สำหรับใครที่วางแผนจะฝึกขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา ที่นี่รวบรวมวิธีการขับรถยนต์ เกียร์ธรรมดา สำหรับมือใหม่มาแนะนำกัน รวมถึงข้อควรระวังและข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ !
ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าการขับรถยนต์ เกียร์ธรรมดา (Manual Transmission) หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เกียร์กระปุก” นั้นยุ่งยากกว่าการขับรถเกียร์อัตโนมัติ เพราะต้องคอยเลี้ยงคลัทช์และบังคับเกียร์อยู่ตลอด เรียกได้ว่าปล่อยมือจากเกียร์แทบไม่ได้เลย หลาย ๆ คนจึงเลือกขับเฉพาะรถเกียร์ออโต้ที่เรียนรู้วิธีการขับได้ง่ายกว่า เพียงแค่เข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลังให้เป็นก็สามารถขับรถได้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากสนใจที่จะหัดขับรถยนต์ เกียร์ธรรมดา ที่นี่มีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการขับรถยนต์เกียร์ธรรมดามาฝากกัน
บนหัวเกียร์ธรรมดาจะมีตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับไว้ แบ่งเป็นแถวบน-แถวล่าง ส่วนมากจะมี 5-6 เกียร์ ขึ้นอยู่กับว่าขับรถรุ่นอะไร
ส่วนแป้นเหยียบที่เท้า จะมีทั้งหมด 3 แป้น ดังนี้
1. อันดับแรกปรับเบาะนั่งให้เหมาะสม และเช็กตำแหน่งเกียร์ให้เป็นเกียร์ว่าง จากนั้นใช้เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์จนสุดและสตาร์ตเครื่องยนต์
2. ก่อนจะออกรถให้เหยียบคลัตช์จนสุด จากนั้นเลื่อนเกียร์ไปเกียร์ 1 แล้วเลี้ยงคลัตช์ โดยการผ่อนแรงที่เหยียบคลัตช์ลงอย่างช้า ๆ เมื่อรถเริ่มไหลไปข้างหน้า ให้ใช้เท้าขวาค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง และปล่อยคลัตช์จนสุด
3. หลังจากที่ขับรถไปได้สักระยะหนึ่ง หากเสียงเครื่องยนต์เริ่มตื้อ หรือเข็มวัดรอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 รอบ ให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 โดยผ่อนคันเร่ง เหยียบคลัตช์ให้สุด เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปที่เลข 2 จากนั้นค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์ พร้อมเหยียบคันเร่ง หากจะเปลี่ยนเป็นเกียร์อื่นให้ทำเหมือนเดิม
4. ถ้าต้องการชะลอความเร็วรถ ให้ปล่อยคันเร่ง แล้วค่อย ๆ เหยียบแป้นเบรก เมื่อความเร็วรถลดลงให้เหยียบคลัตช์ให้สุดพร้อมกับถอนเกียร์ลง โดยเลี้ยงคลัตช์เอาไว้ก่อน ถ้าความเร็วได้ที่แล้วให้ปล่อยคลัตช์ได้เลย
5. ถ้าต้องการจอดรถ ให้เปลี่ยนจากเหยียบคันเร่งมาเหยียบเบรก จากนั้นเหยียบคลัตช์ให้สุด และเปลี่ยนเกียร์มาที่ตำแหน่งเกียร์ว่าง โดยอย่าลืมดึงเบรกมือขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล
สำหรับข้อดีของการขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา คือมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน มอบสมรรถนะที่ดีกว่ารถยนต์ออโต้ ให้ความประหยัดมากกว่า และใช้ระบบ Engine Brake ตอนฉุกเฉินได้ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีวิธีการขับที่ยุ่งยากกว่ารถเกียร์ออโต้ ต้องเลี้ยงคลัทช์และบังคับเกียร์อยู่ตลอด นอกจากนี้ ยังให้การขับขี่ที่ไม่นุ่มนวล เพราะตอนเปลี่ยนเกียร์รถอาจจะกระชากได้
ขอบคุณข้อมูลจาก kapook, One2car, carsome
อ่านเพิ่มเติม >>