7 วิธีขับรถในขณะฝนตกให้ปลอดภัย

ประสบการณ์ใช้รถ | 2 ต.ค 2560
แชร์ 0

การเดินทางในขณะฝนตกหนักอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ท่านเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ การที่เรามีความรู้เตรียมรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นก็เป็นมาตรการป้องกันที่ดีช่วยให้เราปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายกับผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆด้วย

ภูมิอากาศเขตร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตรในแถบบ้านเราต้องเจอกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือช่วงมรสุมเข้าทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งทะเลจีนใต้ แล้วไหนจะความกดดันอากาศจากจีนซึ่งหากอุณหภูมิต่างกันมากๆระหว่างพื้นที่ก็อาจทำให้เกิดพายุได้เหมือนกัน การเดินทางในขณะฝนตกหนักอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ท่านเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ การที่เรามีความรู้เตรียมรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้นก็เป็นมาตรการป้องกันที่ดีช่วยให้เราปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายกับผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆด้วย


ขับรถในขณะฝนตกให้ปลอดภัย

  • อันดันแรกเลยท่านควรเช็คสภาพอากาศเสมอ หากต้องเดินทางใช้เวลานานๆเป็นชั่วโมงหรือหลายๆชั่วโมง เพื่อเตรียมใจรับสถานการณ์รูปแบบต่างที่จะเกิดขึ้น เช่น รถติด น้ำท่วม ถนนลื่น น้ำขังในแอ่งบนถนน การได้เช็คสภาพอากาศก่อนเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะคอยเตือนให้ท่านได้เช็คสภาพรถไปด้วย
  • ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัยเมื่อต้องเจอกับสายฝน  และสิ่งที่ท่านต้องเช็คเป็นประจำได้แก่ ยางรถยนต์ ท่านควรหมั่นเช็คสภาพดอกยางรถยนต์ให้มีความยาวตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรขึ้นไป เพราะมันหมายถึงประสิทธิภาพการเกาะถนนในช่วงเวลาฝนตก ถัดมาให้เช็คระดับน้ำฉีดกระจกต้องคอยเติมให้เต็มตลอด มันจะช่วยฉีดขจัดคราบฝุ่น โคลน ขณะฝนตก ช่วยเคลียร์ทัศนวิสัยในการมองเห็นของท่านให้ชัดขึ้น สุดท้ายให้เช็คที่ปัดน้ำฝนว่าสะอาดหรือไม่หรือมีการชำรุดหรือไม่ ควรเปิดใช้ตลอดในช่วงฝนตกหนัก แต่หากฝนปรอยๆให้ค่อยเปิดใช้แล้วปิด

ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง
ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง

  • ตรวจเช็คสภาพสัญญาณไฟของท่าน ดูว่าการส่องสว่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ชำรุดเสียหายหรือไม่ ส่วนในขณะขับรถให้ท่านเปิดไฟหน้าไว้เสมอ เพราะเลนสวนทางจะสามารถเห็นรถท่านได้จากระยะไกล ควรขับทิ้งระยะห่างจากไฟท้ายรถคันข้างหน้าพอสมควรป้องกันถนนลื่นหรือคันข้างหน้าเบรกรถกะทันหัน
  • รักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ประสิทธิภาพการควบคุมรถจะลดลงในช่วงฝนตกหนัก การวิ่งด้วยความเร็วสูงเป็นเรื่องไม่ปลอดภัย
  • การใช้เบรก ในกรณี รถรุ่นเก่าไม่มีระบบ ABS ท่านควรเบรกอย่างต่อเนื่องโดยกะจังหวะเบรกให้ดีจากจุด BREAK POINT เพราะต้องใช้ระยะทางที่มากกว่ารถที่มีระบบ ABS ในการหยุดรถ
  • หลีกเลี่ยงแอ่งกระทะเพราะอาจทำให้หม้อน้ำโดนกระแทกได้รับความเสียหาย ควรขับให้ช้าลงไม่ให้น้ำกระเซ็นเข้ามาในเครื่องยนต์เพราะจะทำให้เครื่องดับได้
  • เมื่อต้องเจอกับน้ำท่วม ควรตรวจเช็คสภาพถนนว่ารถสามารถขับผ่านได้อย่างแน่ชัดเสียก่อน ไม่ควรเสี่ยงขับผ่านหากระดับน้ำสูงเกินครึ่งล้อ ไม่ควรขับผ่านทางน้ำเชี่ยวแรงๆในระดับน้ำสูงจนท่วมล้อ 3 ใน 4 เพราะน้ำอาจจะพัดรถตกถนนได้และจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากอยู่ใกล้สะพานน้ำหรือลำคลอง หากเห็นว่าถนนปลอดภัยสามารถผ่านไปได้จริงให้ท่านขับช้าๆระวังแอ่งกระทะที่มองไม่เห็น

ตั้งสติก่อนที่จะขับรถลุยน้ำท่วม
ตั้งสติก่อนที่จะขับรถลุยน้ำท่วม

​>> ฝนตกหนัก ถนนเป็นแอ่ง อันตรายที่ต้องระวัง
>> 6 ข้อควรทำ!! เตรียมตัวพร้อมรับมือ สำหรับขับรถในหน้าฝน