เคลือบแก้วสีรถยนต์คืออะไร ? รถแบบไหนถึงควรทำ

ประสบการณ์ใช้รถ | 28 เม.ย 2563
แชร์ 0

ทำความรู้จักกับเคลือบแก้วสีรถยนต์ สาระน่ารู้ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ จำเป็นหรือไม่ ? ทำไมถึงควรทำ และต่างจากเคลือบสีทั่วไปอย่างไร เราหาคำตอบมาไว้ให้คุณแล้ว

>> เปลี่ยนมาซื้อรถออนไลน์ ไม่ต้องออกไปเสี่ยง COVID-19
>> ‘ไฟรูปเครื่องโชว์’ สัญญาณเตือนที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

สำหรับคนรักรถจะรู้ดีว่า การดูแลรักษารถยนต์ให้ทนทาน สภาพดีเหมือนใหม่อยู่เสมอนั้น มีวิธีมากมายให้เลือกสรรได้ทำตามความต้องการ อย่างการบำรุงสีและพื้นผิวของรถยนต์ ก็มีรูปแบบการทำให้เลือกเช่นกัน อย่างการเคลือบแก้วสีรถยนต์ อีกหนึ่งวิธีที่หลายคนเลือก และหลายอาจไม่เคยรู้จัก วันนี้ Chobrod จะพาไปทำความรู้กับการเคลือบแก้วให้มากขึ้น รู้ไว้ได้ประโยชน์ และมาดูกันว่ารถยนต์สุดรักของคุณเหมาะที่จะทำเคลือบแก้วหรือเปล่า ?

เคลือบแก้วสีรถยนต์คืออะไร ?

รถที่ทำการเคลือบแก้วจะมีสีสันแวววาว ดูเงางาม
รถที่ทำการเคลือบแก้วจะมีสีสันแวววาว ดูเงางาม

เคลือบแก้วคือนวัตกรรมการดูแลรักษาสีและพื้นผิวของรถยนต์ให้คงสภาพความเงางามเหมือนใหม่ มีความคงทน อยู่ได้นานกว่าการดูแลรักษาแบบทั่วไปอย่างการล้างทำความสะอาด หรือการเคลือบสีแบบธรรมดา หากเลือกเคลือบแก้วที่ดีจะสามารถรักษาสภาพความเงางามของรถได้ยาวนานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ในการเคลือบเพียงครั้งเดียว ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาเคลือบ วัสดุ วิธีการและความชำนาญงานของช่างเคลือบ

ประเภทของเคลือบแก้ว

หากแบ่งตามเทคนิคและวิธีการทำ เคลือบแก้วจะแบ่งออกมาเป็น 2 แบบ คือแบบทาและแบบพ่น ซึ่งแบบทาเป็นวิธีการแบบดั้งเดิมที่ในปัจจุบันยังได้รับความนิยมอยู่ โดยวิธีการนี้จะใช้ทักษะของช่างเคลือบที่ต้องมีความชำนาญสูงที่ต้องทาสารเคลือบให้กระจายทุกส่วนของพื้นผิวรถยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่บางและไม่หนามากเกินไป และรู้จักการใช้สาร Silica หรือ SI อันเป็นสารประกอบของผลึกแก้ว ที่เมื่อเคลือบไปแล้วจะติดผสมเข้ากับชั้นสีรถเป็นลักษณะเหมือนฟิล์มแก้วบางๆที่ช่วยปกป้องสีรถ พร้อมให้ความเงางาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในมีปริมาณที่เข้มข้นสูงเพื่อให้มีการยึดติดผิวสีได้เป็นระยะเวลานาน

เคลือบแก้วสีรถยนต์คืออะไร ?
ในปัจจุบันมีการพัฒนาเคลือบแก้วแบบใช้เครื่อง

ส่วนแบบพ่นเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากอุตสาหกรรมพ่นสีรถยนต์ในปัจจุบัน ที่จะช่วยให้สารพ่นกระจายตัวได้ดีและระเหยได้ไวและไม่ต้องเช็ดของเหลวออก วิธีการเคลือบแบบนี้ ให้ความคงทน เงางาม เสริมสีรถให้ดูฉ่ำแวววาว สดใหม่เสมอ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยและให้ความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

>>> บางทีคุณอาจสนใจ เคลือบแก้วรถยนต์

เคลือบแก้วเหมาะกับรถแบบไหน

สำหรับการเลือกทำเคลือบแก้วนั้น ปกติแล้วจะเหมาะกับรถที่เมื่อเกิดรอยแล้วจะเห็นได้ชัด อย่างรถสีขาวหรือสีดำ และเมื่อทำไปแล้วก็จะไม่ต้องล้างทำความสะอาดบ่อย เพราะเคลือบแก้วจะช่วยลดรอยขีดข่วน รอยขนผ้า รอยขนแมวต่าง ๆ รวมไปถึงช่วยป้องกันคราบเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างคราบฝุ่น ฝน หรือหยดน้ำ เพราะเคลือบแก้วจะทำให้น้ำเกาะผิวรถน้อย ไม่ทิ้งคราบ ไม่ต้องทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อเจอคราบต่าง ๆ เหล่านี้  ดังนั้นเคลือบแก้วจึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาล้างรถ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีเหตุจำเป็นให้จอดรถกลางแจ้งอยู่บ่อย ๆ ด้วย เพราะอีกหนึ่งประโยชน์ของเคลือบแก้วคือช่วยป้องกันแสง UV นั่นเอง

ความเข้าใจผิดกับการเคลือบแก้ว

ถึงจะดูสารพัดประโยชน์อย่างนี้แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเคลือบแก้วจะป้องกันได้ทุกอย่าง เพราะถ้าหากต้องเจอกับรอยขีดข่วนหนัก ๆ อย่างการขูด การทุบ ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดรอยอยู่ดี เคลือบแก้วเพียงช่วยเสริมให้รถมีความทนทานขึ้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะทนได้ทุกอย่าง และอีกหนึ่งสิ่งที่ควรรู้นั่นคือ รถที่ไปทำเคลือบแก้วต้องเป็นรถที่สะอาดไม่มีรอย ไม่ใช่รถที่เป็นรอยแล้วไปทำ เพราะหากมีรอยจะต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาดชำระล้างให้เรียบร้อยหรือที่เรียกว่า Wet Look นั่นเอง ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วรถที่จะไปทำเคลือบแก้วมักจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงที่ไร้รอยขีดข่วนใด ๆ ซึ่งสามารถเข้ารับการเคลือบได้เลยในทันทีไม่ต้องผ่านขั้นตอนขัดสี

สีรถยนต์ที่ผ่านการเคลือบแก้วจะมีความเงางามยาวนานหลายปี
สีรถยนต์ที่ผ่านการเคลือบแก้วจะมีความเงางามยาวนานหลายปี

การเคลือบแก้วมีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นขึ้นไป ซึ่งโดยมาตรฐานทั่วไปแล้วจะสามารถอยู่คงทนได้ยาวนานประมาณ 2-3 ปี ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากนับกับราคาที่ต้องจ่ายไปแล้ว ดังนั้นหากคุณอยากให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ ลดภาวะการเกิดรอยขีดข่วน การเคลือบแก้วคือคำตอบที่ดีสำหรับคุณ

>> "น้ำมันเครื่อง"ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ 4 วิธีเช็คให้เหมาะกับรถยนต์
>> ทำไงไม่ให้สับสน !? ระว่าง “เบรก” และ “คันเร่ง”

 

ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