รถยนต์กับสมการความปลอดภัย อะไรคือสิ่งที่รถยุคนี้ควรมี

ประสบการณ์ใช้รถ | 9 มี.ค 2561
แชร์ 1

ระดับมาตรฐานในด้านต่างๆ ของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ ความสะดวกสบาย ในการขับขี่ล้วนผันเปลี่ยนพัฒนาตามเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อมองเทียบเปรียบกับรถเมื่อ 20 ปีก่อนกับรถยุคนี้จะเห็นถึงความแตกต่าง และมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

รถยนต์กับสมการความปลอดภัย อะไรคือสิ่งที่รถยุคนี้ควรมี

รถยนต์กับสมการความปลอดภัย อะไรคือสิ่งที่รถยุคนี้ควรมี

ด้วยอุปกรณ์มากมายที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้กับรถในปัจจุบันเพื่อส่งเสริมในด้านความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ทั้งในแง่การป้องกันก่อนเกิดเหตุ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในด้านสติสัมปชัญญะ ป้องกันความประมาท และเติมเต็มทักษะให้ผู้ขับขี่เมื่ออยู่หลังพวงมาลัย อีกข้อคือการป้องกันเพื่อช่วยลดความสูญเสียเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นจะทำงานภายใต้เซ็นเซอร์ เรดาห์ ที่ถูกซ่อนอยู่ในตัวรถ อาจจะเป็นการดีที่การซื้อรถคันต่อไป ผู้ซื้อควรเลือกรถที่มีฟังก์ชั่นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาให้แบบครบครัน แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมายนั้นอะไรคือตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์ทั้งป้องกัน และลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

ถุงลมนิรภัย

ยังไม่ต้องมองหาอุปกรณ์สุดล้ำอะไรมากมาย แค่เรื่องถุงลมนิรภัยที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1998 นับจริงๆ ก็ครบ 20 ปีพอดิบพอดีที่มีการเริ่มใช้ถุงลมนิรภัยในส่วนของคนขับ และฝั่งผู้โดยสาร จากการสำรวจของ NHTSA ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ในอเมริกาถึงปี 2008 ปรากฎว่าตัวอุปกรณ์ถุงลมนิรภัยนี้สามารถช่วยชีวิตผู้ใช้รถ และผู้โดยสารได้มากกว่า 25,000 คน ถือเป็นอีกหนึ่งในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์ จนตอนนี้เทคโนโลยีพัฒนาระบบถุงลมนิรภัยในรถเพิ่มขึ้นตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสารมากถึง 10 ใบไปแล้วสำหรับบางรุ่น และเชื่อว่าอีกไม่นานจะกลายมาเป็นมาตรฐานในรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนถนนกับจำนวนถุงลมที่มากขึ้นนี้

ถุงลมนิรภัยถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในด้านความปลอดภัยของรถยนต์

ถุงลมนิรภัยถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในด้านความปลอดภัยของรถยนต์

แม้ถุงลมนิรภัยได้รับการพิสูนจ์แล้วว่ามีคุณประโยชน์เมื่อยามอุบัติเหตุมากแค่ไหน แต่ระบบนี้ก็ยังมีการพัฒนาให้ดีขึ้นจากแรกเริ่มที่ระบบนี้เกิดขึ้นมา การผสานการทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น เข็มขัดนิรภัย หรือระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการหยุดรถฉับพลัน ก็เพื่อให้เกิดประสิทธิผลดีที่สุดเมื่อยามเกิดอุบัติเหตุมาช่วยลดความรุนแรง และความสูญเสียที่เกิดขึ้น

เข็มขัดนิรภัย

แม้เข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ แต่จะเป็นอุปกรณ์สำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน ช่วยลดความรุนแรงต่อผู้โดยสารในวินาทีเกิดเหตุ ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องพึ่งเทคโนโลยีอะไรมากมาย และมีมานานอยู่คู่กับรถยนต์ที่เราๆ ใช้ขับขี่หลายสิบปีแล้ว แต่ระบบนี้ก็ได้มีการปรับปรุงพัฒนามาให้ดีขึ้นตามยุคสมัยเพื่อให้ความสามารถในการโอบรัดผู้ขับขี่ในระหว่างการชนดีมากยิ่งขึ้น

เข็มขัดนิรภัยช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่หลุดออกจากตำแหน่งการนั่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เข็มขัดนิรภัยช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่หลุดออกจากตำแหน่งการนั่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เสี้ยวเวลาที่เกิดอุบัติเหตุร่างกายของผู้ขับขี่จะถูกเหวี่ยงจากแรงกระแทกไปข้างหน้า อีกทั้งแรงกระแทกจากผู้โดยสารเบาะหลังที่ไม่ได้รัดเข็ดขัดนิรภัยจะเปรียบเหมือนขีปนาวุธที่อันตรายในช่วงที่เกิดการชน ซึ่งเข็มขัดนิรภัยจะช่วยให้ร่างกายของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารอยู่ในลักษณะที่เหมาะสม พร้อมรับการทำงานของถุงลมนิรภัย ช่วยให้ถุงลมนิรภัยสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ระบบเบรค ABS

