การประเมินราคารถมือสอง ดูจากอะไรบ้าง ?

ประสบการณ์ใช้รถ | 10 ส.ค 2565
แชร์ 4

เคยสงสัยบ้างหรือไม่ ? การประเมินราคารถมือสอง มีวิธีประเมินอย่างไร ? ทำไมบางครั้งราคาถึงตกลงไปมากจนไม่น่าพอใจ หรือประเมินออกมาแล้ว ก็ยังขายไม่ออกสักที ?

การประเมินราคารถมือสอง สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการลงขายผ่านเต็นท์-ดีลเลอร์รถมือสอง และประเมินพร้อมประกาศขายด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต แล้ววิธีประเมินราคาให้ได้ราคาที่เหมาะสมทำได้อย่างไร ที่นี่มีคำแนะนำมาฝาก 

ประเมินราคารถมือสอง

วิธีประเมินราคารถมือสอง

ประวัติและสภาพรถ

วิธีตีราคารถมือสอง จะต้องเช็กประวัติของรถ โดยตรวจสภาพรถและตัวถัง ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ มีรอยบุบ หรือรอยเฉี่ยวชนมากแค่ไหน หากเป็นรถที่อยู่ในสภาพใหม่ใกล้เคียงกับป้ายแดง ไม่มีร่องรอยจากอุบัติเหตุ หรือประวัติการชน-น้ำท่วม ก็จะประเมินได้ในราคาดี 

อย่างไรก็ตาม รถแต่งมักขายได้ในราคาต่ำกว่ารถปกติ เพราะการแต่งรถมักทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ และเครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็ว แต่ถ้าเป็นการแต่งรถที่ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ก็อาจขายได้ในราคาดีกว่าเดิมเล็กน้อย สำหรับรถติดแก๊ส ให้ทำใจไว้เลยว่าราคาตกแน่นอน เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่เครื่องยนต์จะเสื่อมสภาพ หรือใช้งานไม่ดีเท่าที่ควรหลังซื้อไปจึงมักขายได้ในราคาต่ำนั่นเอง

วิธีประเมินราคารถมือสอง

เลขไมล์

เลขไมล์เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ารถผ่านการใช้งานมาหนักแค่ไหน หากเลขไมล์ต่ำ แสดงว่าผ่านการใช้งานมาน้อย ก็จะประเมินได้ราคาดีกว่ารถที่มีเลขไมล์สูง ๆ ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงนั่นเอง

คู่มือประกอบรถ 

คู่มือประกอบรถ คือหลักฐานแสดงการการซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ ส่วนไหนที่ได้รับการซ่อมแซม จะต้องนำค่าซ่อมหักลบจากราคาขายที่ตั้งไว้ด้วยเช่นกัน

การ ประเมิน ราคา รถ มือ สอง

หาราคากลางในตลาด

เมื่อจะขายรถยนต์มือสอง จะต้องสำรวจราคากลางของรถรุ่นนั้น ๆ จากแหล่งซื้อขายหรือเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือก่อน เช่น เว็บไซต์ Chobrod เป็นต้น โดยตรวจสอบว่ารถยี่ห้อนี้ รุ่นปีนี้ อายุการใช้งานเท่านี้ จะมีราคาขายอยู่ที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ แล้วตั้งราคาขายที่เหมาะสมกับสภาพรถและเลขไมล์ที่ใช้ไป 

ตั้งราคาขาย (สำหรับรถใหม่)

กรณีที่ต้องการขายรถที่เพิ่งผ่านการใช้งานมา 1 ปี จะต้องนำราคาเดิมของรถที่ซื้อมาบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% และหักค่าเสื่อมสภาพ 25% แล้วค่อยตั้งราคาขายที่ต้องการ ตัวอย่าง 

  • รถราคา 700,000 บาท (มีอายุการใช้งาน 1 ปี)
  • ค่าเสื่อมสภาพ 25% = 175,000 บาท
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = 49,000 บาท 

จะเท่ากับ (700,000 - 175,000) + 49,000 = 574,000 บาท หากอยากขายให้ได้กำไรเพิ่ม 10% (57,400 บาท) ก็จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 631,400 บาท 

วิธี ตีราคารถมือสอง

การประเมินราคารถมือสอง จะได้ราคาดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพและเลขไมล์ของรถคุณ แน่นอนว่ารถที่มีสภาพนางฟ้า ย่อมขายได้ในราคาดีกว่ารถที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก เจ้าของรถสามารถขายให้กับเต็นท์รถหรือดีลเลอร์รถมือสอง (แต่จะต้องเสียค่าดำเนินการ ค่าประเมินเพิ่มเติมด้วย) หรือจะขายด้วยตัวเองโดยตรงเลยก็ได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ราคาสูงจนเกินไป หากอยากขายด่วน ให้ตั้งราคาต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ 

อ่านเพิ่มเติม >>