เอาตัวรอดยังไงเมื่อไฟไหม้รถยนต์

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง บางครั้งเราก็มีความระมัดระวังแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ และอุบัติเหตุรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในอุบัติเหตุที่เกิดค่อนข้างบ่อย หลายคนคงได้เห็นข่าวรถยต์แล้วรถยนต์เกิดไฟลุกไหม้ ครอกผู้โดยสารเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้ามันเกิดขึ้น เราจะทำอย่างไร วันนี้ Chobrod.com จึงมีสาระดีๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุจากไฟไหม้รถยนต์มาฝาก

อุบัติเหตุไฟไหม้ส่วนใหญ่เกิดในรถติดแก๊ส 

ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์
รถที่มักจะเกิดไฟไหม้ได้ ส่วนใหญ่เป็นรถที่ติดแก๊ส LPG หรือ NGV ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี บางครั้งรถก็มีอายุการใช้งานมาก ทั้งอะไหล่และอุปกรณ์จึงไม่ได้คุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งเราควรตรวจสอบให้สภาพรถอยู่เสมอ อย่างเช่น ควรตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่กำหนด ตรวจท่อน้ำมันเชื้อเพลิงว่ามีรอยรั่วหรือไม่ เศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยางไหม และสายพานควรมีความตึงตามค่าที่กำหนด ส่วนกระโปรงหน้ารถก็ควรตรวจเช็คด้วยเช่นกัน หากมีเขม่าดำมาเกาะ นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ และอย่าลืมตรวจสอบใต้ท้องรถด้วย

หากพบรอยน้ำมันหยดควรรีบแก้ไขทันที
หากเจออาการน้ำมันรั่วหยดใต้ท้องรถยนต์ควรรีบแก้ไขทันที อาจเกิดจากรถใช้งานมานาน ทำให้ซีลยางต่างๆเสื่อมสภาพ จึงไม่สามารถกันน้ำมันไม่ให้รั่วไหลออกมาได้ บางครั้งอาจเกิดจากสภาพการใช้งานที่หนักหน่วง เช่น การเกิดรอยครูดหรือรอยกระแทกใต้ท้องรถ นอกจากนี้หากพบว่ามีสายไฟขาด มีรอยน้ำมันรั่วซึม เครื่องยนต์ร้อนจัด ระดับเชื้อเพลิงเกิดลดลงอย่างรวดเร็ว ได้กลิ่นเหม็นไหม้ของยางหรือพลาสติก ได้กลิ่นแก๊สรั่ว หรือว่าอาจได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ ควรตรวจสอบสภาพรถทันที รวมทั้งควรมีถังดับเพลิงเคมีขนาดเล็กไว้ด้านข้างคนขับ เพื่อที่จะสามารถหยิบมาใช้ได้ทันท่วงที

ดูเพิ่มเติม
>>กระทรวงพลังงานเตือนใช้อุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ถูกวิธีหลังรถยนต์ไฟฟ้าหรูระเบิดขณะชาร์จ
>>เรื่องควรรู้ ประกันรถยนต์!!

ทำยังไงเมื่อไฟไหม้รถยนต์
เมื่อเกิดไฟไหม้ สิ่งแรกที่ควรทำคือมีสติ และรีบนำรถจอดข้างทางในทันที หากติดตั้งแก๊สก็ให้ปิดสวิตซ์ เพื่อตัดการทำงานของระบบแก๊ส จากนั้นให้ดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการระเบิดลุกไหม้ ถ้ารถไฟไหม้ไม่มาก ก็ให้ใช้ถังดับเพลิงฉีดไปยังต้นเพลิงก่อน เป็นการแก้ไขสถานการณ์ในเบื้องต้น แต่ถ้าหากแรงขึ้น โดยมีเปลวไฟออกจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดดับเพลิงพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่ได้ทำการแง้มไว้ ขอเตือนว่าห้ามเปิดฝากระโปรงในทันที เพราะนั่นจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟสงบแล้วจึงค่อยใช้ผ้ารองหรือสวมถุงมือเปิดฝากระโปรง เนื่องจากมีความร้อนสูง เมื่อเปิดปากระโปรงได้แล้ว ก็ให้ฉีดสารดับเพลิงไปทั่วห้องเครื่องจนมั่นใจว่าดับหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงถอดแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันการลุกลามขึ้นอีก 

ถ้าหากเกิดอุบัตเหตุไฟไหม้ควรมีสติให้ดี 

แต่ถ้าหากว่าไฟไหม้อย่างรวดเร็วและเราไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เราควรรีบออกห่างจากรถที่เกิดไฟไหม้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากอาจมีการระเบิดเกิดขึ้นได้ จากนั้นให้โทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาทำการควบคุมสถานการณ์

วิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุก็คือการป้องกัน ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถ สังเกตความผิดปกติ โดยเฉพาะรถเก่าที่อาจมีการแต่งสภาพ อะไหล่ที่ใช้ต่ำกว่ามาตรฐาน รวมทั้งพฤติกรรมการขับขี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุด้วย เราควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฏจราจร อีกข้อที่อยากจะแนะนำคือ เราควรขับรถในอัตราความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะจะช่วยลดแรงปะทะเมื่อเกิดรถชน และที่อาจนำไปสู่ไฟไหม้รถยนต์ได้

หากมีไฟไหม้รถรุนแรงควรตั้งสติและแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมสถานการณ์

เป็นยังไงบ้างกับสาระดีๆที่ทาง Chobrod.com นำมาฝากกัน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน หากใครอยากให้ทางเราหาข่าวสารหรืออยากจะคอมเม้นแนะนำก็สามารถทำได้ เราจะรีบหาแล้วส่งสาระมาให้คุณเลย

ดูเพิ่มเติม
>>10 อะไหล่ต้องเปลี่ยนเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด
>>5 วิธีรับมือเมื่อรถเสียฉุกเฉิน