พ่อแม่-ผู้ปกครองต้องอ่าน! 7 ข้อควรระวังเมื่อมีเด็กอยู่ในรถ

ประสบการณ์ใช้รถ | 1 ก.ย 2562
แชร์ 3

Chobrod จะมาแนะนำข้อควรปฏิบัติเมื่อมีเด็กอยู่ในรถ ทำได้ไม่ยาก เพียง 7 ข้อเท่านั้น!

สำหรับผู้ใช้รถที่มีบุตรหลาน หลายครั้งคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพาไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งบางคนอาจจะเคยชินที่เอาเด็กขึ้นรถมาแล้วปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น แล้วมัวแต่ใช้สมาธิกับธุระหรือการขับรถของตน โดยการกระทำเช่นนี้ ถือว่าไม่สมควรอย่างแรง เช่นนั้นแล้ว เพื่อป้องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก Chobrod มีข้อควรระวังเมื่อมีเด็กอยู่ในรถมาแนะนำให้ท่านทราบ ทำได้ไม่ยากเลย

สิ่งที่ควรระวังเมื่อมีเด็กอยู่ในรถ

1. อย่าปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพัง

อย่างที่รู้กันว่าเด็กมักเล่นอะไรไปเรื่อยตามประสา การปล่อยให้เด็กอยู่ในรถตามลำพัง จึงรับประกันไม่ได้ว่าบุตรหลานของคุณจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ไปเผลอเข้าเกียร์ จนรถไหลไปชนกับบางสิ่งให้ได้รับความเสียหาย หรือเผลอล็อกประตูรถโดยไม่รู้ จนต้องวิ่งตามกู้ภัยมาช่วยกันให้วุ่น ทางที่ดีพาลงจากรถไปด้วยจะดีกว่า จะได้ไม่เสียทั้งเงินทั้งเวลาโดยใช่เหตุ 

​การปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพัง อาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนได้
การปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพัง อาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนได้

2. ห้ามทิ้งให้เด็กนอนในรถ

ไม่ว่าจะลงไปซื้อของ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ หากมีบุตรหลานนอนหลับอยู่ในรถ ให้พาลงไปด้วยทุกครั้ง อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้เด็กขาดอากาศหายใจอยู่บนรถ! เพราะการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ ทั้งไว้ขณะที่รถกำลังจอดอยู่นิ่ง ๆ นั้น พัดลมของเครื่องปรับอากาศจะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในรถ ทำให้มีก๊าซออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการหายใจนั่นเอง ซึ่งเด็กอาจเสียชีวิตได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ๆ 

​พัดลมแอร์ จะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในรถ
พัดลมแอร์ จะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในรถ

3. ห้ามให้เด็กนั่งตักขณะขับรถ 

ต่อให้คุณขับรถได้อย่างเชี่ยวชาญแค่ไหน ก็ไม่ควรให้เด็กนั่งตักขณะขับรถเด็ดขาด! เพราะตามธรรมชาติของเด็กมักจับนั่นจับนี่ไปเรื่อย ตัวคุณเองที่ทั้งขับรถไปด้วย ทั้งต้องดูแลลูกด้วย จะเสียสมาธิเอาได้ นอกจากนี้ หากเกิดอุบัติเหตุบุตรหลานของคุณอาจจะกระเด็นออกนอกตัวรถได้เลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ 

​การให้เด็กนั่งตักขณะขับรถจะทำให้เสียสมาธิ
การให้เด็กนั่งตักขณะขับรถจะทำให้เสียสมาธิ

ดูเพิ่มเติม
>> ควรหลบ ไม่ควรลน! นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้รถควรทำเมื่อเจอรถฉุกเฉิน!
>> ดูก่อนใคร!! รถใหม่ที่จะเปิดตัวเดือน กันยายน 2019

4. หากจอดรถทำธุระ ควรเปิดกระจกไว้ 1/4 ของทุกด้าน

หากจอดรถทำธุระ ควรลดกระจกลง 1/4 ของทุกด้าน เพื่อให้เด็กมีอากาศหายใจ และป้องกันหากเด็กเผลอล็อกรถ กรณีที่จอดรถไว้กลางแดด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 10 นาที เนื่องจากความร้อนที่สะสมมาเรื่อย ๆ จะทำให้บุตรหลานของท่านได้รับอันตรายได้ 

