5 สุดยอดสนามแข่งรถระดับโลก

ประสบการณ์ใช้รถ | 21 มิ.ย 2561
แชร์ 2

chobrod เลือก 5 สนามแข่งที่เรามองว่าสุดยอดจริงๆ เมื่อนำรถสปอร์ตในฝันมาดวลความเร็วกัน

พูดถึง "รถแข่ง" ก็ต้องมี "สนามแข่ง" เพื่อพิสูจน์ว่าใครคือของจริง ประวัติศาสตร์ของ Motorsport ต้องใช้สถานที่นับร้อยในการใช้จัดการแข่งขันรายการต่างๆ มากมายหลากหลายประเภท แต่ละสนามจะมีทางตรงทางโค้งมากน้อยแตกต่างกันไป และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าสถาปนิกออกแบบมาให้มีระดับความยากง่ายในการขับขี่ขนาดไหน ซึ่งมีผลต่อทักษะของนักขับโดยตรง Chobrod มานำเสนอ 5 สนามแข่งที่เรามองว่าเป็นที่สุดจริงๆ แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้อ่านและเหมาะสมกับเนื้อหาหลักในเว็บของเรา Chobrod ขอเลือกสนามที่ใช้แข่งสำหรับรถประเภท Grand Touring (GT) ซึ่งดัดแปลงมาจากรถสปอร์ตตัวแรงที่ผู้อ่านชื่นชอบนั่นเอง

Laguna Seca

Corkscrew เอกลักษณ์สำคัญของ ลากูน่า เซก้า เรซเวย์

ลากูน่า เซก้า เรซเวย์/มอนเตเรย์, แคลิฟอร์เนีย, USA/สร้างปี 1957/FIA เกรด 2/2.238 ไมล์ (3.602 กม.)

เดิมพื้นที่นี้เป็นบึงแห้งๆ (จึงเป็นที่มาของชื่อสนาม Laguna/Lagoon = บึง Seca/Seco = แห้ง) ออกจากจุดสตาร์ทมาถึงโค้งแฮร์พิน (รูปตัว U) ในโค้ง 2 ตั้งชื่อตามตำนานแชมป์โลก F1 1978 มาริโอ อันเดร็ตติ ซึ่งโค้งนี้มี Apex (ปลายโค้ง) 2 จุดด้วย ผ่านมาจนถึงทางตรงจากโค้ง 6 ตั้งชื่อตามแชมป์ Champ Car 3 สมัย บ็อบบี้ เรฮาล และมาเจอโค้งลงเนิน 18 เมตรเลื่องชื่ออย่าง Corkscrew ที่โค้ง 8 ต่อด้วยโค้ง 9 ที่ให้เกียรติแชมป์ MotoGP 3 สมัย เวย์น เรนนี่ ซึ่งเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย

การแข่งขัน GT ในปัจจุบันมี 2 รายการคือ IMSA มอนเตเรย์ GP ในศึก SportsCar Championship และ แคลิฟอร์เนีย 8 ชั่วโมงในปิเรลลี่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ร่วมกับ SRO Intercontinenal GT ผลการแข่งขันปีที่แล้วนั้น ของ IMSA BMW M6 ชนะรุ่น GTE ส่วน Ferrari 488 ชนะรุ่น GT3 และ Audi R8 ชนะ GT3 แคลิฟอร์เนีย 8 ชม.

Mazda เคยซื้อ title sponsor ที่นี่เป็นเวลา 17 ปีก่อนจะหมดสัญญาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง และแฟนๆ Gran Turismo ก็ได้สัมผัสสนามนี้ตั้งแต่ภาค 2 3 และ 4

ดูเพิ่มเติม
>> 
เมื่ออยากเป็นนักแข่งรถ...นอกจาก “เงิน” กับ “รถ” แล้วต้องเตรียมอะไรอีกบ้าง ?!
>> “Dare To Race” โตโยต้ามอเตอร์สปอร์ต 2018 พิสูจน์ขุมพลังโตโยต้า

Silverstone

ช่วงสตาร์ทของซิลเวอร์สโตน 6 ชม.

ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต/นอร์แธมป์ตันเชียร์, อีสต์ มิดแลนด์ส, อังกฤษ/สร้างปี 1947/FIA เกรด 1/ความยาวสูงสุด 3.667 ไมล์ (5.901 กม.)

