เกร็ดความรู้ ย้อนดูต้นกำเนิดของนวัตกรรมสำคัญในโลกยานยนต์

ประสบการณ์ใช้รถ | 2 ส.ค 2561
แชร์ 0

รถยนต์ที่เราขับกันในทุกวันนี้ ต่างประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยกันทั้งสิ้น แต่คุณรู้ใหม ว่าเหล่านวัตกรรมที่สำคัญต่างๆ ในรถของเรานั้น มีที่มาอย่างไร

1.เข็มขัดนิรภัย

นี่คือนวัตกรรมที่อยู่คู่กับรถและคนขับรถมาอย่างยาวนาน และเป็นอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อป้องกันชีวิตของผู้ขับขี่ที่สำคัญ โดยต้นกำเนิดของเข็มขัดนิรภัยนี้ มาจากแนวคิดใของวิศวกรชาวอังกฤษอย่างคุณ จอร์จ คาเลย์ ตั้งแต่ช่วงกลางศตววรรษที่ 19 และสำเร็จเสร็จสิ้นโดยคุณ เอดเวิร์ด เจ คลากฮอน ที่ได้จดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของนวัตกรรมนี้ ในปี 1885 นั่นเอง โดยจุดประสงค์เพื่อยึดตัวบุคคลใว้กับวัตถุ

 ซี ฮันเตอร์ เชลเดรน 

ในช่วงกลางปี 90s คุณหมอ ซี ฮันเตอร์ เชลเดรน แพทย์ด้านประสาทวิทยาที่โรงพยาบาล Huntington Memorial ได้สังเกตุเห็นว่า มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมายจากการได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะในอุบัติเหตุรถยนต์ จึงได้สืบสวนต่อ พบว่า เข็มขัดนิรภัยแบบดั้งเดิมนั้น ไม่สามารถป้องกันผู้ขับขี่จากศรีษะกระแทกได้ และได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับทางอุตสาหกรรมมยานยนต์ และได้เสนอแนวคิดเข็มขัดนิรภัยแบบยืดปรับได้ที่พัฒนามาเป็นแบบที่เราใช้กันในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งจากการผลักดันในครั้งนี้ ทำให้ในปี 1966 สภาคอนเกรสของอเมริกาได้ผ่านพระราชบัญญัติ National Traffic and Motor Vehicle Safety Act ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินทางด้วยยานพาหนะบนถนน โดยกำหนดให้เข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์พื้นฐานจำเป็นในรถ

ทดลองการใช้เข็มขัดนิรภัยแบบยืดปรับได้

2. ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Emergency brake assist , EBA)

ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ

ในทุกวันนี้ เจ้าระบบช่วยเบรกอัตโนมัตินี้น่าจะกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่รถรุ่นใหม่ๆ ทุกๆ คันต้องมีแล้ว โดย EBA จะ​ตรวจสอบ​ลักษณะ​การ​เบรก​ของ​คนขับ และ​เพิ่ม​แรง​เบรก​เมื่อจำเป็น

โดยต้นกำเนิดของระบบช่วยเบรกอัตโนมัตินี้  เริ่มขึ้นด้วยการร่วมมือพัฒนาของบริษัท  Daimler-Benz กับ TRW/LucasVarity ในปี 1992 โดยทำการทดสอบด้วยการจำลองการขับจริง พบว่าผู้ขับเกิน 90% เหยียบเบรกไม่แรงพอเมื่อพบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาระบบช่วยเบรกอัตโนมัตินี้ขึ้น โดยหลักการทำงานของระบบช่วยเบรกอัตโนมัตนี้คือ เมือ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ถูก​สั่ง​ให้​ทำงาน แป้น​เบรก​จะ​ปรับ​ลด​ต่ำลง​เล็กน้อย​จาก​ปกติ และ ถ้า​มี​การ​ปล่อย​แป้น​เบรก จะ​เป็น​การ​หยุด​การ​เบรก​ทุกประเภท ซึ่งรถคันแรกของโลกที่มาพร้อมกับระบบช่วยเบรกอัตโนมัตินี้ก็คือ  Mercedes-Benz S-Class และ SL-Class ในปี 1998 นั่นเอง

3.ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control)

