6 วิธี “ลด” อายุการใช้งานให้รถของคุณ

เราเชื่อว่าทุกคนรักรถของคุณ และฝันที่จะอยู่คู่กับรถแสนรักของคุณไปนานๆ ใช่ใหม หลายๆ คนคงหาวิธีดูแลรถมาปฏิบัติเพื่อรักษาให้รถของคุณมีสภาพสวยงามน่าขับขี่อยู่ตลอด เพราะงั้นวันนี้ เราจะขอนำเสนอมุมกลับของการรักษา กับพฤติกรรมที่คุณไม่ควรทำ ถ้าคุณไม่อยากจากรถของคุณก่อนวัยอันควร (ของรถ) กับ 6 พฤติกรรมที่ลดอายุการใช้งานให้รถของคุณ

>> ฟังจากปากช่าง “สตาร์ทเครื่องก่อนออกเดินทาง” มีประโยชน์ไหม?

1. ละเลยสัญญาณไฟเตือนระบบเครื่องยนต์

ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เปลี่ยนยางเมื่อถึงเวลา เปลี่ยนน้ำมันเป็นประจำ ขับขี่อย่างระมัดระวัง เราเชื่อว่าหลายๆ คนคงมีวิธีการดูแลแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่หลายๆ คนก็มาตกมาตาย เพราะมองข้ามที่ไฟเหลืองๆ เล็กๆ ที่คอยเตือนระบบเครื่องยนต์ของรถนี่สิ

ที่ไฟเตือนระบบเครื่องยนต์นั้นสำคัญ เพราะนี่เป็นเหมือนล่ามที่คอยสื่อสารระหว่างคุณกับอีกฝากที่เป็นเครื่องยนต์ ซึ่งเจ้าไฟตัวนี้จะติดขึ้นเมื่อเครื่องยนต์ของคุณมีปัญหา ซึ่งแน่อนหมายรวมถึงว่าปัญหาใหญ่ๆ อย่างเครื่องยนต์หลักมีปัญหา ไปจนถึงปัญหาขี้ปะติ๋วอย่างปิดฝาถังน้ำมันไม่แน่น ซึ่งด้วยความที่มันติดตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องเล็กแบบนี้ ทำให้หลายๆ คนเมื่อเห็นไฟดวงนี้ติดขึ้นมา ก็อาจจะไม่สนใจที่จะตรวจเช็คสภาพมากเท่าไหร่นัก แต่เชื่อสิ ว่ามันสำคัญมากนะ เพราะหากคุณละเลยเพียงเพราะมันเป็นปัญหาเล็กๆ แต่เจ้าปัญหาเล็กๆ นี้ก็อาจส่งผลให้อุปกรณ์อื่นๆ ทำงานผิดพลาดตามมา จนกลายเป็นว่าคุณต้องเสียเงินซ่อมยกใหญ่ภายหลังก็ได้

นี่ยังไม่รวมถึงอาจเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานของเครื่องยนต์ที่ผิดพลาดอีก เพราะอย่างนั้น อย่ามองข้ามเจ้าไฟเตือนระบบเครื่องยนต์นี้เลย

2.  ไม่เปลี่ยนของเหลวเครื่องยนต์

ในการทำงานของรถยนต์นั้นมีการใช้ของเหลวเข้ามาทำงานร่วม ตั้งแต่ช่วยในการหล่อลื่น ไปจนถึงเป็นพลังงานในการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า ของเหลวนี้มีส่วมอย่างมากในการทำงานของรถ ดังนั้น การมองข้ามการดูแลของเหลวและตัวกรอง ก็ไม่ต่างกับการทำร้ายอุปกรณ์ภายในรถทางอ้อม

