กรมคุมประพฤติ ได้เสนอร่างมาตรการแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 2562 เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 1/ 2562 โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ในการประชุมครั้งนี้
สถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561
เนื้อหาที่นำเสนอมีในเรื่องของการลงโทษผู้ที่ทำผิดกฎหมายจราจร โดยได้เสนอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM มาใช้กับผู้กระทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และความผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนอื่นๆ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้คุมประพฤติ และมีคำสั่งให้ติดอุปกรณ์ EM เพื่อไม่ให้กลับไปกระทำผิดซ้ำ ทั้งยังช่วยลดอุบัติเหตุให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
บรรยากาศการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
ดูเพิ่มเติม
>> แนะนำ 18 รุ่นรถใหม่ในงาน Bangkok International Motor Show 2019
>> รวมปัญหาของรถ Honda HR-V พร้อมแนวทางการแก้ไข
นอกจากนี้ทาง กรมควบคุมความประพฤติ ยังได้เสนอให้มีการตั้ง ด่านชุมชน เพื่อสกัดกลุ่มเสี่ยงและลดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนนของคนในพื้นที่ โดยขอความร่วมมืออาสาสมัครในพื้นที่ เข้าร่วมประจำด่าน รวมถึงให้ผู้ถูกคุมความประพฤติในคดีเมาแล้วขับเข้าร่วมทำงานบริการสังคม ในฐานะเป็นผู้ช่วยอาสาสมัคร เพื่อร่วมรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและลดอุบัติเหตุ โดยล่าสุดข้อเสนอของกรมควบคุมความประพฤตินี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และทางที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอ และในขั้นตอนต่อไปทางกรมควบคุมความประพฤติจะประสานการ เพื่อดำเนินงานต่อไป
สำหรับกำไล EM นี้ จะมีลักษณะคล้ายๆ กับนาฬิกา เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ Electronic Monitoring (EM) การใช้งานกำไล EM จะต้องติดกับข้อเท้าหรือข้อมือของผู้กระทำผิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยภายในกำไล EM ตัวนี้ จะมีตัวรับสัญญาณ และมีศูนย์ควบคุมกลาง ที่ใช้ติดตามตัวผู้ที่กระทำผิด เมื่อสวมใส่อุปกรณ์ที่ข้อมือ ข้อเท้า หรืออวัยวะส่วนอื่น ก็จะสามารถตรวจสอบการเดินทางของผู้สวมใส่ได้ ซึ่งในประเทศไทยได้เริ่มนำอุปกรณ์ที่ว่านี้มาทดลองใช้กับกลุ่มผู้ที่อยู่ในระหว่างคุมประพฤติโดยไม่ต้องถูกขังในเรือนจำ ซึ่งถ้าหากพบว่าผู้ที่กระทำผิดมีพฤติกรรมที่พิรุธ น่าสงสัยว่าจะนำกำไล EM ไปทำลายหรือทุบทิ้ง ทางกำไล EM จะมีการส่งสัญญาณไปที่ส่วนกลาง และทางส่วนกลางจะสามารถโทรมาตรวจสอบ และส่งคนไปหาผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว ส่วนประโยชน์ที่นอกจากจะควบคุมความประพฤติของผู้ที่กระทำผิดได้แล้ว กำไล EM ตัวนี้ ยังเน้นเรื่องการแก้ปัญหาให้คนจนนั้นไม่ต้องติดคุกเพียงเพราะไม่มีเงิน เป็นการช่วยลดความแออัดในเรือนจำที่ประเทศไทยนั้นติดอันดับ 6 ของโลก ทั้งนี้ หากผู้ที่กระทำผิดที่อยู่ในช่วงถูกคุมความประพฤติ แล้วยังมีการกระทำผิดซ้ำซาก จะถูกคัดกรองและส่งไปบำบัดสุราที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดในพื้นที่ และให้ทำงานบริการสังคมกระตุ้นจิตสำนึกแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติ อาทิ การดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาล หรือร่วมเป็นอาสาจราจร เป็นต้น ต่อไปค่ะ
กำไล EDM จะติดบริเวณข้อมือ และมีระบบติดตามตัวตลอด 24 ชั่วโมง
และนี่ก็คือเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับมาตรการช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันหยุดยาวที่กำลังจะใกล้มาถึง ที่ทางเวปไซต์ Chobrod.com ตลาดรถยนต์ แหล่งรวมรถยนต์มือสอง ได้นำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้ สำหรับกฎหมายจราจรเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องนึกถึง และควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การที่ทางรัฐบาลมีความคิดที่จะนำกำไล EM มาใช้เพื่อช่วยควบคุมผู้ที่ไม่ประพฤติตามกฎหมายจราจร นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ และเชื่อเป็นอย่างนิ่งเลยว่าจะช่วยลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ผู้ที่มักจะทำผิดกฎหมายจราจรบ่อยครั้งหันมาเคารพกฎหมายจราจรบนท้องถนนกันมากขึ้นค่ะ
ดูเพิ่มเติม
>> ผู้Ford ดิ้น ยกเลิกการทำตลาดรถยนต์นั่งทั้งหมดในไทย
>> เตรียม 2019 - 2021 กับการเปลี่ยนแปลงของ Isuzu D-Max และ Toyota Hilux Revo
คราวหน้า Chobrod ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาอัพเดทกันอีก ฝากติดตามกันด้วยนะคะ