เมื่อพูดถึงรถยนต์มือสอง หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงรถเต็นท์ และอาจจะเกิดความสงสัยตามมาว่าซื้อรถเต็นท์ดียังไง ทำไมควรซื้อรถเต็นท์ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
การซื้อรถเต็นท์ เป็นการซื้อรถยนต์มือสองผ่านคนกลาง หรือผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ (เจ้าของเต็นท์) ไม่ใช่การซื้อขายโดยตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ซึ่งเจ้าของเต็นท์จะรับซื้อรถมา แล้วนำมาขายต่อที่เต็นท์อีกที โดยจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถเต็นท์แบบผ้าใบ และรถเต็นท์แบบโชว์รูม
ซึ่งคำถามที่มักจะเกิดตามมาเมื่อนึกถึงคำว่า “รถเต็นท์” นั่นก็คือ ซื้อรถเต็นท์ดียังไง? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร? หากกำลังหาคำตอบอยู่ ในบทความนี้มีเฉลยมาฝาก
ดูเพิ่มเติม
>> 6 อันดับ เต้นท์รถมือสองยอดนิยมในกรุงเทพฯ
1. มีรถหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือก
สามารถเลือกได้ทุกรุ่นตามงบประมาณที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งบางเต็นท์มีรถมือสองเป็นร้อย ๆ คัน ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง รถอเนกประสงค์ รถกระบะ รถตู้ รวมถึงรถหรูแบรนด์ยุโรป
2. สะดวกสบายด้วยบริการจัดไฟแนนซ์
หลาย ๆ เต็นท์จะมีบริการจัดไฟแนนซ์และให้คำปรึกษาถึงหน้าบ้าน พร้อมอำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยดำเนินการให้ ไม่ต้องทำเอง และอนุมัติไว ไม่ต้องรอนาน ทำให้เป็นเจ้าของรถได้ง่ายกว่าการยื่นขอไฟแนนซ์ด้วยตัวเอง
3. มีการรับประกันหลังการขาย
โดยจะรับประกันตัวรถ หรือเครื่องยนต์ หรือเกียร์ หลังการขาย 7 วัน หรือ 30 วัน หากมีปัญหาด้านการใช้งาน เต็นท์รับซ่อมให้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
4. มีบริการก่อน-หลังการขาย
เช่น เช็กระบบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนรับรถ, เติมน้ำมันเต็มถังให้ก่อนรับรถ, บริการจัดส่งรถถึงหน้าบ้าน, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน, บริการยกรถทั่วประเทศ, บริการด้านกุญแจฉุกเฉิน, บริการ Call Center ตลอด 24 ชม. ทั่วประเทศ เป็นต้น ต่างจากรถบ้านที่จะไม่มีบริการเหล่านี้มอบให้
อ่านเพิ่มเติม >>
1. เสี่ยงต่อการถูกย้อมแมว
หรือการนำรถสภาพแย่มาปรับแต่งสภาพรถให้ดูดี เพื่อบวกเอากำไรเพิ่ม เมื่อใช้แล้วอาจเกิดปัญหาตามมา จนได้ "ซื้อมาซ่อม" แทนการ “ซื้อมาใช้” ก่อนซื้อจึงควรเลือกเต็นท์รถที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ หรือพาผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดูให้ก็ได้
2. เช็กประวัติรถ/ผู้ขายไม่ได้
เนื่องจากไม่ได้ซื้อกับผู้ขายโดยตรง จึงไม่สามารถเช็กประวัติผู้รถหรือผู้ขายได้ว่ารถคันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง เคยเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ หรือผู้ขายดูแลดีมากน้อยแค่ไหน
3. ราคาแพงกว่ารถบ้าน
หากเป็นรถบ้าน คุณอาจจะได้เห็นสภาพรถจริง ๆ ที่ยังไม่มีการปรับแต่งแต่อย่างใด ราคาที่ได้ก็จะตั้งตามสภาพที่เกิดขึ้น ส่วนรถเต็นท์นั้นจะมีการปรับปรุงซ่อมแซมให้ดูดีขึ้น และมีการบวกกำไรเพิ่ม ราคาจึงอาจสูงกว่ากว่ารถบ้านที่ซื้อกับเจ้าของรถโดยตรง
ในการซื้อรถเต็นท์ ควรเลือกผู้ขายที่มีความน่าเชื่อถือ เจ้าของเต็นท์ต้องมีการจดทะเบียนประกอบการ และมีใบประกอบกิจการขายรถมือสองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วอย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถให้ดี ทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่าง ๆ และทดลองขับก่อนซื้อ เช็กให้ดีว่าขับขี่โอเคไหม พร้อมใช้งานแค่ไหน หรือมีอาการขัดข้องที่จุดไหนหรือเปล่า เพื่อป้องกันรถย้อมแมว
ขอบคุณข้อมูลจาก kasikornbank, krungsri
หากสนใจรถมือสอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
ตลาดรถมีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