โดยของเหลวหลายๆ ชนิดที่ใช้ในรถยนต์นั้นมีระยะการใช้งานอยู่ประมาณหนึ่ง ซึ่งก็แตกต่างกันตามรูปแบบการทำงาน แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้รถที่มักจะบำรุงรักษารถครั้งใหญ่พร้อมกันครั้งเดียวไปเลย เช่นทุกๆ 1ปี เนื่องจากประหยัดเวลากว่า ทำให้ของเหลวบางชนิด อย่างน้ำมันเครื่อง ที่ควรเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน ได้เปลี่ยนพร้อมกับน้ำมันเกียร์ที่เปลี่ยนทุกๆ 12 เดือน ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ที่ต้องใช้น้ำมันเครื่องนั้นอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

เพราะอย่างนั้น ลุกขึ้นมาเช็คของเหลวของรถยนต์ของเรา และวางแผนเปลี่ยนตามกำหนดดีกว่านะ รถของเราจะได้อยู่กันไปนานๆ

ไม่ดูแลยางรถของคุณ

>> คุณรู้ไหมว่าเมื่อไรควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง?

3. ไม่ดูแลยางรถของคุณ

ไม่ว่าจะขับไกล ขับสั้นๆ หรือจอดทิ้งใว้เฉยๆ ยางรถของคุณนั้นเสื่อมสภาพลงได้ทุกๆ สถานการณ์ ประกอบกับผิวถนนของประเทศไทยที่มักมีการก่อสร้างบ่อยๆ และหากคุณละเลยในการดูแลยางรถของคุณก็อาจทำให้สมรรถภาพการทำงานของรถของคุณลดลง เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และทำให้อายุการใช้งานของคุณสั้นลงในที่สุดรู้เช่นนี้แล้ว ควรเช็คสภาพยางรถของคุณอยู่ตลอด ทั้งลมยาง ความดัน ดอกยาง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของรถ และป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

ไม่เช็คสภาพรถตามระยะเวลาที่กำหนด

4. ไม่เช็คสภาพรถตามระยะเวลาที่กำหนด

เนื่องจากรถยนต์นี้ ประกอบด้วยอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนหลายๆ ส่วนเข้าด้วยกัน และอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ ก็มีการเสื่อมสภาพได้ตามเวลา ดั้งนั้น รถทุกคันจึงต้องการการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา และทำให้การทำงานของรถยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะอย่าลืมว่า สาเหตุหลักของการที่รถกินน้ำมัน มันก็มาจากการที่อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งทำงานผิดปกตินี่แล่ะ

ไม่ทำความสะอาดรถ

5. ไม่ทำความสะอาดรถ

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง รถก็เช่นกัน เพราะไม่ว่ารถคุณจะมีประสิทธิภาพสูงแค่ใหนเวลาขับขี่ แต่ทั้งคันเต็มไปด้วยฝุ่นหนา คราบโคลน หรือคราบน้ำฝน มันก็จะลดประสิทธิภาพในการขับขี่ของคุณได้เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า หากคุณมีวิสัยทัศน์การขับขี่ที่แย่อันมาจากความไม่สะอาดของรถ คุณก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ต้องใหญ่ แค่ถอยหลังเข้าโรงรถ คุณก็อาจจะไปครูดกับประตูเนื่องจากการมองเห็นที่จำกัดก็ได้

>> ยางมะตอยติดรถ ต้องทำอย่างไร ?

6. ขับขี่ไม่เคารพกฏจราจร

อันนี้สำคัญ เพราะอย่าลืมว่า การขับขี่ตามกฏจราจร นอกจากจะปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนนท่านอื่นๆ แล้ว ยังทำให้รถของคุณไม่ต้องเจออะไรหนักๆ อีกด้วย เช่นบนพื้นที่ที่จำกัดความเร็วเนื่องจากถนนลื่น หากคุณขับรถเร็วกว่าความเร็วที่จำกัด ระบบเบรกของคุณก็ต้องทำงานหนักขึ้น นำไปสู่การเสื่อมสภาพของรถก่อนเวลา ไม่รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ขับขี่โดยเคารพกฏจราจรกันเถอะ