นี่คือบ้านของการแข่งขันยานยนต์บริติช สร้างขึ้นบนฐานวางระเบิดของทหารอากาศสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มแรกใช้แข่งเฉพาะกลุ่มมิตรในปี 1947 ก่อน (และวันนั้นมี "แกะ" ตายระหว่างแข่งด้วย") ทำให้สนามจริงๆ ต้องถูกวางรากฐานออกมาในปีต่อไป (ซึ่งใน British GP 1948 นี้เองที่พระเจ้าพีระจบอันดับที่ 5) และถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แฟนๆ ความเร็วบางคนมองว่าที่นี่คือส่วนผสมของโค้งและทางตรงที่สมบูรณ์แบบที่สุด แม้กระทั่งตัวดีไซน์ยังเป็นต้นแบบของสนามยุคนี้อย่างเซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกา ที่เท็กซัส นี่คือเสาหลักของวงการความเร็วโลกอย่างแท้จริง

ซิลเวอร์สโตนมี 18 โค้ง ตัวสนามแบ่งรูปแบบสนามย่อยได้ทั้งหมด 6 รูปแบบคือ อารีน่า GP, อารีน่า GP 2010, บริดจ์, อินเตอร์เนชันแนล, เนชันแนล และ สโตว์ สำหรับรายการ GT ที่แข่งขันในซิลเวอร์สโตนที่โดดเด่นเหลือแค่ 3 รายการ (แต่ทั้งปีจริงๆ จัดเยอะมาก) โดยในส่วนของผลการแข่งขันปีที่แล้ว Ford GT ชนะ WEC GTE 6 ชม., Aston Martin Vantage ชนะ GTE ยูโร เลอมังส์ 4 ชม. และ Lamborghini Huracán ชนะ GT3 บล็องก์แปง SRO เอ็นดูแรนซ์ 3 ชม.

Monza

ทางตรงจากจุดสตาร์ทเข้าชิเคนแรกในมอนซ่า

ออโต้โดรโม่ นาซิโอนาเล่ มอนซ่า/มอนซ่า-เบรียนซ่า, โลมบาร์เดีย, อิตาลี/สร้างปี 1922/FIA เกรด 1/3.6 ไมล์ (5.793 กม.)

เดิมเป็นสนามวงรีสไตล์อเมริกันจนกระทั่งเกิดอุบิติเหตุถึงชีวิตเมื่อปี 1961 ทำให้ตัวสนามต้องปรับรูปแบบให้มีระยะทางสั้นลง แต่กว่าสนามจะปลอดภัยจริงๆ คือหลังปี 1978 ทีกำเนิดโค้งตัว S (ชิเคน) อย่าง Rettifilo (เรตติฟิโล่ โค้ง 1-2) กับ Ascari (อัสการี่ โค้ง 7-8) ที่เพิ่มเข้ามาในปี 1972 ตามด้วย Curva Biassono/Grande (คูร์ว่า เบียสโซโน่/กรันเด้ โค้ง 3) กับ Lesmo (เลสโม่ โค้ง 6-7) ในปี 1976 ขนาดทาง chobrod เองยังรู้สึกได้ว่าสนามนี้คือที่สุดของความเร็วจริงๆ เพราะทางตรงก็ยาวและมีไม่น้อย ชิเคนกับโค้งความเร็วสูง โดยเฉพาะ Parabolica (ปาราโบลิก้า โค้ง 11) คือบททดสอบของเหล่าตีนผีจริงๆ แค่ 11 โค้งแต่อดรีนาลีนรับประกันได้เลยว่าพุ่งพล่าน

ตอนนี้มีแค่ GT 2 รายการเท่านั้นที่แข่งกันที่นี่ โดยในปีที่แล้ว Ferrari 458 ชนะ GTE ยูโร เลอมังส์ 4 ชม. และ Lamborghini Huracán ชนะ GT3 บล็องก์แปง SRO เอ็นดูแรนซ์ 3 ชม. (อีกแล้ว)

Le Mans

Rolling Start เพื่อเริ่มการแข่งเลอ มังส์ 24 ชม.

