ยุคนี้เป็นยุค 4.0 ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงอย่างเราๆนั้นต้อง "สตรอง" ในการใช้ชีวิต ถึงแม้ว่าผู้หญิงบางคนจะยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์มากเท่าไหร่นัก แต่ก็มั่นใจได้เลยว่า ไม่ยากเกินความสามารถของสาวๆในยุคนี้แน่นอน! เพียง 8 ข้อเท่านั้น ง่าย สะดวก แถมปลอดภัยอีกด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีขั้นตอนอะไรยังไงกันบ้าง
1. เช็คยางรถยนต์และลมยาง
ขั้นตอนนี้ง่ายๆ แค่เพียงตรวจเช็คดูล้อให้ครบทั้ง4ล้อ ถ้าลมยางอ่อนเกินไปจะส่งผลให้เปลืองน้ำมัน นอกจากนี้ยังอันตรายต่อการขับขี่บนท้องถนนอีกด้วย ซึ่งรถยนต์ทุกคันจะมีแท็กบอกอยู่ด้านข้างประตูคนขับ ว่าต้องเติมลมล้อหน้าเท่าไร ล้อหลังเท่าไร โดยการตรวจเช็คลมยางนี้ควรเช็คประมาณอาทิตย์ละครั้งและจำเป็นต้องตรวจเช็คทั้ง 4 ล้อ เพื่อความปลอดภัยและการใช้งาน
2. การเช็คระดับน้ำมันเครื่อง
เปิดฝากระโปรงรถแล้วดึงก้านน้ำมันเครื่องออก ใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำมันออกก่อนและเสียบก้านน้ำมันเครื่องเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นดึงออกมาดูอีกครั้ง ให้สังเกตุรอยคราบน้ำมันเครื่องเอาไว้ หากอยู่ต่ำกว่าขีดล่างต้องเติมเข้าไปจนให้ได้ระดับตามที่มาตรฐานกำหนด ห้ามเกิดขีดบนเด็ดขาดเพราะจะทำให้ตัวเครื่องเกิดความเสียหาย
ดูเพิ่มเติม:
>> สรุปรวมข่าวรถยนต์เด่นประจำสัปดาห์ วันที่ 26 พ.ค. - 1 มิ.ย. 2018
>> ข้อดีของผู้หญิงเมื่อไปเรียนขับรถ
3. การเช็คระดับน้ำสำหรับฉีดทำความสะอาดกระจก
สามารถใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำยาทำความสะอาดกระจกก็ได้ แต่ต้องเติมในระดับที่ขีดกำหนดไว้ ควรจะมีน้ำยาทำความสะอาดกระจกไว้เสมอ หากเกิดเหตุสุดวิสัย
กระจกหน้ารถเกิดสกปรกขึ้นมาจะได้มีเอาไว้ทำความสะอาด เพื่อให้มองเห็นทางขับรถได้อย่างชัดเจน
4. การเช็คน้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำยาหม้อน้ำ
ข้อนี้ต้องหมั่นตรวจเช็คน้ำมันให้ได้ระดับอยู่ตลอด เรียกว่าสำคัญเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ และต้องเลือกใช้น้ำยาที่มีคุณภาพด้วย เพราะจะมีผลต่อเครื่องยนต์โดยตรง หากรถเกิดร้อนขึ้นมากลางทางด้วยแล้ว อันตรายมากๆ
5. การเช็คและสังเกตแบตเตอรี่รถยนต์
สังเกตอาการผิดปกติเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เช่น ถ้าบิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์สตาร์ทติดยากหรือไม่ค่อยติด หรือเปิดไฟในห้องโดยสารแล้ว ไฟเกิดอ่อนลง ให้เดาไว้เลยว่าแบตเตอรี่รถยนต์กำลังจะหมด แต่ถ้าเพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้ไม่ถึง 6 เดือนหรือไม่เกิน 6 เดือน แล้วมีอาการเช่นนี้ แสดงว่าอาจจะเกิดการผิดปกติจากส่วนอื่น ให้รีบนำรถของคุณเข้าศูนย์หรืออู่ใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด
6. การเช็คระดับน้ำมันเบรก
เปิดฝากระโปรงหน้ารถออกมาและสังเกตุกระปุกน้ำมันเบรก จะมีขีด MAX กับ MIN ระดับน้ำมันเบรกที่ได้มาตรฐานนั้นต้องไม่ต่ำกว่า MIN และห้ามเกินขีด MAX ควรระมัดระวังหกเลอะสีรถด้วย เพราะจะทำให้สีผิวรถถูกทำลายได้ หากระดับน้ำมันเบรกลดลงไปมาก แสดงว่าตัวผ้าเบรกอาจเกิดการสึกหรอ หรือในกรณีที่เพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเบรกมาได้ไม่นานแต่น้ำมันกลับต่ำกว่าขีดที่กำหนด แสดงว่าอาจจะเกิดการรั่วซึมได้ ต้องรีบเช็คโดยด่วน ถ้าปล่อยไว้นานจะเกิดอันตรายกับเครื่องยนต์ได้
7. การเช็คน้ำมันเกียร์
สตาร์ทเครื่องท้งไว้ก่อนประมาณ 2-3 นาที จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ออกมาและเช็ดคราบน้ำมันออกแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ ดึงขึ้นมาอีกครั้งเพื่อดูระดับน้ำมัน ห้ามต่ำกว่าขีด MIN (ในกรณีที่จอดรถทิ้งไว้ค้างคืนแต่ไม่เกิน 6 ชั่วโมง ให้ดูที่ก้านวัดระดับน้ำมันที่เขียนคำว่า Cool แต่ถ้าเพิ่งขับมาร้อนๆ ให้ดูที่คำว่า HOT ) แต่ถ้าไม่รู้จะเติมยังไงหรือไม่แน่ใจว่าต้องใช้รุ่นไหน ให้เข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่ไว้ใจได้เลย ขั้นตอนนี้เราแค่เช็คดูว่ามันปกติหรือไม่ปกติก็พอ
8. การเคลือบสีรถ
การเคลือบสีรถเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ป้องกันให้สีรถนั้นสวย เงางามอยู่เสมอ หากสาวๆ คนไหนไม่มีเวลาหรือขี้เกียจทำเองให้สามารถใช้บริการคาร์แคร์ได้ ประหยัดเวลาแถมไม่เปลืองแรงอีกด้วย
เห็นไหมล่ะว่าแค่ 8 ขั้นตอนก็สามารถดูแลรถยนต์ด้วยตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าเว้นไว้บางกรณีที่เกินความสามารถจริงๆ ก็ต้องเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่ไว้ใจใกล้บ้าน หากฝืนทำต่อไปอาจจะเกิดอันตรายกับเครื่องยนต์แถมยังต้องเสียเงิน เสียทองมากมายในการซ่อมเครื่องยนต์อีก สาวๆคนไหนที่อยากจะลองเช็คเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง ก็อย่าลืมนำคำแนะนำจาก chobrod.com ไปใช้กันด้วยนะ เพื่อความชัวร์และปลอดภัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
ดูเพิ่มเติม:
>> 9 คำแนะนำสาวๆ ก่อนถอยรถด้วยตัวเอง
>> 5 รถยอดนิยมราคาเบาๆ ที่สาวออฟฟิศ มีขับไว้ ไม่ตกเทรนด์