​ควรเปิดประจกให้เด็กมีอากาศหายใจ
ควรเปิดประจกให้เด็กมีอากาศหายใจ

5. ควรให้เด็กนั่งคาร์ซีท หรือนั่งประจำที่ 

หากมีลูกหลานเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ ควรติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก เพื่อลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุให้บุตรหลานของคุณ เพราะถึงแม้ว่าจะอุ้มลูกไว้แนบกับอก แต่หากเกิดอุบัติเหตุอย่างกะทันหันขึ้นมา แน่นอนว่า เด็กต้องโดนแรงกระแทกก่อนเต็ม ๆ จนอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ, พิการ หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว แต่สำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อย ควรให้นั่งประจำที่ พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะจะช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการกระแทกได้ แถมยังไม่เสี่ยงกระเด็นออกไปนอกตัวรถ กรณีเกิดการชนอย่างรุนแรงอีกด้วย

​ควรติดตั้งคาร์ซีทให้เด็กเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น
ควรติดตั้งคาร์ซีทให้เด็กเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น

​สำหรับเด็กโตควรให้นั่งประจำที่พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย
สำหรับเด็กโตควรให้นั่งประจำที่พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย

6. ใช้ปุ่ม Child Lock ทุกครั้ง

โดยปกติแล้ว ในรถยนต์เกือบทุกรุ่น จะมีระบบความปลอดภัยที่เรียกว่า Child Lock หรือ ล็อกป้องกันเด็กมาให้ ข้อดีของเจ้าสิ่งนี้ คือ ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเปิดประตูขณะที่รถกำลังแล่นได้ ซึ่งข่าวเด็กตกจากรถ คงพอเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคนได้บ้าง ว่าไม่ควรให้เด็กซุกซนจนเผลอเปิดประตูรถเอง เพราะถ้าตกลงมา ไม่พิการก็ตายแน่ ๆ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรใช้ปุ่ม Child Lock ก่อนขับรถทุกครั้ง

​ก่อนสตาร์ทรถอย่าลืมกดปุ่ม Child Lock ทุกครั้ง
ก่อนสตาร์ทรถอย่าลืมใช้ปุ่ม Child Lock ทุกครั้ง

7. ไม่ควรขับรถด้วยความเร็วจนเกินไป

พ่อแม่ผู้ปกครองบางคนคงซิ่งรถด้วยความเคยชิน จนบางครั้งไม่ทันระวังตอนเลี้ยว หรือตีโค้ง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมาก! เพราะเด็กอาจได้รับบาดเจ็บจากการกระแทก เวลารถเหวี่ยง ดังนั้น ควรขับช้า ๆ และระมัดระวังเวลาเข้าโค้ง หรือเลี้ยว เพื่อความปลอดภัยของเด็กเอง ที่สำคัญยังลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวได้อย่างดีอีกด้วย

​หากมีเด็ดอยู่ในรถ ไม่ควรขับรถเร็วจนเกินไป
หากมีเด็ดอยู่ในรถ ไม่ควรขับรถเร็วจนเกินไป

อย่างไรก็ดี เมื่อรู้ข้อควรปฏิบัติแล้ว ก็อย่าประมาทที่จะดูแลบุตรหลานของคุณให้ดี อย่าคิดว่าปล่อยทิ้งไว้แล้วจะไม่เป็นไร เพราะที่ผ่านมา ข่าวอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดกับเด็กก็มีมาให้เห็นเป็นอุทาหรณ์อยู่บ่อย ๆ  ด้วยความหวังดีจาก Chobrod 

ดูเพิ่มเติม
>> Subaru Forester 2019 จัดเทสต์ ECO Run ได้อัตราสิ้นเปลือง 17.15 กม./ลิตร บนเส้นทาง ปีนัง-กรุงเทพฯ ระยะกว่า 1,300 กม.
>> Nissan Note 2019 เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ ราคาเริ่มต้น 609,000 บาท พร้อมสเปคครบเครื่อง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้