ลองติดตามการพัฒนาของ Toyota Corolla Altis โฉมปี 2014 ถึงปัจจุบัน

ตลาดรถที่เป็นเซกเมนต์ยอดนิยมมาช้านานตั้งแต่สมัยวงการอุสาหกรรมรถยนต์เริ่มบูมขึ้นมาใหม่ๆ เซกเมนต์นั้นคือรถยนต์ซีดาน ที่ตอบโจทย์การเดินทางของคนในสมัยนั้นด้วยประตูทั้ง4บาน ที่เหมาะกับผู้โดยสารทุกคนพอดีๆ และยังสามารถนั่งกันได้ทั้งครอบครัวกรณีที่ครอบครัวไม่ได้ใหญ่มาก เครื่องยนต์วางด้านหน้าและพื้นที่ด้านหลังเป็นที่วางสัมภาระ ทำให้รูปทรงรถยนต์ซีดานแบบนี้เป็นที่นิยมเรื่อยมา ส่วนขนาดของรถยนต์มักจะเป็นรถยนต์ขนาดกลางๆไม่ใหญ่เกินไปเพราะทำให้คล่องตัวเวลาขับไปจอดตามที่ต่างๆ และก็ไม่เล็กเกินไปทำให้ได้สมรรถนะที่ถึงใจ เร่งเครื่อง เดินทางต่างจังหวัดก็ไม่มีปัญหา ในตลาดรถประเทศไทยเองก็มีรถยนต์รุ่นที่ตอบโจทย์สิ่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้นคือ รถยนต์กลุ่ม C-Segment ในปัจจุบันกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีแค่รถยนต์ซีดานแต่แบบ Hatch back ก็ทำออกมาเอาใจคนชอบความสปอร์ตแล้วด้วย

Toyota Corolla Altis โฉมปัจจุบัน

สำหรับรถยนต์กลุ่ม C-Segment ที่เราจะพูดถึงในวันนี้เป็นรถยนต์ของแบรนด์เจ้าตลาดที่ทำตลาดในไทยมาอย่างยาวนานนั่นคือ Toyota Corolla Altis ครั้งแรกที่เปิดตัวให้แก่ชาวไทยได้รู้จักก็ตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งช่วงนั้นตัวถังรถยนต์มีสองแบบคือแบบซีดาน2และ4ประตู ในช่วงนั้นเป็นยุคแรกๆที่เทคโนโลยีอะไรต่างๆยังไม่ก้าวหน้ามากนัก ระบบส่งกำลังก็มมีแค่2ประเภท คือเกียร์ธรรมดา4สปีดและเกียร์อัตโนมัติ2สปีด และก็เป็นรถยนต์นำเข้ามาขายในประเทศไทย และเมื่อความนิยมของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเริ่มมากขึ้นจึงมีการประกอบในไทยในที่สุด

รถยนต์ Toyota Corolla รุ่นแรกปี 1966

Toyota Corolla Altis ในประเทศไทยโฉมปัจจุบันเป็นโฉมที่เปิดตัวมาตั้งตีปี 2014 และก็มีการปรับอ็อฟชั่นต่างๆเรื่อยมา ลองมาดูกันว่าแต่ละรุ่นจะต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือรถยนต์ที่อยู่ในโฉมเดียวกันการเปลี่ยนแปลงจะมีไม่มากนัก การปรับหลักๆจะเป็นเรื่องอ็อฟชั่นหรือรุ่นย่อยมากกว่า การเพิ่มสิ่งใหม่ขึ้นมาเลยมักจะไม่ค่อยมีให้เห็น แต่สิ่งที่เห็นชัดจะเป็นรุ่นย่อยที่นำอ็อฟชั่นจากรุ่นสูงมาใส่เพิ่มในรุ่นล่างด้วย

เปรียบเทียบเครื่องยนต์

โดยปกติแล้วสำหรับเครื่องยนต์ในโฉมเดียวกันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรหัสเครื่องยนต์ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงรหัสเครื่องยนต์เป็นเรื่องใหญ่ ปกติจะเปลี่ยนในตอนปรับโฉมใหม่เลยหรือที่เรียกกันว่า Full Model Change ดังนั้นรถยนต์ Toyota Corolla Altis ในโฉมปัจจุบันที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014-2018 จะเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันทั้งหมด มีสองขนาดคือ เครื่องยนต์ขนาด 1.8ลิตร รหัสเครื่องยนต์2ZR-FBE 4สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 141แรงม้าที่ 6,000รอบ แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงE-85ด้วย ซึ่งทางโตโยต้าเคลมว่าการใช้เครื่องยนต์ 1.8ลิตรนี้ก็เหลือเฟือสำหรับรถยนต์กลุ่ม C-Segment แล้วและไม่จำเป็นต้องทำเครื่องยนต์ 2.0ลิตรออกมาให้แพงโดยใช่เหตุ

เครื่องยนต์ที่กำลังดีที่สุดของ Toyota Corolla Altis รหัส 2ZR-FBE

เครื่องยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่เล็กลงมาหน่อยสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังได้รถยนต์ขนาด C-Segment คือเครื่องยนต์ขนาด 1.6ลิตร รหัสเครื่องยนต์1ZR-FBE 4สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-i ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 125แรงม้าที่ 5,200รอบ แรงบิดสูงสุด 157 นิวตันเมตร จะเห็นว่าต่างกันที่เรื่องของกำลังอย่างเดียวจริงๆ และอีกจุดหนึ่งที่ต่างคือรุ่น 1.6ลิตรจะมีเครื่องยนต์ที่รองรับการใช้พลังงานของก๊าซธรรมชาติ CNG ที่ติดมาจากโรงงานเลยด้วย รุ่น1.6ลิตรนี้ในช่วงแรกปี2014ไม่ได้รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงE85 Toyotaได้มีการปรับให้รองรับน้ำมันเชื้องเพลิงE85ได้ในช่วงปี2016จนถึงปัจจุบันปี 2018

