สำหรับวันนี้ Chobrod จะนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกซึ่งเรานำมา5 อันดับภายนอกไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้วแล้วภายในล่ะจะมีวัสดุเป็นยังไงหรูหราแค่ไหนสวยแพงสมราคามาน้อยเท่าไหร่ วันนี้เราจะพาไปดูกัน
- McLaren P1 LM 3.7 ล้านเหรียญ (ประมาณ 116,000,000 บาท)
McLaren P1 LM ดีไซน์ไม่ต้องพูดถึงหรูหราสมคำร่ำลือ และมีการผลิตเพียงแค่ 6 คันเท่านั้น ก็เลยทำให้มันเป็นไฮเปอร์คาร์ที่หายากที่สุด ภายในเปลี่ยนเบาะนั่งเป็นเบาะน้ำหนักเบารุ่นใหม่ สลักยึดเป็นวัสดุไทเทเนียม เปลี่ยนกระจกเป็นโพลีคาร์บอเนทของแบรนด์ Lexan พร้อมออกแบบแอร์โรแพคเกจรอบคันใหม่ อีกทั้ง P1 LM ลดน้ำหนักด้วยการถอดแม่แรงติดรถนิวเมติคออกไป ความแรงของกำลังและใช้เครื่องยนต์พลังงานไฮบริด มีกำลังเครื่องยนต์ 3.8 บิตรแบบ twin-turbo V8 hybrid (เทอร์โบคู่ 8 สูบ) ให้กำลังสูงสุด 386 แรงม้า
McLaren P1 LM สะกดทุกสายตา
McLaren P1 LM ภายในที่โดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- Lykan HyperSport 3.4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 107,000,000 บาท)
Lykan HyperSport มีแค่ 7 คันในโลก และหนึ่งในนั้นที่เราเคยเห็นก็คือในภาพยนตร์เรื่อง Fast And Furious 7 ดีไซน์ที่ดูราวกับหลุดมาจากอนาคต สามารถสะกดทุกสายตา แถมยังประดับประดาด้วยเพชร พลอย ทับทิมกว่า 420 เม็ด ไฟ LED ทางด้านหน้าที่มาพร้อมกรอบไทเทเนี่ยม ส่วนภายในห้องโดยสารก็ไม่ต้องพูดถึงทันสมัยไม่ต่างจากภายนอกที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว วัสดุทำด้วยไทเทเนียม ส่วนเครื่องยนต์นั้นใช้ Twin Turbo 6 ลูกสูบขนาด 3.7 ลิตร ขุมพลังความเร็ว 770 แรงม้า สามารถเร่งสปีดจาก 0 – 100 กิโลดมตรได้ภายในเวลา 2.8 วินาที
Lykan HyperSport รถที่ปรากฏตัวในหนังฟอร์มยักษ์
ภายในห้องโดยสารที่ออกแบบเพื่อการขับขี่ที่แท้จริง
ดูเพิ่มเติม
>>เรื่องของ Super Car ที่ไม่ได้เพอร์เฟคอย่างที่คิด
>>มาส่องรถสุดเท่ห์จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “Transformers 5 The Last Knight”
- Lamborghini Veneno Roadster 3.3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 103,000,000 บาท)
Lamborghini Veneno Roadster รถเปิดประทุนไร้หลังคา แต่แทนที่ด้วยความปลอดภัย ติดตั้งถุงลมนิรภัยและระบบช่วยทรงตัว ESP โครงสร้างรถแบบโมโนค็อกและวัสดุประกอบตัวถังคุณภาพสูงอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ภายในโดดเด่นที่ห้องคนขับเสมือนกับห้องห้องนักบินที่เปิดโล่ง ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เกือบทั้งหมด ทั้งยังสามารถเห็นโครงของรถจากภายในด้วย ให้ความรู้สึกสมจริง สมรรถนะเครื่องยนต์มีพละกำลังสูงสุดถึง 750 แรงม้า เครื่องยนต์ BlockV12 ความจุกระบอกสูบ 6.5 ลิตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 354 กม./ชม.
