Toyota Yaris ถือเป็นรถยนต์ Eco Car อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะความคุ้มค่าของการประหยัดน้ำมัน ที่ทำให้ใครหลายคนสนใจเลือกซื้อ Toyota Yaris มือสองเพื่อมาใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน แล้วจะเลือกซื้อ Toyota Yaris อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด วันนี้ Chobrod จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อ Toyota Yaris มือสองให้คุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ
Toyota Yaris เจนเนอเรชั่น 2 รุ่นปี 2009
Toyota Yaris รถ Eco Car จากค่าย Toyota เป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็ก ลักษณะที่โดดเด่นของรถคือช่วงท้ายที่สั้น โดย Toyota Yaris เป็นรถรุ่นที่ผลิตมาเพื่อทดแทนรุ่น Toyota Starlet ที่ยกเลิกการผลิตไปในปี 1999 ในประเทศไทย Toyota Starlet เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มีขนาดเล็ก และมีโครงตัวถังแบบ hatchback ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย และมีคู่แข่งในสมัยนั้นคือ Nissan March ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน และความกะทัดรัดขับง่าย แต่ยอดขาย ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก Toyota Starlet เนื่องจากคนไทยในช่วงนั้นไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยของรถรุ่นนี้ เนื่องด้วยช่วงท้ายที่กุด ไม่มีกระโปรงหลัง สร้างความกังวลว่าผู้โดยสารที่นั่งหลังจะได้รับอันตรายได้ง่ายหากถูกชนท้าย จนเลิกผลิตไปในที่สุด
Toyota Yaris ไม่ได้มีแต่รุ่น Hatchback ยังมีรุ่น Sedan นะ (อาจจะคุ้นชินในชื่อ Toyota Yaris Ativ)
ในปีเดียวกัน Toyota ก็ได้นำ Toyota Yaris เข้ามาแทนที่ ด้วยการออกแบบโดย Sotiris Kovos นักออกแบบชาวกรีก ที่ทำให้ Toyota Yaris มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่า ดูทันสมัยขึ้น จนเป็นที่นิยม และมียอดขายดีกว่า Toyota Starlet โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ Honda Jazz และเริ่มผลิตในปี 1999 จนถึงปัจจุบัน
ดูเพิ่มเติม
>> รีวิว All New Toyota Yaris 2018
>> ออกไม่นาน!! ทำไม Yaris 1.2 กลายเป็นมือสองเยอะ
Toyota Yaris จนถึงปัจจุบันมีด้วยกัน 3 โฉม รวม Toyota Yaris Ativ อยู่ในเจนเนอเรชั่น 3 นะคะ
สำหรับ Toyota Yaris แบ่งวิวัฒนาการออกเป็น 3 โฉม (Generation) คือ
และในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ ก็ได้มีการปล่อยรุ่นปรับโฉม Hatchback 5 ประตู มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ทั้งคัน ด้านหน้าคมคายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยครบครัน และมีอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งภายใน และภายนอกลดหลั่นกันตามรุ่น และราคา มิติตัวถังมีความยาว 4,145 มิลลิเมตร กว้าง 1,730 มิลลิเมตร สูง 1,500 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อวัดจากดุมล้อหน้าไปดุมล้อหลัง 2,550 มิลลิเมตร ล้ออัลลอยลายใหม่ขอบ 15 นิ้ว ยาง 185/60 R15
Toyota Yaris โฉมแรกของโลก ปรากฏตัวในปี 1999
Toyota Yaris เริ่มเป็นที่รู้จักในไทยตั้งแต่ปี 2005 ด้วยรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและใหญ่ขึ้นในหลายมิติ เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2005 มาจนถึงปี 2013 โดยเข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2549–ปัจจุบัน โดยใช้สโลแกนเปิดตัวว่า "Are you groovy?" การผลิตระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Toyota 1NZ-FE VVT-i 4 สูบ 1.5 L. 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์)ที่ 6,000 RPM แรงบิดที่ 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 RPM ประหยัดน้ำมันประมาณ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตรในเมือง และ 15.3 กิโลเมตรต่อลิตรในชนบท และมีความแพร่หลายออกไปในหลายประเทศมากขึ้น
Toyota Yaris โฉมปี 2005 เป็นครั้งแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย
ยุคแรกของ Toyota Yaris ในประเทศไทย ทำตลาดตั้งแต่ 2005-2009 โดยมีกระจังหน้าใหญ่ และโคมไฟเลี้ยวหลังสีขาว มี 4 รุ่นย่อย ได้แก่
Toyota Yaris รุ่นตัวถัง 1.33 ลิตร
ยุคที่ 2 ทำการตลาดในปี 2009-2012 เปลี่ยนสโลแกนเป็น "Yaris Me" กระจังหน้าเล็ก โคมไฟเลี้ยวหลังสีส้ม และมีการเปลี่ยนแปลงรุ่นย่อยและอุปกรณ์มาตรฐาน ดังนี้ ตัดรุ่นย่อย G Automatic Limited ออกไป, เพิ่มกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ในรุ่น S Ltd., G Ltd., G A/T, E Ltd., E A/T, E M/T, TRD Sportivo, รุ่น S Automatic Limited และ S Automatic ได้ตัดล้อขนาด 16 นิ้วออกไป (แล้วแทนด้วยล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว ลายเดียวกันทั้งสายการผลิต) และไฟซีนอนออก แต่ได้ใส่ออปชั่นที่เคยอยู่ในรุ่น G Automatic Limited เข้าไปเพื่อทำรุ่น S Automatic Limited ให้เป็นรุ่นท็อปเพียงหนึ่งเดียว แต่รุ่น S Automatic Limited และ S Automatic ก็ยังใช้เบาะผ้า และรุ่น G Automatic Limited และ G Automatic ยังเป็นเบาะหนัง และในทุกรุ่นย่อยที่มีเบาะผ้า จะได้เลือกลายของเบาะผ้า ซึ่งมีให้เลือกถึง 10 แบบ
>>> รับข้อมูลรายละเอียดดูได้ในหมวดราคา: ราคา โตโยต้ายารีส
ช่วงท้ายของ Toyota Yaris Generation 2nd
และได้มีการเพิ่มรุ่นพิเศษ 2 รุ่น ได้แก่ TRD II (ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น E) แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น E คือ ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ลายพิเศษ TRD SPORTIVO พร้อมสติ๊กเกอร์ด้านข้าง ชุดแต่งรอบคัน และสัญลักษณ์ TRD SPORTIVO แทนสัญลักษณ์รูปตัว E และ รุ่น ACE ซึ่งพัฒนามาจากรุ่น J แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น J คือ ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ลายพิเศษ พร้อมสติ๊กเกอร์ด้านข้างสีสดใสมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดง และสีดำ ชุดแต่งสีรอบคัน และสัญลักษณ์ ACE แทนสัญลักษณ์รูปตัว J
Toyota Yaris Generation 3 รุ่นปี 2014
ยุคที่ 3 ทำการตลาดในปี 2013- ปัจจุบัน เปลี่ยนสโลแกนเป็น "Best Buddy" กระจังหน้าเล็ก ไฟหลังดวงกลมแบบญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนเบาะในรุ่น G เป็นเบาะผ้า (ทำให้ยาริสยุคที่ 3 เป็นเบาะผ้าทั้งหมด) และตัดรุ่น S Automatic ธรรมดาออก ส่วนรุ่น S Automatic Limited เปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น RS เพิ่มไฟหน้าและไฟท้ายรมดำ หน้าจอสัมผัสแบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 7 นิ้ว และเพิ่มล้อ 16 นิ้ว ลายเดิม แต่เพิ่มการรมดำ เพื่อเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดย Toyota Yaris จะไม่มีการผลิตในประเทศไทย
Toyota Yaris รุ่นปรับโฉมปี 2011
ข้อดีของ Toyota Yaris อยู่ที่สมรรถนะรถที่อยู่ในเกณฑ์กำลังดี ภายในกว้างขวาง สามารถวิ่งในเมืองได้อย่างกระฉับกระเฉง ขับได้แบบเรื่อยๆ สบายๆ อีกทั้งยังมีราคาสมเหตุสมผล ปัญหาจุกจิกมีน้อย ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการซ่อมหลายครั้ง แลละราคาขายต่อดี ราคาตกลงไม่ค่อยมากเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
ส่วนข้อเสียถือว่าเป็นข้อเสียของ Toyota ในเกือบทุกรุ่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งที่ไม่ได้แรงมากนัก วิ่งทางไกลเหนื่อยทั้งคน และรถ เพราะด้วย cc เครื่องน้อย ทำให้การวิ่งระยะทางไกลทำความเร็วได้ไม่ค่อยดี รถแกว่งง่าย ต้องควบคุมพวงมาลัยให้ดี แต่พวงมาลัย และช่วงล่างก็ยังไม่ค่อยแน่นมากพอ รวมถึงอัตราการประหยัดน้ำมันถือว่าน้อยกว่ารุ่นอื่น หรือเรียกง่ายๆ ว่ากินน้ำมันมากกว่ารุ่นอื่นนั่นเอง
ดูเพิ่มเติม
>> ขับดีจริงไหม??? Toyota Yaris รถขวัญใจคนเมือง
>> รวม Toyota Yaris มือสองสภาพดีราคาโดนๆ
New Toyota Yaris ปี 2018 ที่มีการปรับกระจังหน้าใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น
นี่เป็นข้อมูลสรุปของ Toyota Yayis ที่อยู่ในตลาดมือสองในแต่ละรุ่น ท่านผู้อ่านทุกท่านสามารถหากข้อมูลอื่นๆ แบบเฉพาะเจาะจงของ Toyota Yaris โดยเฉพาะรุ่น E และ G ที่ถือเป็นรุ่น Hot ที่สุดของ Toyota Yaris มือสอง เพิ่มเติมได้ที่ Chobrod.com นะคะ