ดูเพิ่มเติมฅ
>> Toyota Corolla Altis 2018 เปิดตัวใหม่ 2 รุ่น บวกอ็อพชั่นใหม่ราคาเริ่มต้น 9.59 แสนบาท
>> เผยโฉม Toyota Corolla Hatchback 2018 ก่อนเปิดตัวที่สหรัฐฯ

เปรียบเทียบภายในและระบบเครื่องเสียง

ระบบภายในห้องโดยสารมักไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆมากนัก ตั้งแต่ปี2014-2018 ก็มีสีภายใน3สี คือ สีดำ สีเบจ และสีเทา แต่สิ่งที่ในรุ่นปี 2014 ไม่มีคือระบบเครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร ถูกปรับเพิ่มให้มีระบบเครื่องฟอกอากาศในปี2016เฉพาะรุ่น 1.8V Navi เท่านั้นจนถึงปัจจุบัน ส่วนต่อมาคือมิเตอร์หรือมาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอ MID แบบสี TFT ดีไซน์ใหม่ที่ถูกปรับเปลี่ยนในปี 2016 เฉพาะรุ่น1.8G และ 1.8V อีกเรื่องที่มีการปรับเพิ่มตลอด4-5ปีของ Toyota Corolla Altis โฉมนี้ก็คือระบบ Telematics ที่เรียกว่า T-Connect เป็นสิ่งใหม่ในรุ่นปี 2018 เฉพาะรุ่นท็อปเท่านั้น (ในรุ่นปี 2016 จะมีแต่ระบบนำทางเท่านั้นไม่มีระบบ T-Connect Telematics) รุ่นย่อยคือ 1.8V Navi Telematics ที่ในรุ่นปีก่อนหน้าจะไม่สามารถทำได้ เช่นการค้นหาตำแหน่งตัวรถผ่าน application การแจ้งเตือนระบบบำรุงรักษารถยนต์ การแจ้งเตือนผ่าน Application เมื่อรถยนต์ถูกสตาร์ทหรือเคลื่อนที่ การตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม บริการประสานงานไปยังดีลเลอร์เพื่อขอรับความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุบนท้องถนน การประสานงานช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทางด้านร่างกายต่อผู้ขับขี่ สิ่งเหล่านี้่เองเป็นสิ่งที่บรรจุอยู่ใน T-Connect Telematics ให้สมกับที่เป็น Connected Car ยุค 2018

หน้าจอที่ยังเหมือนเดิมตั้งแต่แรก มีเพิ่มเติมคือ T-Connect

มาตรวัดเรืองแสงที่เพิ่มเข้าสู่รุ่นย่อยที่มากขึ้น

ระบบเครื่องฟอกอากาศในรุ่นท็อป

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย

ใน Toyota Corolla Altis 2014 จะมีเพียงรุ่นท็อป 1.8 V Navi A/T เท่านั้นที่มีระบบควบคุมการทรงตัว VSC + TRC แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นปี 2016 ระบบควคุมการทรงตัวนี้ก็มีมาให้ครบในทุกรุ่นย่อย สุดท้ายในรุ่นปัจจุบันปี 2018 ก็แทบจะไม่ต่างจากรุ่นปี 2016 และระบบความปลอดภัยใหม่ๆก็ไม่ได้ถูกใส่มา คงจะไปเพิ่มเติมกันจริงๆตอน Full Model Change แน่นอน  แต่ถ้าจะนับกันจริงๆสิ่งที่เปลี่ยนไปในปี 2018 ก็คือรุ่นย่อยที่เพิ่มขึ้นจากปี 2016 คือรุ่น 1.8 S CVT และรุ่น 1.8V Navi Telematics CVT ระบบที่เพิ่มขึ้นมาใน 1.8S คือ กล้องบันทึกภาพเหตุการณ์ด้านหน้ารถ ส่วนความปลอดภัยด้านถุงลมนิรภัย7จุดเป็นสิ่งที่ยืนพื้นสำหรับรถยนต์กลุ่ม C-Segment ของ Toyota มาตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน

กล้องบันทึกเหตุการณ์หน้ารถที่ถูกใส่มาในปี 2018

เพื่อนๆชาว Chborod คงพอจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของรถยนต์ Toyota Corolla Altis โฉมปัจจุบันกันแล้วนะครับว่าการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2014 ไม่ได้มีฟังก์ชั่นอะไรใหม่ๆเข้ามามากนัก แต่จะเป็นการปรับรุ่นย่อยให้เหมาะสมมากกว่า เป็นการนำระบบที่มีในรุ่นที่สูงกว่ามาใส่ลงในรุ่นที่ต่ำกว่าในปีต่อๆมาและมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่ดูจะใหม่ๆจริงๆน่าจะเป็นระบบเครื่องฟอกอากาศที่เริ่มมีมาตั้งแต่รุ่นปี2016 และระบบ T-Connect Telematics ที่มีในปี2018 นี้ แต่เฉพาะรุ่นท็อปที่มีระบบนำทางใช้งานร่วมกันเท่านั้น

ดูเพิ่มเติม
>> ส่องข้อดีใน Toyota Corolla Altis 2018
>> All-New Toyota Corolla Altis ESport 2018 มาในสไตล์สปอร์ตทั้งดีไซน์และสมรรถนะ

Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้เเละคราวหน้าเรื่องอะไรติดตามไปพร้อมกันเลยนะครับ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้