หนึ่งระบบความปลอดภัยด้านการป้องกันก่อนเกิดเหตุ คือระบบเบรค ABS (Antilock Braking System) ที่หลายๆ คนอาจคุ้นหูกันมาอย่างยาวนาน และแทบจะเป็นพื้นฐานในรถทุกรุ่นของยุคนี้ไปแล้วนั้น เชื่อหรือไม่ว่าแต่ก่อนเมื่อตอนที่ระบบ ABS นี้เข้ามาใหม่ๆ จะมีให้เฉพาะในรุ่นที่มีราคาสูง หรือเฉพาะรุ่นย่อยที่เป็นตัวท็อปเท่านั้น แต่ตอนนี้แม้แต่อีโคคาร์ ราคารถเริ่มต้น 4-5 แสน ทางผู้ผลิตก็ใส่ระบบความปลอดภัยนี้เข้ามาให้แล้ว

โดยระบบเบรค ABS ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความสามารถในการควบคุมทิศทางบังคับเลี้ยวได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อคตายเมื่อยามกดเบรคกะทันหัน นับตั้งแต่ปี 1980 ระบบเบรค ABS ได้กลายมาเป็นมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของรถยนต์ และเพิ่มขึ้นนับจากนั้นจนมีอยู่ในรถทุกรุ่น ซึ่งวิธีเพื่อการใช้งานระบบเบรค ABS นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการใช้แรงกดลงบนแป้นเบรคต่อเนื่องจนกว่ารถจะหยุด นิ่งสนิท อย่ากังวัลไปแม้จะมีเสียงสั่นสะท้านจากแป้นเบรคเพราะนั่นหมายถึงการทำงานอยู่ของตัวระบบ ABS สำหรับรถบางรุ่นมันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสาเหตุเกิดจากระบบปล่อยแรงดันน้ำมันเบรคที่มีความถี่สูงกว่าปกติ และพึงตระหนักไว้ว่าการทำงานของเบรค ABS จะเต็มประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุดขึ้นอยู่กับสภาพยางรถยนต์ที่ใช้อยู่ด้วย ถ้ายางไม่เสื่อมสภาพ อยู่ในลักษณะพร้อมใช้จะยิ่งช่วยให้การเบรคผลออกมาดีที่สุด

ABS ช่วยรถสามารถควบคุมทิศทางได้เมื่อเหยียบเบรคแรงๆ

ABS ช่วยรถสามารถควบคุมทิศทางได้เมื่อเหยียบเบรคแรงๆ

ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ   

ESC ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้เมื่อยามฉุกเฉิน ถือเป็นระบบที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตของผู้ขับขี่เลยก็ว่าได้ จากที่จะต้องเกิดอุบัติเหตุคนในรถเสียชีวิต เปลี่ยนเป็นทำให้สามารถขับรถได้จนถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อผู้ขับขี่ต้องหักเลี้ยวหรือเบรคกะทันหันเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรค ระบบนี้จะตรวจสอบการทำงานของพวงมาลัยเมื่อเทียบกับสภาพถนน ตรวจสอบ​แรง​ขับเคลื่อน​ และ​แรง​เบรก​ของ​ล้อ​แต่​ละ​ล้อ​แยกกัน จากนั้นลด​กำลัง​ของเครื่​อง​ยนต์​ลง​ถ้าล้อ​ขับเคลื่อน​เกิด​การ​หมุน​ฟรี​บน​พื้นผิว​ที่​รองรับ​ล้อ​ เพื่อ​ช่วยรักษาการทรงตัว และเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

ระบบ ESC นี้จึงเปรียบเสมือนตัวแปรสำคัญในเรื่องความปลอดภัยเมื่อยามขับขี่ แม้จะมีคำถามจากหลายๆ ผู้ใช้งานว่า ระบบนี้มันจำเป็นแค่ไหน? ในชีวิตประจำวันจะมีสักกี่ครั้งที่ได้ใช้งาน ความเป็นจริงเพียงครั้งหนึ่งที่ระบบนี้ทำงานก็อาจจะคุ้มค่ายิ่งกว่าราคารถทั้งหมดเลยก็ได้ เพราะมันสามารถช่วยไม่ให้เกิดเหตุสลด ช่วยเปลี่ยนจากเรื่องร้ายที่กำลังจะเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมากน้อยในการขับขี่ มาเป็นขับถึงจุดหมายปลายทางหาคนที่รักอย่างมีความสุข

