ไร้กลิ่นอับด้วยเคล็ดลับกำจัดกลิ่นอับชื้นในรถ

ไร้กลิ่นอับด้วยเคล็ดลับกำจัดกลิ่นอับชื้นในรถ

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แต่ก็มีหน้าฝนด้วย วันดีคืนดีก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บางทีก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา นอกจากจะเจอกับความเฉอะแฉะแล้ว ก็ยังต้องเจอกลิ่นเหม็นอับในรถด้วย วันนี้ Chobrod ก็มีเคล็ดลับดีๆมาบอกกัน

พูดถึงกลิ่นอับ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเกิดจากอะไร ความจริงแล้วปัญหานี้มันเกิดจากตัวจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสารกลิ่นอับชื้นอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ได้กลิ่นเหม็นอับ โดยตัวการที่ทำให้จุลินทรีย์นี้เจริญเติบโตได้ดีก็คือ น้ำและออกซิเจน ดังนั้นในช่วงหน้าฝนก็เลยทำให้รถเรามีกลิ่นอับ จากน้ำที่ติดรองเท้าตอนขึ้นรถ เสื้อผ้าที่ชื้นแฉะถ่ายความชื้นสู่เบาะและพรมในรถ ซึ่งถ้าไม่อยากให้เกิด หรืออยากให้เกิดน้อยลงเราก็มีเคล็ดลับดีๆมาฝากกัน 

วิธีป้องกันก็คือ

• ให้ใช้พรมยาง เพราะทำความสะอาดกำจัดความชื้นได้ง่าย ปกติแล้วในรถมักจะใช้พรมกำมะหยี่ ซึ่งแน่นอนว่าอมความชื้นสูง แต่ถ้าใช้พรมยาง ก็เช็ดได้ง่ายไม่อมน้ำ 
• ส่วนเบาะนั่งก็ใช้เบาะหุ้มแบบหนัง สำหรับผู้ที่รถยนต์เป็นเบาะผ้าช่วงหน้าฝน ถ้าส่วนใหญ่ขับคนเดียวก็ใช้ที่รองเบาะเพียงอันเดียว อาจไม่ค่อยสวยแต่ก็ใช้ได้ แนะนำให้มีซื้อติดไว้และใช้ยามเฉอะแฉะดีกว่า 
• ถ้ามีกำลังพอก็เลือกเบาะหนังแบบถาวรได้เลย เอารถไปทำเบาะหนังตามร้านก็ได้ เดี๋ยวนี้ร้านทำมีเยอะมาก และเราขอแนะนำให้เลือกหนังสังเคราะห์เพราะดูแลง่าย
• กรองแอร์ก็มีผลนะ ให้เลือกใช้กรองแอร์ป้องกันความชื้น อะไหล่นี้ไม่มีผลต่อประกันคุณภาพ เราสามารถเปลี่ยนอะไหล่ที่มีคุณภาพสูงกว่าได้ ติดคิ้วกันสาดที่กระจกก็ดี เพราะเมื่อจอดรถเราก็จะได้แง้มกระจกออกเล็กน้อย เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้

ดูเพิ่มเติม
>> เคล็ดลับขจัดคราบเมคอัพบนรถ
>> เรื่องง่ายๆ กับ “การล้างด้านในรถ” ที่ทุกคนมักคิดว่าเป็นเรื่องยาก