Lamborghini Veneno Roadster รถซูเปอร์คาร์พลังแรง
Lamborghini Veneno Roadster ภายในที่ทันสมัย
- Aston Martin Valkyrie 3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 94,000,000 บาท)
ไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เกิดจากการร่วมกันพัฒนาระหว่าง Aston Martin กับ Redbull Racing โดย Aston Martin Valkyrie ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่แฝงความหรูเอาไว้ เบาะนั่งคล้ายบ่อแยกส่วนแต่ละที่นั่งออกจากกัน ตำแหน่งของเบาะนั่ง จัดให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับรถแข่งสูตร 1 และ Le Mans มาพร้อมพวงมาลัยเป็นสไตล์รถแข่ง ที่ควบคุมเกียร์ได้ มีหน้าจอแบบ OLED ส่วนที่แผงคอนโซล นอกจากจะมีหน้าจอแสดงระบบการทำงานแล้ว ยังมีหน้าจอเล็กๆอยู่ทั้ง 2 ข้าง ที่ใช้แสดงภาพจากกล้องมองหลัง ที่นำมาใช้แทนกระจกมองข้าง แล้วสายนิรภัยก็สามารถเปลี่ยนจากแบบมาตรฐานรัด 4 จุดให้เป็นแบบรัด 6 จุดได้ เวลาใช้ในสนามแข่งรถ ส่วนด้านเครื่องยนต์ BlockV12 6.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศแต่มีระบบไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อน พละกำลังสูงสุด 1,130 แรงม้า น้ำหนักตัวถัง 2,300 ปอนด์
Aston Martin Valkyrie ดีไซน์อนาคต
- Ferrari Pininfarina Sergio 3 ล้านเหรียญ (ประมาณ 94,000,000 บาท)
Ferrari Pininfarina Sergio ที่ผลิตเพียง 6 คันในโลก เพื่อเป็นการระลึกถึง นายเซอร์จิโอ พินินฟาริน่า (Sergio Pininfarina) ตำนานผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว รถเปิดประทุนรุ่นพิเศษนี้ใช้โครงสร้างของ Ferrari 458 Spyder แต่มีการเพิ่มชิ้นส่วนสีดำในบริเวณกระจังหน้า กันชนหน้า เชื่อมไปยังสเกิร์ตข้างและยกสูงเชื่อมต่อกับโรลบาร์ พร้อมกับเพิ่มชิ้นสีดำบริเวณไฟท้ายด้วย ส่วนภายในเป็น 2 ที่นั่ง การตกแต่งยกมาจากรุ่น 458 ทั้งหมด หุ้มเบาะและคอนโซลด้วยหนังและผ้าอัลคันทารา ส่วนพวงมาลัยติดตราคำว่า Sergio แสดงความพิเศษของรุ่นนี้ ส่วนอื่นๆ ถูกตกแต่งด้วยสีดำ satin black และพิเศษด้วยสัญลักษณ์ ม้าลำพอง ที่ถูกวาดด้วยมือขึ้นมาใหม่ พื้นดำและแดงและตัดด้วยสัญลักษณ์สีดำ ด้านเครื่องยนต์ V8 ความจุกระบอกสูบ 4.5 ลิตร พละกำลัง 605 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที
Ferrari Pininfarina Sergio รุ่นพิเศษที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
Ferrari Pininfarina Sergio ภายในที่สะกดทุกสายตาไม่แพ้ด้านนอก
เป็นยังไงบ้างกับรถหรูราคาแพง ที่ไม่ได้หรูแค่ภายนอก แต่ภายในก็หรูหรา ทันสมัยโฉบเฉี่ยว บางรุ่นถึงกับนึกว่าอยู่ในโลกอนาคตกันเลยทีเดียว ทั้งรูปลักษณ์ การขับขี่ สมรรถนะ ความเร็ว คนที่จะซื้อรถซูเปอร์คาร์ราคาแรงแบบนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะซื้อได้นะจ้ะ ต้องเป็นอภิมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียว
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม
>>สุดยอดสปอร์ตคาร์ระดับ 500 ม้าการันตีปี 2018
>>McLaren ยืนยันไม่ลุย SUV แต่ผลิตรถสปอร์ตไฮบริดและไฟฟ้าแทน
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่