7 วิธีดูแลรถหลังเที่ยวปีใหม่

ประสบการณ์ใช้รถ | 4 ม.ค 2561
แชร์ 6

รถอาจเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งในชีวิตประจำวันและการเดินทางพาเราไปทุกที่ และการดูแลรถยนต์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะนอกจากต้องเตรียมพร้อมใช้งานแล้ว การดูแลหลังกลับมาจากท่องเที่ยว หรือเดินทางไกลก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

บางคนอาจคิดว่าการตรวจเช็กรถหลังกลับจากเที่ยวหรือเดินทางไกลไม่สำคัญ เพราะก่อนหน้าเดินทางได้ตรวจเช็กแล้ว ทำไมกลับมาจะต้องตรวจเช็กอีก แต่ความจริงแล้ว การเดินทางไกล ก็เป็นการทำให้รถเสื่อมสภาพ เนื่องจากผ่านทั้งถนนดี ถนนแย่ รวมไปถึงการจอดบนถนนเช่นกัน วันนี้  Chobrod.com ก็มี 7 วิธีง่ายๆในการเช็กสภาพรถหลังเดินทางไกลมาฝากกัน

1.ภายนอกของรถยนต์ สังเกตว่าตัวรถหรือสีของรถ มีรอยหรือ ขี้นก ยางมะตอย น้ำยางต้นไม้ รอยหินดีด รอยขนแมว ขี้โคลน หรือสิ่งอื่นๆติดมาบ้างไหม หากมีก็ให้รีบล้างทำความสะอาด อาจหาน้ำยาขัดทำความสะอาด เพราะถ้าปล่อยไว้นานอาจเกิดปัญหากับสีรถของเราได้ จากนั้นตรวจเช็กอีกรอบ หากรอยไม่หายไป จะได้แก้ไขได้ทัน

 

ทำความสะอาดภายนอก
ทำความสะอาดภายนอก

 

2. ภายในของรถยนต์ แน่นอนว่าการเดินทางไกลๆ ยังไงก็ต้องมีเสบียงบนรถ ไม่ว่าจะเป็นขนม น้ำ หรือข้าวกล่อง ดังนั้นจึงมีเศษอาหาร เศษขนมตกหล่นในรถ ซึ่งอาจทำให้ภายในรถมีเชื้อโรค มีกลิ่นเหม็น เพราะฉะนั้นหลังจากกลับมาจากไปเที่ยวแล้ว ควรรีบจัดการเคลียร์เศษอาหารพวกนี้ให้ออกให้เร็วที่สุด โดยถอดพรมออกมาดูดฝุ่นทำความสะอาด อาจทำเอง หรือจะพาเข้าคาร์แคร์ก็ได้

 

ทำความสะอาดภายในรถ
ทำความสะอาดภายในรถ

 

 3. ระบบเบรค หลังจากเดินทางไกล ควรตรวจเช็กผ้าเบรคด้วย เนื่องจากผ้าเบรคก็อาจจะมีการสึกหรอ วิธีสังเกตคือ เวลาเบรคจะมีเสียงผิดปกติ หรือเวลาขับด้วยความเร็วสูงพวงมาลัยจะสั่น ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญตรวจเช็คโดยด่วน 

 

ควรตรวจเช็กผ้าเบรค
ควรตรวจเช็กผ้าเบรค

เทคนิคดูแลรถ หากต้องจอดกลางแจ้งเป็นประจำ!
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่มีใบขับขี่ ประกันจ่ายไหม?

4. น้ำและของเหลวต่างๆ อย่างน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ น้ำมันเพาเวอร์ น้ำในหม้อน้ำ น้ำฉีดกระจก น้ำกลั่นในแบตเตอรี่(แบบเปียก) เพราะการเดินทางไกล เหยียบคันเร่งยาวๆ จะทำให้รถยนต์ทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้น้ำและของเหลวในเครื่องยนต์ระเหยหรือเสื่อมสภาพเร็ว ดังนั้นควรตรวจเช็คดูของเหลวต่างๆ เพื่อการรักษารถยนต์

 

ตรวจเช็กระดับน้ำและของเหลวในเครื่องยนต์
ตรวจเช็กระดับน้ำและของเหลวในเครื่องยนต์

 

5.ระบบไฟ สังเกตไฟเลี้ยว ไฟหน้ารถ ไฟท้าย ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ หรืออาจสังเกตจากหน้าปัด หากมีสัญลักษณ์แจ้งเตือน หรือลองเปิดเทียบกับคู่มือ และแก้ไขให้ตรงจุดตามคำแนะนำ หากไม่ได้ก็ให้รีบส่งศูนย์ซ่อม

 

 สังเกตไฟเลี้ยว ไฟหน้ารถ ไฟท้าย
 สังเกตไฟเลี้ยว ไฟหน้ารถ ไฟท้าย

 

6.ระบบกรองอากาศ การเดินทางไกลไปในสถานที่ต่างๆ อาจไปเจอฝุ่นละออง เศษสิ่งสกปรก ให้ถอดกรองอากาศมาเป่าสักหน่อยก็จะช่วยให้เครื่องยนต์ใช้งานได้นานขึ้น

 

ตรวจเช็กระบบกรองอากาศ
ตรวจเช็กระบบกรองอากาศ

 

7.ยางรถยนต์ การเดินทางไกล ผ่านถนนทั้งเรียบ ขรุขระ หลายรูปแบบอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพ และเกิดความเสียหายได้ เช่น อาจโดนตะปู เศษเหล็ก เศษไม้ ดังนั้นควรตรวจดูยางทุกเส้น อีกทั้งควรเช็กลมยางว่ายังอยู่ในระดับปกติหรือไม่ หากเจอปัญหาก็ควรรีบแก้ไขทันที

 

ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์
ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์

 

เพียงแค่ 7 วิธีแสนง่ายก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้รถ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย