รถยนต์ที่น่าจับตามองในกลุ่ม Compact SUV วันนี้เรามาดูกันว่าแบรนด์ใหญ่อย่าง Nissan กับแบรนด์ผู้ท้าชิงอย่าง Subaru จะเป็นอย่างไรกับ Nissan X-Trail และ Subaru Forester
รถยนต์ที่เป็น SUV เหมือนกัน ถ้าจะเลือกกันจริงๆคงต้องมองกันที่สเปครถยนต์ และลองขับดูจริงๆว่าเหมาะกับเท้าเหมาะกับความรู้สึกตอนขับของเราหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามที่มากไปกว่านั้นคือเรื่องของแบรนด์ด้วย วันนี้เราจะมาดูว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nissan กับแบรนด์ที่ไม่ได้ใหญ่ยักษ์ในตลาดบ้านเราอย่าง Subaru รถยนต์ SUV จากทั้งสองค่ายนี้พอจะสู้กันได้ในตลาดบ้านเราหรือไม่ และการที่เป็นค่ายที่เล็กกว่าในตลาดบ้านเรานี้จะมีข้อดีหรือจุดเด่นอะไรเอามาเป็นจุดในการสร้างความแตกต่างและแข่งขันทางการตลาดหรือไม่ รถยนต์ทั้งสองคันนั้นคือ Nissan X-Trail และ Subaru Forester
ราคา Nissan X-Trail มีให้เลือกทั้งหมด 7รุ่นย่อย โดยแบ่งให้ดูง่ายตามขุมกำลังที่มีทั้งแบบเบนซินและแบบไฮบริดดังนี้ เริ่มกันที่ขุมกำลังเบนซิน
ส่วนขุมกำลังไฮบริดมีทั้งหมด3รุ่นย่อย
ส่วนทางด้าน ราคา Subaru Forester นั้นมีรุ่นย่อย3รุ่น โดยมีราคาดังนี้
1. Subaru Forester 2.0 i ราคา 1,330,000 บาท
2. Subaru Forester 2.0 i-P ราคา 1,380,000 บาท
3. Subaru Forester 2.0 XT ราคา 1,450,000 บาท
สิ่งที่น่าสังเกต คือราคาเริ่มต้นของทั้งสองคันนี้นั้นไม่เท่ากัน โดยที่ Nissan X-Trail มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า ส่วนตัวท็อปของทั้งคู่นั้นราคาห่างกันถึงเกือบ200,000บาท ก็ต้องมาดูกันว่าราคาที่ต่างกันแบบนี้มีอะไรที่ต่างกันบ้างตามไปดูกันครับ
ภายนอกของ Nissan X-Trail นั้นเป็นการดีไซน์ในแบบฉบับของ Nissan ถ้าใครรู้จัก Nissan มาหลายรุ่นจะเห็นเลยว่ามีกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกันอยู่ด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียมที่ล้อมรอบโลโก้ของ Nissan ไฟหน้าเป็นไฟ LED Projector เปิดปิดอัตโนมัติที่สร้างความโดดเด่นและเพิ่มความหรูหราให้กับรถยนต์ และดีไซน์ภายนอกให้หรูหรา ประดับเสาอากาศแบบ Shark Fin ถัดมาจากส่วนที่เป็นหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่สะท้อนความหรูหรายิ่งขึ้น ล้ออัลลอยทั้ง4เป็นขนาด17นิ้ว และใหญ่ขึ้นเป็น18นิ้วในรุ่นท็อป
ภายนอกของ Nissan X-Trail ที่ดูบึกบึนและหรูหรา
ทางด้าน Subaru Forester นั้น มีลายกระจังหน้าแบบที่คนไทยไม่คุ้นกันเท่าไร บางคนก็ว่าสวยบางคนก็ว่าเชยอันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล ไฟหน้าไม่ยอมแพ้เป็นแบบ Projector Lens LED เปิดปิดอัตโนมัติและปรับทิศทางตามการเลี้ยวอีกด้วย พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า ประดับความหรูหราด้วย Daytime running light แบบ LED ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ตกแต่งเพิ่มความงามด้วยสปอยเลอร์หลังและราวหลังคา ตามด้วยเสาอากาศแบบ Shark Fin ที่หรูหราทุกหยาดหยด ล้ออัลลอยเป็นแบบ18นิ้วในทุกรุ่นย่อย
ภายนอกของ Subaru Forester ที่ไม่คุ้นตาคนไทยเท่าไรนักแต่ก็มีฟังก์ชั่นมาตรฐานมาครบๆ
