เช็กให้ชัวร์ ระวังรถน้ำท่วม ดูยังไงไม่ให้ได้รถมีประวัติ

จะซื้อรถสักคัน มั่นใจแค่ไหนว่าจะได้รถดี สภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะรถมือสอง ที่ต้องให้ความใส่ใจในการตรวจสอบ ตรวจเช็กอย่างละเอียด ซึ่งรถมือสองแต่ละคันก็มีประวัติที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Chobrod จะมาพูดถึง รถน้ำท่วม ดูยังไง ไม่ให้ได้รถมีประวัติ

เรื่องของรถจมน้ำท่วม

เมื่อพ้นจากช่วงน้ำท่วม รถทั้งหลายย่อมเสียหาย ปัญหาอาจเริ่มขึ้นสำหรับผู้ซื้อรถมือสอง หลังจากเจ้าของรถที่เสียหายตกลงค่าชดเชยกับบริษัทประกันภัยได้แล้ว รถเหล่านั้นบางทีอาจนำไป refurbish (ไปปรับสภาพใหม่) แล้วขายต่อ และบางครั้ง ลูกค้าคนกลางจงใจปกปิดประวัติว่ารถตัวเองเคยโดนน้ำท่วมผ่านกระบวนการ “title washing” (ล้างประวัติ) และขายให้ผู้ซื้อที่ไม่ได้เอะใจว่ารถเคยมีปัญหามาก่อน ปัญหาไฟฟ้ากับกลไกอาจตรวจพบได้ภายหลัง นานจนผู้ขายหลบเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ปล่อยให้เจ้าของใหม่ใช้รถที่เจียนอยู่เจียนไป และไม่มีโอกาสตามความช่วยเหลือจากผู้ขายในเรื่องของรถจมน้ำท่วม

รถน้ำท่วม ดูยังไง ไม่ให้ได้รถมีประวัติ

หลังคุยกับประกันเสร็จ เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกจะ “ระบุสภาพ” รถที่โดนน้ำท่วมว่าเป็นซากทรัพย์หรือรถพร้อมทิ้ง เรื่องนี้คอยเตือนลูกค้าในอนาคตว่าเป็นรถที่เสียหายโดยสิ้นเชิง (total loss) โดยบริษัทประกัน บางพื้นที่เรียกว่ารถที่โดนน้ำท่วมไว้ชัดเจน คอยเตือนลูกค้าว่ารถจมน้ำหนักจนต้องเปลี่ยนถ่ายเครื่องยนต์

แน่ใจแค่ไหนว่ารถที่ซื้อมา ไม่มีประวัติการจมน้ำ

เกือบครึ่งของซากทรัพย์ถูกขายต่อ มักไปขายที่ ๆ ไม่โดนน้ำท่วม ทำให้ผู้ซื้อหลายคนมีสิทธิ์พบรถโดนน้ำท่วมจากประกาศขายส่วนบุคคลมากกว่าตามตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนที่เชื่อถือได้ใช้รายงานประวัติการใช้รถเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่ต้องมาปวดหัวเมื่อต้องขายรถที่โดนน้ำท่วม วิธีรอดพ้นจากรถมือสองแอบจมน้ำท่วม

ตรวจสอบประวัติการใช้รถ

ถ้าผู้อ่านสงสัยว่ารถมือสองที่สนใจอาจโดนน้ำท่วมมาก่อน สงสัยต่อไป ถามหารายงานประวัติการใช้รถ ซึ่งจะแสดงรายละเอียดในอดีต รวมถึงพื้นที่ที่มีการลงทะเบียนรถไว้ อาจระบุยันสภาพรถเมื่อโดนน้ำท่วมด้วย แม้ลูกค้าคนกลางมีการล้างประวัติโดยการย้ายไปอีกพื้นที่ที่ใช้กฎหมายต่างกัน

เพิ่มเติม
>> วิธีดูรถมือสอง ต้องเช็กให้ชัวร์ กับ 7 ฟีเจอร์ประจำรถที่ต้องมี
>> วิธีซื้อรถมือสองให้เหมือนได้รถมือหนึ่ง

วิธีการตรวจสอบว่ารถเคยโดนน้ำท่วมหรือเปล่า?

