เทคนิคการขับรถไฟฟ้าเวลาลงเขา ทำอย่างไร ?
รถไฟฟ้าต่างจากรถใช้น้ำมันหลายจุด หลายคนอาจจะสงสัยว่า เวลาขับรถขึ้น-ลงเขาด้วยรถยนต์ไฟฟ้า มีเทคนิคอย่างไร ที่นี่รวบรวมวิธีการขับรถไฟฟ้าเวลาลงเขา มาแนะนำแล้ว
รถยนต์ไฟฟ้ามีความแตกต่างจากรถใช้น้ำมันอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับเคลื่อน อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนบางชิ้น รวมถึงระบบเบรก หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าขับขึ้น-ลงเขา หรือทางลาดชันด้วยรถยนต์ไฟฟ้า จะมีเทคนิคแตกต่างจากรถยนต์ใช้น้ำมันหรือไม่ ในบทความนี้ รวบรวมเทคนิคการขับรถไฟฟ้าเวลาลงเขา เอาไว้ให้แล้ว !
เทคนิค การขับรถไฟฟ้า EV ลงเขา
ใช้เกียร์ต่ำ B หรือ L
การขับรถไฟฟ้าเวลาลงเขา ควรใช้เกียร์ต่ำ อย่างเกียร์ B หรือ L เป็นหลัก และขับไปอย่างช้า ๆ เพื่อทำให้เครื่องยนต์มีแรงฉุด ช่วยลดการเบรก และเกิดการต้านไม่ให้รถไหลเร็วจนอาจเสียการควบคุมได้
ใช้ Regenarative braking
เมื่อต้องขับรถยนต์ไฟฟ้าเวลาลงทางชัน ลงเขาในเส้นทางยาว ๆ จะต้องใช้ระบบ Regenerative Braking เพื่อชะลอความเร็วของรถ และไม่ควรเหยียบเบรกธรรมดาต่อเนื่องกันนาน ๆ เพราะอาจจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ จนเกิดอุบัติเหตุได้
แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่ระบบ Regenerative Braking พร้อมทำงาน ผู้ขับขี่จึงควรสังเกตความผิดปกติของระบบ Regenerative Braking โดยเช็กจากไฟหน้าปัด และอาการของรถว่าเมื่อปล่อยคันเร่งแล้ว รถหน่วงขึ้นโดยไม่ต้องเหยียบเบรกหรือไม่ หากไม่เกิดอาการหน่วง ควรหาที่จอดพัก หรือเหยียบเบรกปกติช่วยไปพลาง ๆ ก่อน
อย่างไรก็ตาม การทำงานของระบบ Regenerative Braking จะเกิดขึ้นต่อเมื่อแบตเตอรี่ไม่เต็ม ก่อนลงเขาจึงควรชาร์จแบตเตอรี่เอาไว้ที่ 80-90% เพื่อให้ระบบทำงาน
ใช้ระบบ One-pedal หรือ E-pedal
ระบบ One-pedal คือ ระบบที่จะช่วยให้รถเกิดอาการหน่วงเมื่อผู้ขับขี่ถอนคันเร่ง ทำให้รถชะลอและหยุดลงได้อย่างปลอดภัย ส่วนระบบ E-pedal นั้นไม่ได้มีทุกรุ่น แต่ถ้ามีระบบนี้ ผู้ขับขี่สามารถใช้ควบคุมรถได้ เพราะเป็นเทคโนโลยีที่รวมแป้นคันเร่งกับเบรก จึงสามารถทำได้ทั้งลดความเร็ว เบรก และเร่ง ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพเส้นทางแบบไหนก็ตาม
บางครั้งรถของคุณอาจมีการปรับให้หน่วง หรือเปิดใช้ระบบเหล่านี้ให้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับอะไร และสามารถขับได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ก่อนขับรถขึ้น-ลงเขา หรือไม่ว่าจะไปที่ไหนก็แล้วแต่ ทั้งรถและคนควรมีความพร้อม ก่อนออกเดินทาง จึงควรเช็กสภาพรถ และเตรียมความพร้อมด้านร่างกายให้ดี ที่สำคัญ ควรขับรถด้วยความไม่ประมาท เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยไปตลอดการเดินทาง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก rod-ev, autofun
อ่านเพิ่มเติม >>