ภายนอกของรถยนต์นั้นเล่นเรื่องสเปกกันไม่ได้มาก แต่ด้วยชื่อชั้นที่ตามหลังอยู่ในตลาดบ้านเราของ Subaru ภายนอกระหว่าง Nissan X-Trail และ Subaru Forester ก็เรียกว่าไม่ได้ทิ้งกันไปเท่าไร ต่างคนต่างมีจุดแตกต่างกันอย่างไม่ได้ห่างกันมากนัก
Nissan X-Trail เน้นภายในที่ดูหรูหราด้วยการคุมโทนเป็นสีดำและมีเบาะนั่งถึง3แถว โดยสารได้เต็มที่ถึง7คน และยังปรับเบาะได้หลายรูปแบบรองรับการใช้งานทั้งโดยสารและขนสัมภาระ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระทั้งซ้ายและขวา และยังมีแบ่งไปยังคนทีนั่งแถวหลังอีกด้วย ไม่ต้องทนร้อนกันอีกต่อไป ส่วนระบบเครื่องเสียงเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด7นิ้ว ที่รองรับการทำงานของระบบนำทางและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นของ Nissan ที่เรียกว่า Nissan Connect ให้เราสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย ระบบความบันเทิงก็ให้มาแบบครบๆทั้ง CD, MP3, USB, AUX หรือ Bluetooth ก็สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งหมด และควบคุมผ่านสวิทช์ที่พวงมาลัยได้อย่างง่ายดาย
ภายในของ Nissan X-Trail ที่กว้างขวางนั่งสบาย
ภายในของ Subaru Forester ไม่ยอมทิ้งเรื่องความหรูหราจัดเบาะคุมโทนสีดำมาเช่นกัน เบาะคนขับเป็นแบบไฟฟ้าปรับได้8ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ ระบบเครื่องเสียงของ Subaru จะเล็กกว่าทาง Nissan X-Trail หน่อยคือ เป็นจอทัชสกรีนขนาด7นิ้วพร้อมระบบนำทาง และเชื่อมต่อผ่าน USB, Bluetooth ได้ หรือจะส่งงานด้วยเสียงก็ยังทำได้ โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้ระบบ Siri Eyes Free และด้วยจอภาพเดียวกันนี้สามารถใช้เป็นกล้องมองหลังขณะถอยจอดได้เช่นกัน เหนือขึ้นไปเป็นช่องของเครื่องปรับอากาศที่เป็นแบบอัตโนมัติแยกซ้ายขวา และด้านบนของช่องนี้เป็นจอแสดงผลการขับขี่แยกต่างหากจากจอทัชสกรีน ที่แสดงผลข้อมูลต่างๆเช่นประสิทธิภาพเครื่องยนต์ เปรียบเทียบการขับขี่ในทริปต่างๆ พร้อมกับปุ่มควบคุมต่างบนสวิทช์พวงมาลัย
ภายในของ Subaru Forester หรูหราในโทนสีดำ
ในส่วนภายในของรถยนต์ทั้งสองคันนี้เรียกว่าสูสีกันมาก เพราะถึงแม้รถยนต์ Subaru Forester จะมีหน้าจอที่เล็กกว่าไปนิด แต่ก็มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบจัดเต็มเพื่อมาทดแทนกัน เรียกว่ายกนี้ตัดสินกันยาก แต่ก็ถือว่า Nissan เหนือกว่าเล็กน้อยตรงที่มีการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นมาเองที่เรียกว่า NissanConnect ที่อนาคตก็น่าจะมีระบบการทำงานอะไรต่างๆรองรับมาอีก
เพิ่มเติม
>> "STI S209" Subaru WRX ตัวแต่งจำนวนจำกัดสำหรับชาวอเมริกัน
>> Subaru Forester Hybrid ตัวใหม่กำลังไฟฟ้าเขย่าโลก มาไทยยังต้องรอ
เครื่องยนต์ของ Nissan X-Trail นั้นมีให้เลือก3แบบ คือเครื่องยนต์เบนซินขนาด2.0ลิตร ให้กำลังแรงม้า 144แรงม้าที่6000รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด200 นิวตันเมตรที่4400รอบต่อนาที แบบที่2เครื่องยนต์เบนซินขนาด2.5ลิตรให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้าที่6000รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด233นิวตันเมตรที่4000รอบต่อนาที และแบบที่3คือเครื่องยนต์ไฮบริดที่มีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์เบนซิน2.0ลิตรเสริมทัพด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง41แรงม้า และแรงบิด160นิวตันเมตร ทำให้ขุมพลังไฮบริดนี้มีกำลังรวมสูงสุดถึง 179แรงม้า เรียกว่าทำให้ลูกค้ามีทางเลือกว่าอยากได้เครื่องยนต์แบบไหนที่ตอบโจทย์มากที่สุด
