MG เปิดตัวแคมเปญช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม มอบส่วนลดอะไหล่-ค่าแรง 30% พร้อมแนะวิธีดูแลรถหลังน้ำลด
MG ออกมาตรการช่วยน้ำท่วม มอบส่วนลดค่าอะไหล่และค่าแรง 30% พร้อมบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 46 รายการ และข้อแนะนำวิธีดูแลรถยนต์หลังน้ำลดสำหรับเจ้าของรถเอ็มจี
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถยนต์เอ็มจีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยทางค่ายรถยนต์เอ็มจีได้จัดทำแคมเปญพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์ที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วม ซึ่งครอบคลุมบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ฟรีถึง 46 รายการ พร้อมมอบส่วนลดค่าแรงและค่าอะไหล่สูงสุด 30 เปอร์เซ็นต์
โดยแคมเปญดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569 ทั้งนี้ทางเอ็มจีได้เตรียมความพร้อมทั้งในด้านทีมช่างผู้ชำนาญการ การสำรองอะไหล่ และวางแนวทางการตรวจซ่อมที่เป็นมาตรฐาน เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพรถยนต์ของผู้ใช้งานให้กลับมาขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด โดยผู้ที่รถยนต์ได้รับความเสียหายสามารถติดต่อแจ้งข้อมูลเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของเอ็มจีตลอด 24 ชั่วโมง
นอกเหนือจากมาตรการเยียวยาด้านค่าใช้จ่ายแล้ว ทางเอ็มจียังได้ให้คำแนะนำที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดการรถยนต์เบื้องต้นหลังน้ำลดเพื่อป้องกันความเสียหายลุกลาม โดยข้อควรปฏิบัติที่สำคัญที่สุดคือห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้น้ำถูกดูดเข้าสู่ระบบไฟฟ้าและห้องเครื่องยนต์จนเกิดความเสียหายรุนแรง
ขั้นตอนต่อมาคือการตัดระบบไฟด้วยการถอดขั้วแบตเตอรี่ 12V ออก โดยเริ่มถอดจากขั้วลบสีดำก่อนแล้วจึงถอดขั้วบวกสีแดง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
จากนั้นเจ้าของรถควรเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการแจ้งเคลมประกันภัย ได้แก่ กรมธรรม์ประกันภัย เล่มทะเบียนรถ หรือสำเนาสมุดคู่มือรถ พร้อมทั้งถ่ายภาพความเสียหายทั้งภายนอกและภายในตัวรถในจุดที่ถูกน้ำท่วมไว้อย่างละเอียดเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งบริษัทประกันภัย พร้อมระบุระดับน้ำและความเสียหายเบื้องต้น
สำหรับการดูแลรักษาความสะอาดและการลดความชื้นภายในตัวรถ ผู้ใช้งานควรเร่งระบายน้ำออกจากรถให้ได้มากที่สุด โดยรถยนต์เอ็มจีจะมีจุกยางระบายน้ำติดตั้งอยู่ที่พื้นใต้พรมบริเวณที่เก็บของด้านท้าย หรืออาจใช้อุปกรณ์ช่วยซับน้ำออก ควบคู่ไปกับการเปิดประตูรถทุกบานและจอดตากแดดเพื่อไล่ความชื้น
ในกรณีที่พรมรถยนต์เปียกชื้นเพียงเล็กน้อยอาจใช้ไดร์เป่าผมช่วยทำให้แห้งได้ แต่หากพบว่าพรมเปียกชุ่มจนถึงชั้นวัสดุภายใน แนะนำให้ดำเนินการรื้อออกมาซักล้างและตากให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อราและสนิมที่อาจกัดกร่อนพื้นรถได้ในระยะยาว
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ
