เคลือบสีบ่อยแค่ไหน ? ทำให้รถดูฉ่ำ เงางามอยู่เสมอ

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ก.ย 2560
แชร์ 11

ไม่ว่าคุณจะดูแลสีด้วยการล้างรถด้วยตัวเอง หรือ เลี้ยวเข้าคาร์แคร์ การเคลือบสี คือ สิ่งสำคัญสำหรับสีรถของคุณ ช่วยให้รถเงางาม ดูใหม่ สะอาดน่าขับ และยังช่วงปกป้องสภาพชั้นสีของรถคุณอีกด้วย

คำถามคือระยะเวลาในการเคลือบสีรถควรทำบ่อย ถี่แค่ไหนสำหรับรถคุณ ทุกอาทิตย์, เดือนหละครั้งหรือทุกครั้งที่ล้าง ความจริงแล้วการล้างเคลือบสีควรทำบ่อยแค่ไหน จำเป็นไหมที่ต้องเคลือบทุกครั้งที่ล้าง

เคลือบสีบ่อยๆ นอกจากจะช่วยปกป้องพื้นผิวสียังให้ความเงางามที่เหนือกว่ารถคันอื่น

เคลือบสีบ่อยๆ นอกจากจะช่วยปกป้องพื้นผิวสียังให้ความเงางามที่เหนือกว่ารถคันอื่น

ความจริงแล้วคุณสามารถล้างเคลือบสีได้เลยทุกครั้งที่ล้างรถ แล้วแต่เจ้าของรถสะดวก แต่จริงๆ สัก 2 สัปดาห์เคลือบสีสักครั้งก็น่าเพียงพอ ไม่ต้องเสียค่าเคลือบสีสำหรับคนที่ชอบล้างรถบ่อยๆ อยากให้รถสะอาดน่าขับอยู่เสมอ แค่ล้างสีเวลาที่รถสกปรกก็น่าจะเพียงพอ อย่างไรก็ดีไม่ควรเว้นช่วงการล้างเคลือบให้กับรถคันโปรดของคุณให้นานนัก นานที่สุดอย่างน้อยเดือนละครั้ง น้ำยาเคลือบสี

การเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบก็เป็นสิ่งสำคัญขั้นตอนหนึ่ง

การเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบก็เป็นสิ่งสำคัญขั้นตอนหนึ่ง

ใช่ว่าจะเป็นแค่การช่วยให้รถดูเงางาม ฉ่ำแว็กซ์ Wet look เท่านั้นแต่น้ำยาเคลือบยังช่วยปกป้องสภาพชั้นสีรถของคุณให้ยังคงรักษาความเงางามเอาไว้ไม่ให้ถูกสิ่งแวดล้อม สภาวะต่างๆ บนท้องถนน ที่มีแต่ฝุ่นควันหรือแสงแดดแรงๆ สามารถทำลายชั้นสีของคุณได้ง่าย ถ้าปล่อยปะละเลยจนสีรถค่อยๆ ถูกทำลายไปจนถึงจุดหนึ่ง ที่การล้างเคลือบขัดลบริ้วรอยไม่สามารถฟื้นคืนสภาพสีของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้แล้ว สุดท้ายต้องทำสีใหม่ ค่าใช้จ่ายสูง และไหนจะเฉดสีที่แตกต่างในกรณีที่ทำสีแค่บางชิ้นส่วนของรถอีก

การเคลือบเป็นอะไรที่คล้ายกับงานศิลป์

Wet Look คำนิยมเรียกของผู้ที่หลงไหลใส่ใจเรื่องการดูแลสีรถ เป็นความหมายของการเคลือบสีให้ดูฉ่ำ เงางามมากจนสีสะท้อนกับแสงแดดจนคล้ายกระจก รถเงาจนเหมือนเปียกน้ำอยู่ตลอด ถ้าเทียบงานศิลป์บนสีรถ การดูแล ฟื้นฟูสภาพสีให้เงางามอยู่ตลอดนี่แหละคืองานที่ต้องใช้รายละเอียดแทบไม่ต่าง ด้วยขั้นตอนที่มากมาย เรียงลำดับของการเคลือบสีรถมีจะขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้

ล้างรถให้สะอาดแต่ไม่เพิ่มริ้วรอยให้รถ

คือขั้นตอนแรก ถูเบาๆ ทำความสะอาดไปในทางเดียวให้คราบสกปรกหลุดออกแต่ไม่เพิ่มริ้วรอยให้แก่ตัวรถ

 

ใช้ดินน้ำมันช่วยให้คราบฝังแน่นหลุดออกที่ทำไม่ได้ในขั้นตอนการล้างสีปกติ

ใช้ดินน้ำมันช่วยให้คราบฝังแน่นหลุดออกที่ทำไม่ได้ในขั้นตอนการล้างสีปกติ

ล้างด้วยดินน้ำมันต่อ

แม้จะล้างรถแล้วสะอาดแล้วแต่สภาพพื้นผิวของสีอาจยังไม่รื่น สัมผัสยังไม่เรียบเนียน การใช้ดินน้ำมันล้างจะช่วยขจัดความหยาบกร้านต่างๆ ที่ติดแน่นอยู่บนพื้นผิว ให้พื้นผิวเรียบลื่นยิ่งขึ้น

ลบริ้วรอยต่างๆ บนสีด้วย Cleaner

แม้แต่การใช้งานปกติหรือเช็ดรถธรรมดาก็สามารถทำให้รถเกิดริ้วรอยได้ใช้ Cleaner เพื่อลบรอยต่างๆ เหล่านั้นและยังช่วยล้าง Wax เก่าที่เคยเคลือบไว้ก่อนหน้า

เคลือบสีด้วย Wax

เตรียมพื้นผิวเรียบร้อยก็ถึงขั้นตอนสำคัญในการเคลือบเพื่อปกป้องขั้นตอนการเคลือบจะมี 2 ขั้นตอนคือเคลือบสีด้วย Sealant wax ในชั้นแรกทิ้งไว้สักระยะจากนั้นเคลือบต่อด้วยน้ำยาเคลือบสีรถประเภท Carnauba Wax ทิ้งไว้จนน้ำยาเซ็ตตัวแล้วเช็ดออก
 

เคลือบสีด้วย Wax ให้ดูเงาเหมือนกระจก “Wet Look” เหมือนรถเปียกน้ำอยู่ตลอด

เคลือบสีด้วย Wax ให้ดูเงาเหมือนกระจก “Wet Look” เหมือนรถเปียกน้ำอยู่ตลอด

เก็บรายละเอียดด้วย Detailer

แม้จะเช็ดน้ำยาออกหมดอก็อาจมีที่ตกค้างเหลืออยู่ใช้ Detailer ฉีดช่วยทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเก็บรายละเอียด

 

เห็นไหมว่าการดูแลสีรถให้ดูเงางามใช่แค่เพียงการล้างรถธรรมดา แต่มีรายละเอียดปีกย่อยต่างๆ มากมายที่ต้องศึกษา รวมถึงการใช้รถด้วยการรักษาสีไม่ให้เกิดริ้วรอยต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกจากเดิม การเคลือบสีจะช่วยปกป้องรถจากให้ริ้วรอย เคลือบได้บ่อยก็ยิ่งดี แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็ไม่ควรห่างเหินจากการเคลือบสีรถที่รักของคุณนานเกินไป จนรถขาดการปกป้อง น้ำยาเคลือบถูกฉะล้างออกไปหมด

 

>> [Infographic] 6 วิธีดูแล “สีรถ” ช่วงหน้าฝน ใส่ใจสักนิดเพื่อความเงางามของรถคุณ
>> 5 ทริคง่ายๆ กำจัดคราบกาวสติ๊กเกอร์บนตัวถังรถ