ความแตกต่างของการมี และไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวของรถ

ความแตกต่างของการมี และไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวของรถ

ระบบเตือน และช่วยเบรคก่อนการชน

ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ด้านความปลอดภัยของรถยนต์ เริ่มที่จะเข้ามาแพร่หลายมากขึ้นกับรถในบ้านเราทั้งใน Ford, Mitsubishi และ Mazda ระบบความปลอดภัยที่ใช้ไฟกระพริบ การสั่นของพวงมาลัยหรือสัญญาณเตือนเพื่อบอกกับผู้ขับขี่ว่ารถกำลังมุ่งไปชนสิ่งกีดขวางหรือคนเดินถนน ผ่านการทำงานของเรดาห์หรือเซ็นเซอร์ในตัวรถ และเมื่อมีการตรวจพบสิ่งกรีดขวางภายในวิถีการเคลื่อนที่ แต่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองด้วยการลดความเร็ว หรือเหยียบเบรค ระบบจะทำการเบรครถให้เองอัตโนมัติภายใต้ข้อกำหนดของระบบว่าระดับความเร็วเท่าไร ระบบนี้จึงจะทำงานได้ แล้วแต่ค่าย แล้วแต่ยี่ห้อ เป็นระบบที่ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีที่เข้ามาชดเชยการขาดไปซึ่งสติของผู้ขับขี่ในบางเสี้ยวเวลา เผลอเพียงชั่วขณะในตอนที่อยู่หลังพวงมาลัยก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ระบบเตือน และช่วยเบรคก่อนการชนมีใช้ในอีโคคาร์แล้ว

ระบบเตือน และช่วยเบรคก่อนการชนมีใช้ในอีโคคาร์แล้ว

ระบบ “ความไม่ประมาท”

ชื่อระบบอาจจะฟังดูแปลกๆ ซึ่งระบบนี้ไม่มีอยู่ในตัวรถรุ่นไหน แต่มีอยู่ในผู้ขับขี่ที่อยู่หลังพวงมาลัยทุกคน ความปลอดภัยเมื่อยามที่ใช้ยานพาหนะจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีความไม่ประมาท แม้เทียบกับระบบความปลอดภัยในรถยนต์หรูราคาหลายสิบล้านก็ไม่ปลอดภัยสู้รถอีโคคาร์ที่ผู้ขับขี่ขับรถด้วยสติ ระมัดระวัง และไม่ประมาท  

ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการขับขี่ในลักษณะต่างๆ ที่เสี่ยงทั้งตัวผู้ใช้รถเอง และผู้ใช้ถนนร่วม เช่น การขับรถเร็วเกินไป ขับรถผิดกฎจราจร แชทขณะขับขี่ เมาแล้วขับ สิ่งเหล่านี้แหละที่เรียกว่าความประมาทในขณะใช้รถ เพราะต่อให้ระบบความปลอดภัยของรถยนต์จะพัฒนาจนถึงขั้นขีดสุดมากแค่ไหน ตราบใดที่ยังมีผู้ขับขี่ขับรถด้วยความประมาทเป็นคนที่เหยียบคันเร่ง ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุก็ยังคงมีสูงอยู่ดี

ดังนั้นทุกครั้งที่จะบิดสตาร์ทรถ ไม่ว่าจะเป็นรถจะราคาแพงออฟชั่นความปลอดภัยสูง ถุงลมนิรภัย 10 ใบเต็มคันหรือไม่มีอะไรเลยก็ตาม ระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดขึ้นอยู่ที่ตัวผู้ขับขี่เองนั่นแหละ

เมาแล้วขับคือหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนทั้งในไทย และทั่วโลก

เมาแล้วขับคือหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนทั้งในไทย และทั่วโลก

ตัวอย่างระบบความปลอดภัยที่กล่าวมาอาจไม่ใช่ทั้งหมดที่รถยุคนี้มีให้ แต่ละรุ่น แต่ละค่าย แตกต่างกันตามตัวเลขราคาในโบวชัวร์ สุดท้ายแล้วนั้นสมการความปลอดภัยของรถทุกคันจะมีตัวแปรหลักสำคัญที่สุดนั่นคือ “ผู้ขับขี่” ผู้ขับขี่ระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายสูง เมามากแล้วขับรถอัตราความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ และความสูญเสียก็เพิ่มขึ้นไปตาม ผู้ขับขี่มีสติครบถ้วน ตั้งใจขับ ปฎิบัติตามกฎจราจรความเสี่ยงที่จะเกิดออุบัติเหตุก็มีน้อย ความไม่ประมาทของผู้ขับขี่จึงเป็นสิ่งที่รถยุคนี้ และยุคต่อๆ ไปต้องมี ตราบใดที่ทุกวันนี้มนุษย์ยังเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะอยู่

ดูเพิ่มเติม