หลายคนยังคงจำกันได้ถึงกรณีที่มีรถยนต์ขับมาด้วยความเร็วและปาดรถอีกคันหนึ่งในระยะกระชั้นชิด แล้วยังปาดรถคันหน้าต่ออีกจนเสียหลักทำให้รถแท็กซี่คันสีชมพูพลิกคว่ำหลายตลบบนถนนวิภาวดีรังสิต คลิปนี้เป็นคลิปที่ถูกวิพากษณ์วิจารณ์อย่างมาก นับว่าโชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต แต่หากเกิดเหตุการณ์นี้กับเรา เราจะทำเช่นไร
คลิปนี้เป็นที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล ดูแล้วเป็นภาพที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง หลายคนเกิดความกังวลว่ารถนั้นได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ไว้หรือไม่ และหากรถเราเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ถูกปาดนั้น เราจะทำเช่นไร จะได้รับความคุ้มครองอย่างไรบ้างจากการทำประกันภัยรถยนต์
หากสามารถติดตามจับรถยนต์ซิ่งมาดำเนินคดีได้ และตรวจสอบว่ารถชอบปาดนี้มีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ พรบ. และภาคสมัครใจ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะได้รับการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ) ส่วนค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายจริงไม่เกิน 80,000 บาท และยังใช้สิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เกินจาก พรบ. ได้อีกในกรมธรรม์ภาคสมัครใจได้อีกในกรณีที่ค่ารักษาพยาบาลเกิน ส่วนความรับผิดต่อบุคคลภายนอกหรือผู้ที่ได้รับเคราะห์ ที่รถจอมปาดนั้นซื้อความคุ้มครองไว้ภายใต้กรมธรรม์ภาคสมัครใจทุกประเภท
การขับแซงควรรักษากฏระเบียบจราจร
หากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการซ่อมรถและค่าเสียหายอื่นๆ จากบริษัทประกันภัยรถยนต์ของรถจอมปาดนี้ได้ ไม่ว่าเก๋งซิ่งนี้ จะทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภทใดก็ตาม เพราะสามารถใช้สิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายต่อทรัพย์สินได้ ในส่วนของความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอีกเช่นกัน
ดูเพิ่มเติม
>> ประกันคุ้มครองไหม? หากเกิดเหตุแบบนี้
>> การเรียกร้องสินไหมทดแทน ระหว่างรถรอซ่อม
แต่หากรถจอมปาดไม่ทำได้ประกันภัย หรือยังไม่สามารถติดตามจับรถยนต์ซิ่งมาดำเนินคดีได้ ผู้ขับขี่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะได้รับการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ) ส่วนค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงในส่วนของวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้นไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนผู้โดยสารจะได้รับไม่เกิน 80,000 บาท จากประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ พรบ ที่ได้ทำประกันภัยไว้เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยในรถของเรา หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินความคุ้มครองตาม พรบ. ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่อยู่ในรถคันเอาประกันภัยนั้น ยังได้รับความคุ้มครองตามหมวดความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย
การมี พรบ. รถยนต์ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่
กรณีรถยนต์เราที่ได้รับความเสียหาย เมื่อมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจคุ้มครองรถยนต์ของตนเองไว้ ก็นำรถยนต์เข้าซ่อมให้กลับคืนสู่สภาพเดิมภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้เอง แต่ทั้งนี้ต้องทำประกันภัยที่มีความคุ้มครองในส่วนของความเสียหายต่อรถประกันไว้ ซึ่งได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และประเภท 5 (2+หรือ3+) หากจัดทำแค่ประเภท 2 หรือ 3 ไว้ ก็ต้องรอจนกว่าพนักงานสอบสวนจะสามารถติดตามรถจอมปาดมาดำเนินคดี ต้องตรวจสอบว่ามีประกันภัยหรือไม่ แล้วชดใช้ค่าเสียหายอย่างไร แต่ถ้าไม่ได้ทำไว้เลย ก็ต้องเรียกร้องเอาจากคนขับหรือเจ้าของรถ ซึ่งใช้เวลานาน ต้องรอการพิจารณาคดี หรือการเจรจาไกล่เกลี่ย
ดูเพิ่มเติม
>> เรื่องควรรู้ ประกันรถยนต์!!
>> รถติดแก๊สถ้าไฟไหม้ประกันจ่ายไหม?