บางกรณี ความเสียหายจากน้ำท่วมอาจไม่แสดงในรายงานประวัติการใช้รถ ถ้าเจ้าของรถคันนั้นไม่มีการครอบคลุมจากประกัน ก็จะไม่สามารถขอเคลมได้ และสภาพที่ว่าจะไม่ระบุไว้ เมื่อขายรถไปแล้ว และกลับสู่ตลาดได้ ผู้อ่านอาจต้องพึ่งบางจุดเพื่อหาร่องรอย ประกอบด้วย

ตรวจเช็กบางจุดสำคัญ เพื่อหาร่องรอยรถจมน้ำท่วม

• กลิ่นแปลก ๆ ในรถ : กลิ่นเหม็นอับรึผุพังในรถคือสัญญาณของเชื้อราที่ก่อตัวจากการโดนน้ำนาน ๆ เชื้อราอาจอยู่ในจุดที่ผู้ขายลบไม่ออกแล้ว ระวังกลิ่นฉุนจากที่ดับกลิ่นหรือวิธีการล้างรถ อาจแสดงว่าผู้ขายพยายามปกปิดอะไรอยู่ เปิดแอร์เพื่อเช็กว่ากลิ่นผุมาจากช่องแอร์หรือไม่
• พรมสีตก : คราบขนาดใหญ่หรือสีตามผ้าหุ้มเบาะไม่เท่ากันอาจแสดงถึงว่ารถเคยจมน้ำ รถมือสองที่เปลี่ยนผ้าหุ้มเบาะใหม่หมดก็เป็นสัญญาณเตือนได้ ผู้ขายอาจหาทางทิ้งผ้าหุ้มเบาะที่โดนน้ำออกไปหมด
• ร่องรอยน้ำตามภายนอกรถ : อาจประกอบด้วยหมอกในไฟหน้าหรือไฟท้าย และจุดที่ชื้นหรือเปรอะโคลนที่น้ำมักท่วม เช่น กันสาดภายในซุ้มล้อ ลายทางน้ำอาจสังเกตได้ในห้องเครื่องหรือฝากระโปรง แสดงได้ว่ารถเคยจมมิดมาก่อน
• สนิมและรอยตกสะเก็ดตามช่วงล่าง : รถใหม่ไม่มีทางเจอรอยแบบนี้เป็นปกติแน่
• ดินเปื้อนตามจุดที่ไม่ควรจะมี : หมายถึงพื้นที่ตามรางเบาะนั่งหรือม่านใต้ลิ้นชักเก็บของ ให้ช่างมาตรวจสอบหาก้อนโคลนหรือกรวดตามรอยร้าวในจุดอื่น, หลังบังเหียนสายพันเครื่องยนต์ และรอบ ๆ ซอกเล็ก ๆ ของมอเตอร์สตาร์ตรถ, ปั๊มพวงมาลัยไฟฟ้า และ relay ถ่ายกระแสไฟฟ้า

ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องของรถน้ำท่วม หากศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนไปเลือกซื้อ ก็จะป้องกันการถูกรถมีประวัติการจมน้ำได้ หากละเลย ไม่ใส่ใจในข้อมูลของรถให้แน่ใจก่อนซื้อ เมื่อซื้อรถจากเต็นท์แล้วมีปัญหา ต้องการขายคืนขึ้นมาอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อรถมือสองสักคัน สละเวลาตรวจสอบสักนิด เพื่อให้ได้รถที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

เพิ่มเติม

>> ซื้อรถมือสอง ต้องถามอะไรบ้าง? รวมคำถามที่คนจะถอยรถต้องรู้
>> ควรรู้! 10 อะไหล่รถยนต์ ที่เปลี่ยนบ่อยที่สุด

เข้าดู รถมือสอง ได้ที่นี่