เครื่องยนต์ Nissan X-Trail มีดีตรงที่มีแบบไฮบริดให้เลือกด้วยทั้งประหยัดทั้งแรง
ทางด้าน Subaru Forester เครื่องยนต์เป็นแบบลูกสูบวางตัวตามแนวนอนซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ญี่ปุ่นที่ลูกสูบเป็นแบบแนวตั้ง ปริมาตรกระบอกสูบ2.0ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6200รอบต่อนาที แรงบิด198นิวตันเมตรที่4200รอบต่อนาที ถ้านับที่ปริมาตรเครื่องยนต์เท่าๆกันแล้ว Subaru Forester จะเหนือกว่าทาง Nissan X-Trail เล็กน้อย แต่ไม่ใช่ตัวเลขที่มีนัยสำคัญมากนัก Nissan X-Trail ก็น่าจะดีกว่าตรงที่ว่าลูกค้าสามารถสำรวจความต้องการของตัวเองก่อนและเลือกแบบเครื่องยนต์ที่ตรงใจได้มากขึ้น (มีตัวเลือกมากกว่านั่นเอง)
เครื่องยนต์มีลูกสูบวางตัวตามแนวนอนที่สร้างสมดุลในการเคลื่อนตัวและแรงสั่นของเครื่อง
ระบบความปลอดภัยหลักที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับ Nissan X-Trail ก็คือระบบกล้องมองภาพรอบคันที่เรียกว่า Around View Monitor ประมวลผลจากกล้องทั้4ตัวที่ติดอยู่รอบคันและแสดงผลออกมาที่จอภาพขนาด7นิ้ว ทำให้การถอยเข้าออกไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆก็อย่างเช่นถุงลมนิรภัย4จุด ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพของรถยนต์ VDC, ระบบป้องกันล้อหมนุฟรี TCS, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นระบบปลอดภัยมาตรฐานทั่วไปไม่ได้โดดเด่นแต่ก็จำเป็นต้องมีในยุคปัจจุบัน
กล้องมองภาพรอบคันของ Nissan X-Trail ที่ทำให้ถอยจอดได้อย่างมั่นใจ
ระบบความปลอดภัยของ Subaru Forester จะเน้นไปที่ Passive Safety มากกว่า ระบบถุงลมนิรภัยที่มีด้านหน้า ด้านข้าง หัวเข่า และถุงลมม่าน, ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพของรถยนต์ VDC, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS เป็นต้น รวมไปถึงโครงสร้างของตัวรถที่ออกแบบมาให้ซับแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะส่งผลต่อผู้ขับขี่น้อยที่สุด และได้รับมาตรฐาน EURO NCAP ด้วย เรื่องของความปลอดภัยก็เรียกว่าสูสีกัน ทั้ง Nissan X-Trail และ Subaru Forester ถ้าชอบแบบ Active Safety ที่มีกล้องมองรอบคันก็เลือก Nissan X-Trail ถ้าชอบถุงลมนิรภัยมากหน่อยก็เลือก Subaru Forester ครับ
Passive Safety ที่ Subaru เน้นมากในรถยนต์คันนี้ รวมไปถึงมาตรฐาน EURO NCAP ด้วย
ด้วยฟังก์ชั่นทั้งหมดที่กล่าวมา ถ้าจะให้เลือกกันจริงๆด้วยระดับราคาของค่าตัวทั้งสองคันนี้ ผมคงเลือก Nissan X-Trail เพราะที่ราคาของ Subaru Forester สามารถเป็นเจ้าของ Nissan X-Trail รุ่นไฮบริดได้เลยและยังได้กล้องมองภาพรอบคัน การันตีจากแบรนด์ Nissan ที่ทำตลาดในไทยมาอย่างยาวนานก็เรียกความมั่นใจไปได้อีก
เพิ่มเติม
>> รถปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) คืออะไร?
>> TOYOTA จับมือ PANASONIC ผลิตแบตเตอรี่รุ่มใหม่เพื่อโลกยุคใหม่
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้