ขับรถปลอดภัยใส่ใจลมยาง

ขับรถปลอดภัยใส่ใจลมยาง

ถ้าพูดถึงลมยางรถยนต์หลายคนก็คงจะตอบไม่ได้ว่าจริงๆ แล้ว ลมยางรถยนต์นั้นต้องเติมขนาดไหนถึงจะดีปลอดภัยในการขับขี่ หรือขนาดไหนจะทำให้เกิดอันตรายในการขับขี่  และก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าระหว่างลมยางแข็งเกินไปหรือลมยางอ่อนเกินไปแบบไหนอันตรายกว่ากัน  เพราะหลายคนที่ยังเติมลมยางแบบไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่เติมเข้าไปไม่ลมยางอ่อนก็พอ หรือบางคนพอเห็นลมยางอ่อนลงแต่ยังขับได้ก็ไม่ได้สนใจอะไร

• เติมลมยางรถยนต์ ตอนไหนดีที่สุด???

แต่จริงๆ แล้วใครจะรู้บ้างไม่ว่าจะลมยางอ่อนหรือลมยางแข็งต่างก็อันตรายเช่นเดียวกัน แต่จะอันตรายมากหรือน้อยแต่ไหน วันนี้ chobrod.com จะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่าง

ลมยางอ่อนหรือลมยางแข็งอันตรายกว่ากัน

ลมยางอ่อน  หลายคนจะรู้สึกว่าถ้าลมยางอ่อนจะทำให้การขับขี่นุ่มขึ้นรถไม่กระแทก  แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งลมยางอ่อนยิ่งทำให้เปลืองน้ำมันมาก  และยิ่งถ้าลมยางอ่อนกว่ามาตรฐานมากๆ ก็จะทำให้เสี่ยงต่อยางระเบิด เพราะยิ่งถ้ายางลมอ่อนและขับบนสภาพถนนที่ไม่ค่อยจะราบเรียบมากนักและบวกกับรถบรรทุกหนัก ก็จะทำให้แก้มยางเกิดความร้อนมากยิ่งขึ้น และแรงดันที่อยู่ในลมยางก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้แก้มยางแบนจนทำให้ยางเกิดผิดรูปจนทำให้ยางรถระเบิดได้

• เติมลมยางไนโตรเจน แพงไหม

ส่วนถ้าลมยางแข็งเกินไป มันก็อาจจะทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกดีตรงที่ถ้าลมยางแข็งจะทำให้รถออกตัวได้เร็วขึ้น  แต่ก็แฝงไปด้วยความอันตรายเพราะยิ่งรถออกตัวเร็วมากแค่ไหนก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนนั้นน้อยลง โดยเฉพาะทางโค้งยิ่งถ้าแบรกกะทันหันหรือแม้แต่เบรกเบาก็จะทำให้เบรกมีความยืดหยุ่นน้อยลงและทำให้ยางมีความกระด้างมากส่งผลให้มีแรงสะเทือนถึงตัวรถมากขึ้น และทำให้ช่วงล่างและระบบต่างภายในรถเสียหายและพังก่อนเวลาอันควร  และที่สำคัญ ถ้าหากใช้ความเร็วสูงและรถเกิดตกหลุมก็อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน

ซึ่งความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถเก๋งและรถกระบะ ที่ควรจะเติมก็คือ

– รถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยางประมาณ 25-30 ปอนด์

– สำหรับรถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ ความดันลมยางประมาณ 30-35 ปอนด์

– ขณะที่รถกระบะความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์

เมือรู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมหมั่นเช็คลมยางอยู่เสมอ ถ้าขับขี่แล้วรู้สึกผิดสังเกตลมยางแข็งเกินไปหรือลมยางอ่อนลงแบบไม่รู้สาเหตุก็อย่าชะล่าใจควรจะตรวจเช็คเบื้องต้นว่ายางรั่วหรือซึมหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจก็ควรจะนำรถเข้าอู๋หรือศูนย์ซ่อมเพื่อเช็คให้มั่นใจอีกครั้ง

ดูเพิ่มเติม

• หัวฉีดตัน เครื่องสั่น ต้องทำยังไง
• การเรียกร้องสินไหมทดแทน ระหว่างรถรอซ่อม