เซอร์กิต เดอ ลา ซาร์ธ/ซาร์ธ, ปายส์ เดอ ลา ลัวร์, ฝรั่งเศส/สร้างปี 1923/FIA เกรด 2/8.469 ไมล์ (13.626 กม.)

นี่คือสังเวียนจัดการแข่งขันท้าความอึดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกทุกเดือนมิถุนายน เลอ มังส์ 24 ชม. สนามขนาดใหญ่สำหรับการเหยียบคันเร่งให้มิด สูงสุด 250 ไมล์/ชม. (ตอนนี้เหลือ 205) พลาดนิดเดียวคือจบเห่ สนามมี 38 โค้ง แต่ไม่ใช่สนามแข่งถาวร เพราะเป็นการนำถนนสัญจรในละแวกของเมืองเลอมังส์มาร้อยเรียงกัน (นั่นจึงทำให้สนามนี้ยังได้แค่เกรด 2 ด้วย ยังไม่รวมในแง่ที่ขนาดสนามยาวเกินมาตรฐานอีก)

ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ FIA WEC และนับคะแนนสะสม 2 เท่าในปัจจุบัน มีรถเข้าร่วมการแข่งขันออกเป็น 4 คลาส 3 รุ่น (P1, P2 GTE Pro/Am) แต่ละปีจะมีกริดสูงสุด 60 คัน แต่ละคันมีนักแข่ง 3 คน และ Aston Martin Vantage ชนะรุ่น GTE ปีที่แล้ว

Nürburgring

ถนนที่เล็กแคบใน The Ring ทำให้การคุมความเร็วเป็นเรื่องโหดมาก แถมสภาพอากาศก็ไม่เป็นใจตลอด

เนือร์บวร์กริง 24/อาร์ไวเลอร์, ไรน์ลานด์-ฟัลซ์, เยอรมัน/สร้างปี 1927/FIA เกรด 1/16.123 ไมล์ (25.947 กม.)

นี่คือสนามที่ทั้งโคตรอันตรายและกระตุ้นที่สุดในโลก แจ็คกี้ สจ็วร์ตเรียกที่นี่ว่า "นรกสีเขียว" กับความยาวสุดโหด 170 โค้ง แต่เราขอไม่พูดในแง่ที่รุนแรงกว่านี้ละกัน ว่ากันซื่อๆ นักแข่งมืออาชีพยังต้องผวากับโค้งปราบเซียนมากมายในส่วนนอร์ดชไลเฟ่อ ไล่ตั้งแต่ Flugplatz (ฟลุกพลัทซ์), Fuchsröhre (ฟุคชเรอห์เร่อ), Bergwerk (แบร์กเวิร์ค), Karussell (คารุสเซลล์), Brünnchen (บรึนเคิ่น), Pflanzgarten (ฟลันซ์การ์เทิ่น), Stefan Bellof S (สเตฟาน เบลโลฟ ชิเคน) จนถึง Schwalbenschwanz (ชวัลเบินชวานซ์) และ Kleines Karussell (ไคลเนิส คารุสเซลล์) แถมโค้งทั้งหมดที่เรายกตัวอย่างมา อยู่ในถนนที่สุดจะแคบทั้งนั้นด้วย ถ้าไม่เชื่อ ลองจับจอย PS แล้วเล่น Gran Turismo 4 5 6 หรือ Sport ดูก็ได้ 

ทุกๆ ปีจะมีรายการใหญ่ที่สุดของวงการรถสปอร์ตคือ ADAC เนือร์บวร์กริง 24 ชั่วโมง ซึ่งนอกจาก GT3 แล้ว รถ Production Group N ก็สามารถลงแข่งได้เช่นกัน แต่เป้าหมายอยู่ที่นักแข่งระดับสมัครเล่นมากกว่า รวมกันมากกว่าปีละ 200 คัน ปีที่แล้ว Audi R8 คว้าชัยชนะไปโดยวิ่งได้ 158 รอบ

ดูเพิ่มเติม
>> 
ว่าด้วยเหตุผลที่เครื่องรถสูตร 1 (F1) ใช้วางบนรถทั่วไปไม่ได้
>> Mercedes-AMG เผยชุดระบบขับเคลื่อนไฮบริดระดับรถแข่ง F1 บรรจุใน Project One

แท็ก motorsport