ควรทำความสะอาดพรม เพื่อกำจัดฝุ่นและความชื้นด้วย

วิธีการทำความสะอาดเบาะ พรม เพื่อกำจัดสาเหตุของกลิ่น

• วิธีซักพรมกำมะหยี่ที่มากับรถ แนะนำให้ใช้ผงซักฟอกที่เป็นพวกยับยั้งแบคทีเรียและยับยั้งกลิ่นอับได้ ผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วก็ใช้แปรงที่อ่อนนุ่มขัด จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดออก 
• การทำความสะอาดเบาะหนัง ให้ใช้ผ้าหมาดๆเช็กให้ทั่ว ถ้าสกปรกมากก็ให้ใช้แปรงสีฟันจุ่มน้ำสบู่ขัดเบา ๆ แล้วนำผ้ามาเช็ดออก หากเป็นรอยปากกาหรือเคมีภัณฑ์อื่น ๆ นำสเตคลีนป้ายทิ้งไว้สัก 1 นาที แล้วนำผ้ามาขัดๆ เช็ดๆถูๆ หน่อย
• การทำความสะอาดเบาะผ้า ให้ดูดฝุ่นซะก่อน จากนั้นค่อยซักเบาะ ซึ่งความเป็นด่างสามารถกำจัดกลิ่นอับได้ดีมาก อาจเลือกใช้พวกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือจะเป็นพวกน้ำสบู่ผสมเบกกิ้งโซดาก็ได้ 

การทำความสะอาดเบาะผ้า ให้ดูดฝุ่นซะก่อน จากนั้นค่อยซักเบาะ

หลังจากขัดเบาะแล้วก็นำผ้าแห้งเช็ดอีกที แล้วก็ซับน้ำด้วย ถ้ามีไดร์เป่าผมก็เอาใช้ได้ แต่ต้องระวังหน่อยอย่าใช้ความร้อนสูงเกินไป อาจทำให้เบาะเสียรูปได้ จากนั้นก็อาจทำความสะอาดช่องแอร์ต่อ เพื่อให้กลิ่นหมดไป และป้องกันกลิ่นด้วย

ของดับกลิ่นที่มีติดรถไว้ก็ไม่เสียหาย ได้แก่

• ถ่าน ถ่านสีดำๆที่เดี๋ยวนี้มีขายในรูปแบบของดูดกลิ่นแล้ว หาซื้อได้ง่าย ดูดกลิ่นได้ดี ดูดความชื้นก็ได้ หรือถ้าอยากประหยัดก็เอาถ่านหุงต้มนี่แหล่ะมาใส่กระป๋องเจาะรูให้ทั่ว ใช้ได้ประมาณเดือนหนึ่ง
• ใบชาตากแห้ง หาซื้อง่ายมาก เอาไว้ในรถก็ช่วยดูดกลิ่นได้ดีทีเดียว
• กากกาแฟ เดี๋ยวนี้ก็มีขายอยู่ทั่วไปแล้ว หาซื้อไม่ยาก เอามาใส่ในรถก็ดีไปอีกแบบ
• กระดาษหนังสือพิมพ์ ดูดกิล่นได้ดี ดูดความชื้นได้ ใช้ได้ประมาณ 3 วัน ก็ควรเปลี่ยนทิ้ง
• เบกกิ้งโซดา แบ่งใส่ภาชนะแล้วตั้งทิ้งไว้ ช่วยดูดกลิ่นอับได้ อยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
• กล่องดูดความชื้น สะดวกหาซื้อง่าย แต่อาจเปลืองหน่อย เดือนหนึ่งก็ต้องเปลี่ยน 

เอาถ่านไว้ในรถก็สามารถดูดกลิ่นได้

เป็นยังไงบ้างกับคำแนะนำดีๆที่เรานำมาฝากกัน ทางที่ทีดีก็ควรป้องกันกลิ่นอับตามวิธีที่เราแนะนำ ใครใช้วิธีไหนแล้วได้ผลดีมาก ก็มาบอกเล่ากันได้ แล้วก็ทำความสะอาดที่เราบอกไป แต่หากทำทุกอย่างแล้วยังมีกลิ่น ก็ต้องเช็กท่อน้ำทิ้งของรถแอร์ดูว่ารั่วหรือเปล่า บางทีอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นก็ได้ ส่วนคราวหน้า Chobrod จะมีคำแนะนำอะไรดีๆ มาบอกกันก็ต้องรอติดตาม

ดูเพิ่มเติม
>> 4 วิธีทำให้กลิ่นบุหรี่ในรถของคุณหมดไป
>> การล้างรถ บ่อยแค่ไหนเรียกว่าเป็นการดูแล

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่