การลื่นไถล คือสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ

นี่คือระบบที่ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยที่สำคัญเป็นอย่างมาก สำคัญถึงขนาดที่ผู้ผลิตรถยนต์แทบทุกเจ้าต่างตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความปลอดภัยให้การขับขี่รถของตน ทำให้ในรถแต่ละแบรนด์ ก็จะมีชื่อเรียกเทคโนโลยีนี้ต่างกัน

พื้นฐานการทำงานของเจ้าระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวนี้ คือจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพการเคลื่อนที่ของรถตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ขับขับรถในความเร็วที่สูง และทำการเลี้ยวที่มีองศามาก จนทำให้ล้อข้างใดข้างนึงลอยขึ้นจากพื้น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวจะเข้าไปช่วยผู้ขับขี่ทันที โดยการส่งแรงเบรกไปยังล้อที่มีอาการไม่ยึดเกาะ พร้อมกับสั่งลด หรือตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงชั่วขณะ เพื่อช่วยให้ตัวรถกลับมาอยู่ในการควบคุมของผู้ขับขี่ได้

โดยเจ้าแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีช่วยในการควบคุมรถนี้ก็คือ Toyota โดยใส่มาในรถ Toyota Crown ในปี 1983

4.รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Self-Driving Car )

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่าร้อยปี

นี่คือเทคโนโลยีที่ฮอตมากๆ และถูกพูดถึงในฐานะ “อนาคตของยานยนต์และการขนส่ง” แต่เชื่อใหม ว่าเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ มันมีแนวคิดนี้มานานเกือบ 100 ปีแล้ว

จริงๆ เรื่อง รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ไมใช่เรื่องใหม่เลย เพราะจริงๆแลัวมีความพยายามในการสร้างรถแห่งอนาคตนี้มาตลอด ตั้งแต่ช่วงปี 1920s ที่ในอเมริกามีการทดลองการนำคลื่นวิทยุเพื่อใช้ในการสั่งการรถยนต์ให้เคลื่อนที่เหมือนรถบังคับ ทั้งความพยายามในการสร้าง และรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบที่เราคุ้นเคยกันนี้ เริ่มที่ช่วงปี 1977 โดย Tsukuba Mechanical Engineering Laboratory ในประเทศญี่ปุ่น ที่พยายามสร้างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ขึ้นด้วยการติดกล้องสองตัว และต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แอนะล็อกเพื่อทำการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ โดยรถยนต์คันดังกล่าวสามารถเคลื่อนที่ได้ถึง 30กิโลเมตร/ชั่วโมง

5. เครื่องปรับอากาศในรถยนต์

ก่อนจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในรถ มีเฉพาะคนรวยเท่านั้นที่ติดแอร์ในรถ

นี่คือ 1 ในนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อมนุษยชาติโดยแท้ ยิ่งในประเทศไทย หากรถยนต์ไม่มีแอร์ เชื่อว่าได้มีข่าวคนถูกอบจนเป็นลมในรถนับไม่ถ้วนแน่ๆ โดยระบบเครื่องปรับอากาศในรถยนต์นี้ ผลิตครั้งแรกโดยโรงงานในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในปี 1933 โดยในทีแรกเป็นบริการเสริมให้กับรถหรูของคนมีเงิน ซึ่งนำรถของตนมาติดเครื่องปรับอากาศนี้ และในปี 1939 บริษัทผลิตรถยนต์ Packard ก็ได้บุกเบิกการใส่เครื่องปรับอากาศลงในรถยนต์มาจากโรงงาน โดยเรียกระบบเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ของตนว่า Weather Conditioner โดยมาพร้อมเครื่องทำความร้อนด้วย

เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของนวัตกรรมที่สำคัญและพลิกโฉมวงการรถยนต์ หลายๆ อันได้กลายมาเป็นมาตรฐานสำคัญในทุกวันนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะหมดแค่นี้นะ ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย ติดตามเว็บไซต์ Chobrod ของพวกเราใว้ รับรองว่านวัตกรรมชิ้นต่อๆไปที่เราจะนำมาเสนอ น่าสนใจอย่างแน่นอน

 

ดูเพิ่มเติม

>> ไม่ต้องกลัวฝน กลัวน้ำ กันต่อไปแล้ว เพราะเรามีนวัตกรรมใหม่ “กระจกชอบน้ำ"

>> เตรียมพร้อมเทคโนโลยีใหม่ในยานยนต์แห่งอนาคต