ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนดี แล้วควรเลือกซื้อกับบริษัทไหน ที่นี่มีคำตอบให้คุณ

ประสบการณ์ใช้รถ | 2 ต.ค 2562
แชร์ 1

ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนดี อย่างไร ซื้อที่ไหนดีสุด? รวมทุกเรื่องของการเลือกประกันรถยนต์ที่คุณอยากรู้ไว้ที่นี่แห่งเดียว

ประกันภัยรถยนต์แบบไหนดี

ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนดี

ประกันรถยนต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องทำ ซึ่งประโยชน์หลักคือช่วยรับภาระด้านค่าใช้จ่ายเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่ารถคันไหนจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม โดยขอบเขตความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับชนิดที่เจ้าของรถเลือกซื้อ ซึ่งมีมากมายหลายแบบให้เลือกตามความต้องการ หากใครที่เคยมีรถยนต์ หรือมีประสบการณ์ทำประกันภัยรถยนต์มาแล้ว การเลือกชนิดของประกันภัยให้เหมาะสมอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับเจ้าของรถมือใหม่ คงต้องใช้เวลาในศึกษาสักนิด โดยวันนี้ ทาง chobrod.com เราได้รวบรวมข้อมูลชนิดประกันภัย และ 5 อันดับ บริษัทประกันที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกประกันรถยนต์ได้เหมาะสมยิ่งขึ้นค่ะ

ซื้อประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์มีกี่แบบ

หลักๆแล้ว ประกันภัยรถยนต์แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ

1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

หรือเรียกง่ายๆว่า พ.ร.บ ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง ซึ่งทางกฎหมายบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องมี โดยของเขตของ พ.ร.บ จะครอบคลุมเฉพาะเรื่องค่ารักษาพยาบาลของคนเจ็บจากอุบัติเหตุเท่านั้น จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ

2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1,2,2+,3+ และ 3 ที่ทางบริษัทประกันมักนำมาเสนอให้เราได้เลือกจนตาลาย ซึ่งเราจะสมัครทำหรือไม่ก็ได้ตามใจ ไม่มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด โดยประกันรถยนต์ประเภทนี้ จะครอบคลุมในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของคนเจ็บจากอุบัติเหตุ และค่าซ่อมรถหรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นด้วย แต่จะคุ้มครองตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น หากมีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน เราต้องจ่ายเอง สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละประเภทนั้น มีรายละเอียดดังนี้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 1

ขอบเขตความคุ้มครองครอบคลุมในทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงกรณีสูญหาย และไฟไหม้อีกด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส)
ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันภัยชั้น 1 แต่เฉพาะกรณี “รถชนรถ” เท่านั้น รถที่ทำประกันจึงจะได้รับความคุ้มครอง ไม่รวมกรณีสูญหาย หรือไฟไหม้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 2

ให้ความคุ้มครองครอบคลุมในอุบัติเหตุคล้ายประกันชั้น 1 แต่เมื่อเกิดชนจะให้ความคุ้มครองรถของคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองรถเรา

  • ประกันรถยนต์ชั้น 3+  (สามพลัส)

ให้ความคุ้มครองครอบคลุมในอุบัติเหตุ “รถชนรถ” เท่านั้น รถที่ทำประกันจึงจะได้รับความคุ้มครอง ไม่รวมกรณีสูญหาย หรือไฟไหม้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 3

จะให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีสูญหาย และไฟไหม้ค่ะ

ซื้อประกันรถยนต์แบบไหนดี

ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บาดเจ็บเท่านั้น ไม่รวมค่าซ่อมรถ

 

ความเหมาะสมของซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละแบบ

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแบบไหนดี เรามีหลักเกณฑ์ง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณทราบความต้องการของตนเอง และเลือกตัดสินใจได้เร็วขึ้นค่ะ

เลือกประกันรถยนต์ชั้น 1

  • รถใหม่ป้ายแดง
  • มือใหม่หัดขับ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการขับขี่ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง
  • ต้องการความคุ้มครองครอบคลุมในทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
  • ต้องการความคุ้มครองกรณี รถหาย น้ำท่วม ไฟไหม้ เพิ่มเติม
  • รักรถมาก ไม่เดือดร้อนเรื่องเบี้ยประกัน

เลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+  

  • มีประสบการณ์ขับรถมาก่อน
  • ระยะเวลาที่ผ่านมาสามารถขับขี่โดยไม่มีการแจ้งเคลมประกันเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย
  • เน้นให้ความคุ้มครองรถเราเอง และต้องการประกันภัยราคากลางๆ
  • รถที่ทำประกันอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป
  • เมื่อเกิดอุบติเหตุต้องระบุคู่กรณีได้ และต้องชนกับยาพาหนะทางบกเท่านั้น

เลือกประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 3

  • ต้องการประกันภัยราคาถูกมากๆ เน้นคุ้มครองคู่กรณีเป็นหลัก
  • รถใช้งานน้อย ส่วนใหญ่ขับระยะใกล้
  • รถมีอายุมาก 7 – 10 ปีขึ้นไป
  • ต้องการแค่ให้รถยนต์มีประกันเผื่อเกิดอุบัติเหตุ

ประกันรถยนต์ที่ไหนดีสุด

5 บริษัทประกันรถยนต์ที่ได้รัความนิยมสูงสุด

อ่านเพิ่มเติม:
>> 
รวมคำถามล้วงคำตอบเรื่อง “ประกันภัยรถยนต์” ที่เราไม่เคยรู้ !!
>> สรุป 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ที่ 23-29 กันยายน 2562

ทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี

เมื่อทราบประเภทของประกันภัยที่เราต้องการแล้ว ก็เป็นเรื่องของบริษัทประกันรถยนต์ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งมีหลักง่ายๆในการเลือกคือ ต้องการซ่อมห้างหรือซ่อมอู่  ความน่าเชื่อถือ และเบี้ยประกัน โดยมี 5 อันดับแหล่งประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ดังนี้

1. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่น:

  • ให้ความคุ้มครองทันทีหลังทำประกันเรียบร้อยแล้ว
  • เมื่อประสบอุบัติเหตุ สามารถโทรเรียกประกันเคลมได้ทันที
  • บริการรวดเร็ว

จุดด้อย

  • เบี้ยประกันสูงกว่าแห่งอื่น

2. บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่น

  • เบี้ยประกันถูก คุ้มค่า ไม่สูงจนเกินไป
  • การเคลมรวมเร็ว
  • อู่ซ่อมบริการดี และมีจุดบริการมากมายทั่วประเทศ สามารถส่งซ่อมที่อู่ใกล้บ้านได้

จุดด้อย

  • ติดต่อยากในบางครั้ง

3. บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่น

  • เบี้ยประกันถูก
  • การเคลมและจ่ายเงินประกันรวดเร็ว
  • ให้วงเงินคุ้มครองสูงที่สุด

จุดด้อย

  • เขตต่างจังหวัดมีอู่ซ่อมน้อย

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่น

  • เคลมง่าย และรวดเร็ว
  • คุ้มครองคลอบคลุมหลายกรณี
  • มีความคุ้มครองให้เลือกหลายแบบ
  • พนักงานบริการดี ตอบปัญหาได้ครบถ้วน

จุดด้อย

  • จุดบริการไม่กระจายคลอบคลุมเท่าวิริยะประกันภัย
  • เบี้ยประกันสูงเล็กน้อย

4. บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่น

  • เบี้ยประกันถูก
  • มีความคุ้มครองให้เลือกหลากหลาย

จุดด้อย

  • มาตรฐานการบริการของพนักงานไม่เท่ากัน บางแห่งบริการดีมาก บางแห่งยังต้องปรับปรุง
  • การเคลม ยังไม่รวดเร็ว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลประกันภัยรถยนต์ทาง chobrod.com ได้นำมาฝาก หวังว่ารายละเอียดข้างต้นจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกทำประกันได้เหมาะสมกับความต้องการมากขึ้นนะคะ แม้ว่าจะมีประกันรถยนต์แล้ว แต่สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือ “ขับรถอย่างมีสติ” เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนทุกคนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม:
>>ขับรถลุยน้ำอย่างไรไม่ให้รถพัง พร้อมวิธีบำรุงรถหลังพาลุยน้ำท่วม
>>ขนส่งแนะ ต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้า 3 เดือน ทำได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

Maneerat.P